ครั้งแรกของพวกเราที่ได้มาเที่ยวอำเภอ บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ตรงกับช่วงการจัดงานงิ้วเจ้าพ่อแก้วประจำปี พอดี ทริปนี้จึงเหมือนการได้มาเปิดหูเปิดตา รู้จักประเพณี และสถานที่เก่าแก่ที่ได้รับการเก็บรักษาไว้มากมาย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอำเภอน่ารักแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า ‘บางมูลนากเมืองน่าอยู่’
บางมูลนาก ในอดีตคือเมืองภูมิ (เมืองขึ้นของเมืองพิจิตร) หรือ ‘อำเภอภูมิ’ ซึ่งภายหลังจากปี พ.ศ. 2460 ที่นี่ได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่ตามทำเลที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอเมืองภูมิ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลบางมูลนากมาก่อน ก่อนจะมีการย้ายที่ว่าการอำเภอแห่งนี้มาตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านตัวอำเภอจนถึงปัจจุบัน ซึ่งที่มาของชื่อ ‘บางมูลนาก’ นั้นชาวบ้านเล่าว่า ในอดีต ‘คลองบุษบง’ ที่ตัดผ่านตัวเมืองนั้นมีนากอาศัยอยู่ชุกชุมอย่างมาก และทำให้พื้นที่ตรงนั้นเต็มไปด้วยมูล หรือ ‘ขี้นาก’ ที่นี่จึงถูกเรียกว่า ‘บางขี้นาก’ ก่อนจะเปลี่ยนบางมูลนากอย่างในปัจจุบันนั่นเอง
สำหรับเราที่นี่ไม่เพียงแค่เป็นเมืองน่าอยู่อย่างเดียว เราขอเติมสอยห้อยท้ายไปด้วยว่า ‘ผู้คนน่ารัก’ ไม่แพ้กัน นั่นเพราะพวกเราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบางมูลนาก และได้เห็นความร่วมมือร่วมใจของชาวบางมูลนากทุกเพศและวัย ในงานประจำปีเจ้าพ่อแก้ว 2565 หรือ ที่เรียกกันอีกชื่อว่า ‘งานงิ้วเจ้าพ่อแก้ว’ ที่ในปีนี้จัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 16 – 21 ธันวาคม ที่กำลังจะผ่านพ้นไป
อลังการงานเจ้าพ่อแก้วประจำปี
‘องค์เจ้าพ่อแก้ว’ คือศูนย์รวมใจของชาวบางมูลนาก องค์เจ้าพ่อแก้วคือไม้แกะสลักที่ลอยตามน้ำมาในแม่น้ำน่าน ถูกพบครั้งแรกในปีพ.ศ.2477 โดยนายห้อย แซ่ลี้ ช่างตีเหล็กเจ้าของร้านลี้เต็กเส็ง นายห้อยได้นำไม้แกะสลักนี้ไปให้ช่างฝีมือที่วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ที่กรุงเทพฯ ปรับแต่งให้เรียบร้อย ก่อนจะประกอบพิธีกรรมแล้วอัญเชิญเจ้าพ่อกลับมาประดิษฐานยังศาลไม้หลังเล็กริมแม่น้ำน่าน ก่อนจะย้ายมาประดิษฐานภายในศาลเจ้าหลังใหม่ บริเวณซอยประเทืองถิ่น 2 ใกล้กับที่ว่าการอำเภอบางมูลนาก ที่ถูกสร้างขึ้นแทนศาลหลังเก่าซึ่งถูกเพลิงไหม้
การแห่อัญเชิญเจ้าพ่อแก้ว บางมูลนาก เป็นประเพณีที่ชาวไทยเชื้อสายจีนในบางมูลนาก ร่วมสืบสานต่อกันมานานกว่าร้อยปี พวกเรามีโอกาสได้เข้าไปดูการเตรียมความพร้อมก่อนการแห่อัญเชิญเจ้าพ่อแก้วบางมูลนากแบบใกล้ชิด ตั้งแต่เช้ามืดวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม ชมเบื้องหลังการแต่งหน้าของเหล่าเอ็งกอตัวน้อย เก็บภาพความคึกคักระหว่างการแห่เจ้าพ่อแก้วรอบตลาดในช่วงเช้า เพลิดเพลินกับขบวนแห่สิงโต มังกร เอ็งกอ ล่อโก้ว ถือเปีย ตบท้ายวันด้วยการชมมหรสพทั้งงิ้ว ลิเก การแสดงจากขบวนแห่เพื่อถวายแด่พ่อแก้ว และการประมูลสิ่งของที่ใช้ในการจัดงาน หน้าศาลเจ้าชั่วคราวบริเวณสนามหน้าโรงเรียนอนุบาลบางมูลนาก “ราษฎร์อุทิศ” ใกล้กับถนนคนเดินบางมูลนาก แบบเต็มอิ่ม เต็มวัน โดยไม่มีเบื่อ
หากมีโอกาสเราอยากให้ทุกคนแวะมาเที่ยวบางมูลนากสักวันสองวัน หรือได้ลองมาเที่ยวในช่วงการจัดงานประจำปีในเดือนธันวาคมปีหน้า เสียงลั่นกลอง กลิ่นและเสียงของประทัด ขบวนเชิดสิงโต เสียงตะโกนอ้าวเหยของเหล่าเอ็งกอ เป็นบทสรุปของความประทับใจที่ยังคงชัดแจ้ง งานแห่เจ้าพ่อแก้วสนุกมาก!
พิพิธภัณฑ์มีชีวิตตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก
วันต่อมาเราได้มาเยี่ยมอีกหนึ่งมุมเมืองรุ่มรวยเสน่ห์ในซอยประเวศใต้ เดินเลาะริมน้ำน่านไปชมวิถีชีวิต ผู้คน บ้านไม้ในตลาดฟื้นอดีต เรื่อยไปจนถึงตลาดสดเทศบาลบางมูลนาก ย่านนี้คือย่านการค้าเก่าแก่ที่เคยรุ่งเรือง ครั้งหนึ่งเคยถูกเพลิงไหม้ ปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้ได้รับการเก็บรักษาและฟื้นฟูให้อาคารบ้านเรือนหลังเก่ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ตลาดฟื้นอดีต บางมูลนาก ได้รับการอนุเคราะห์จากบุตรหลานของขุนวินิจสุขกรรม ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่งต่อให้มูลนิธิแก้วคุ้มครอง หน่วยงานภาครัฐ และชาวบ้านในชุมชน ร่วมกันพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอ เราจะได้พบศาลเจ้าพ่อแก้วหลังเดิมที่ผ่านการบูรณะใหม่ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ได้เห็นโรงเตี๊ยมบางมูลนาก รวมถึงร้านค้าเก่าแก่อย่างร้านพ้งล่ง ซึ่งเคยเป็นร้านขายราดหน้ามาก่อน และร้านเสริมศิลป์ ที่ได้รับการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ชาวบางมูลนาก สถานที่จัดแสดงนิทรรศการเล่าเรื่องราวในอดีต เป็นร้านกาแฟระเกะระกะคาเฟ่ในวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำให้มาช่วงสาย ๆ เพราะเราอยากให้เดินไปสัมผัสความคึกคักของตลาดสดบางมูลนากยามเช้ากันก่อน
ตลาดเช้าคึกคัก อาหารตามสั่งรสเด็ด
หากมาถึงตลาดสดบางมูลนากแล้ว ไม่ควรพลาดอุดหนุนพ่อค้าแม่ขาย ซื้อของฝากผักปลา มีให้เลือกมากมาย และไปต่อกันที่ร้านโง้ว เซ็ก บี่ ร้านอาหารตามสั่งริมถนนนาคเรศน์ ซอยก่อนถึงตลาดสดบางมูลนาก ที่ชาวบางมูลนากแนะนำให้พวกเรามากิน และให้ลองสังเกตว่า ถ้ามีตัวนากยืนหน้าร้านไหน ร้านนั้นคือการันตีความอร่อย สั่งโกยซีหมี่ ต่อด้วยผัดซีอิ๊ว ผัดกระเพรากุ้ง ตบท้ายข้าวผัดหมู แบบเราก็ได้ ร้านเปิดราว 7 โมงเช้าแล้วขายจนถึงช่วงบ่ายหรือจนกว่าของจะหมด
อีกร้านแนะนำอยู่ห่างจากตลาดไปไม่ไกลนัก ร้านข้าวแกงตาหนู ก็มีอาหารตามสั่ง ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง-หมูกรอบอร่อย ๆ ข้าง ๆ กันเป็นร้านยายอู๊ดกาแฟโบราณ ที่สามารถสั่งกาแฟหรือชาร้อน ๆ ผ่านหน้าต่างร้านได้เลย
ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว เสน่ห์ ความทรงจำ เรื่องเล่า และมรดกทางวัฒนธรรมในอำเภอบางมูลนากอีกมากมาย ที่บอกเล่าความเป็นเมืองน่าอยู่อายุกว่า 120 ปี แห่งนี้ เที่ยวก่อนได้ ไม่ต้องรอให้ถึงธันวาคมปีหน้า ดูรายละเอียดได้ที่ www.bangmunnak.com
EXPLORERS: บาส, กิ๊บ, เฟี้ยต, ไอซ์, ปิง
AUTHOR/PHOTOGRAPHER: นวภัทร ดัสดุลย์