ปล่อยใจ เลย ตามเลย เที่ยวเชียงคานตามวิถีคนริมโขง ท่องภูหลวงถิ่นแดนผืนนาและป่าเขา สุขใจไปเลย 3 วัน 2 คืน
หากนับเฉพาะระยะทาง 540 กิโลเมตร โดยประมาณจากกรุงเทพฯ เลยอาจจัดว่าเป็นจังหวัดที่ขับรถไกลเอาการ ทว่าหากมัดรวมสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในเลยเข้าด้วยกัน ด้วยจำนวนหลักแหล่งที่คำนวนคร่าว ๆ ได้ว่ามีเวลาสองสัปดาห์ก็เที่ยวไม่หมด ดินแดนอีสานตอนบนแห่งนี้ถือว่าไม่ไกลเลย คุ้มค่าแก่การขับรถ 6-7 ชั่วโมงอย่างแน่นอน
นอกจากภูกระดึง และถนนคนเดินเชียงคานที่ฮิตติดลมบนไปแล้ว เลยยังมีเสน่ห์ให้ค้นหามากกว่านั้น นี่จึงเป็นที่มาของการนำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวบนฐานทุนท้องถิ่น ผ่านองค์ความรู้ วัฒนธรรม และธรรมชาติในจังหวัดเลย ที่ร่วมกันคัดสรรโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. และบ้านและสวน Explorers Club

นี่คือ 1 ใน 9 เส้นทางท่องเที่ยวที่เราอยากชวนมาสัมผัส ‘จิตวิญญาณแห่งไทย’ ที่เปี่ยมด้วยความสร้างสรรค์ เริ่มจากเที่ยวเชียงคาน เยี่ยมพิพิธภัณฑ์ประมงไทบ้านเล่าขานน้ำโขง ศูนย์เรียนรู้ประมงพื้นบ้านที่บอกเล่านิเวศสองฝั่งลำน้ำ ชนิดพันธุ์ปลา จนเครื่องมือทำประมงของชาวบ้าน
มาถึงแล้วห้ามพลาดล่องเรือไปดูตะวันลับฟ้า และลิ้มลองอาหารพื้นถิ่นบนแพริมโขงที่ปรุงโดยชาวบ้านจากวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรริมโขงและประมงพื้นบ้าน แล้วไปเตร่ให้เพลิดเพลินกับถนนคนเดินเชียงคานยามค่ำ

ก่อนลาเชียงคาน อยากชวนให้แวะไปเรียนรู้วิถีชีวิตชาติพันธุ์ไทดำ ลาวโซ่งหนึ่งเดียวแดนอีสานแห่งบ้านนาป่าหนาด จากนั้นข้ามอำเภอไปภูหลวง เพื่อเที่ยววิถีเกษตรแบบพึ่งพาตนเองที่บานาน่าเลย และตื่นเช้าไปดูทะเลหมอกบนภูป่าเปาะ สวรรค์ของผู้รักการผจญภัยและธรรมชาติ
ทั้งหมดนี้มีเวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน เราขอแนะนำเพราะเก็บได้ครบแน่นอน มาลงรายละเอียดกันทีละจุดเลย

เที่ยวเชียงคานตามวิถีคนริมโขง
ชุมชนประมง อ.เชียงคาน
แพริมโขงหลังนี้เป็นมากกว่าสิ่งปลูกสร้าง แต่คือศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาวประมงพื้นถิ่น ที่จะทำให้เราเที่ยวเชียงคานและล่องน้ำโขงได้ลึกซึ้งและอิ่มเอมใจมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
ที่นี่มีการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรริมโขงประมงพื้นบ้านเชียงคานเพื่อดำเนินกิจกรรมนำเที่ยวอย่างเป็นกิจลักษณะ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจาก อพท. ในการผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อสร้างรายได้คืนสู่ชาวบ้านอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะกิจกรรมล่องเรือนำเที่ยวตามลำโขง ไปชมทิวทัศน์ยามเย็นสองฝั่งไทย-ลาว ที่เราจะได้เห็นฟ้าสีทองประกายฉาบผิวน้ำสุดประทับใจ พร้อมดูฝูงนกบินกลับบ้านช่วงตะวันลับฟ้า

แต่ก่อนล่องเรือเที่ยว ขอแนะนำให้มาถึงเร็วหน่อยเพื่อไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ในแพ ที่พิพิธภัณฑ์ประมงไทบ้านเล่าขานน้ำโขง ศูนย์เรียนรู้ประมงพื้นบ้านเชียงคานที่จัดแสดงเครื่องไม้เครื่องมือในการจับปลาสารพัดชนิด เรื่องราวของปลาหลากหลายสายพันธุ์ที่ทั้งหาดูได้ยากและยังพอมีให้เห็นในปัจจุบัน ภาพที่สะท้อนวิถีคนริมโขงที่เชื่อมโยงวิธีการดำรงชีพจากบรรพบุรุษ และความเป็นไปของลำน้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงคนสองฝั่งลาว-เลย ที่บางสิ่งเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา บางอย่างก็ยังคงอยู่ มีความรู้ให้เก็บกลับบ้านเต็มกระบุง

ขึ้นฝั่งแล้วก็อย่าเพิ่งด่วนลา อยากให้ลองสั่ง (โทรแจ้งล่วงหน้า) อาหารท้องถิ่นที่ปรุงโดยแม่ครัวในชุมชน (ขนของมาทำให้กินสด ๆ ในครัวบนแพนี่แหละ) โดยเฉพาะเมนู ส้าปลา นำปลาน้ำโขงมาโขลกกับเครื่องเคียง กินกับผักสด ๆ และข้าวเหนียวร้อน ๆ เข้ากันดีมาก ๆ ตามด้วย ซั่วปลา (ต้ม) ที่ตักใส่ชามใหญ่ ๆ มาให้ซดน้ำแกงร้อน ๆ อร่อยสุด ๆ
ใครชอบเที่ยวแบบนี้สอบถามรายละเอียดได้ที่เพจ Hug ChaingKhan วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรริมโขง & ประมงพื้นบ้าน หรือโทรตรง ตุ๊ก – ชาญณรงค์ วงศ์ลา เลขานุการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกตรริมโขงประมงพื้นบ้านเชียงคาน ได้เลยที่เบอร์ 08-9021-2004








ชุมชนไทดำ อ.เชียงคาน
20 นาทีจากตัวอำเภอเชียงคาน ขอแนะนำให้มาสัมผัสจิตวิญญาณแห่งไทยของชาวไทดำ ณ โฮมสเตย์แห่งบ้านนาป่าหนาด ผ่านภูมิปัญญาการทอผ้าที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ ที่นี่คือเฮือนอ้ายเอ้ม แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาฅนไทดำ ที่ขึ้นชื่อเรื่องผ้าไหมฝ้ายเขนมือ (ทอมือ) ลายนางหาญ และลายแตงโม ซึ่งชาวบ้านนาป่าหนาดรวมกลุ่มจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนขึ้น เพื่อร่วมกันอนุรักษ์และต่อยอดภูมิปัญญาของชาวไทดำ รวมถึงเป็นการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในทางหนึ่ง

นอกจากได้ยลวิถีการทอผ้าจากฝ้ายที่ปลูกเองด้วยกลุ่มสตรีชาวไทดำ ที่เฮือนอ้ายเอ้ม คุณจะได้รู้ซึ้งถึงเสน่ห์ของการท่องเที่ยวชุมชนแบบลึกซึ้ง ได้ลองทำตุ้มนกตุ้มหนูดอกไม้ไทดำ ที่ใช้ประดับต้นปางในพิธีแซปางเพื่อขอบคุณผีฟ้าผู้คอยปกปักษ์รักษาชาวไทดำให้อยู่เย็นเป็นสุข และทำหัวใจไทดำด้วยเส้นฝ้ายเส้นไหมและปลอกไหมที่เหลือจากการทอผ้า จนถึงกิจกรรมการสปาเท้าจากสมุนไพรพื้นถิ่นของไทดำ พร้อมการนวดเพื่อความผ่อนคลายโดยคุณป้าคุณยายมือหนักแต่ใจดี
ใครชอบเที่ยวแบบนี้ ติดตามรายละเอียดได้ที่เพจ เฮือนอ้าย เอ้ม แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาฅนไทดำ ผ้าทอมือนางหาญ วิถีชีวิตไทดำ หรือโทร. 08-0195-5199







ท่องภูหลวงถิ่นแดนผืนนาและป่าเขา
บานาน่าเลย อ.ภูหลวง
จากเชียงคานราวชั่วโมงครึ่ง เราขอแนะนำให้คุณเดินทางมาถึงภูหลวง มาอยู่กับความสงบเงียบและสูดไอดินกลิ่นธรรมชาติเมืองเลยสักคืนที่ บานาน่าเลย ดินแดนกล้วย ๆ ของ บั้ม – ลักขณา แสนบุ่งค้อ ที่มีลานกว้าง ๆ ให้นอนชมดาวกลางทุ่งนา แถมตื่นเช้ามายังได้ชมไอหมอกลอยเคล้าวิว ‘ภูหอ’

หลังจบรายการเรียลลิตี้โชว์ Win Win War Thailand ที่เฟ้นหาผู้ประกอบการที่มีธุรกิจสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม บั้มได้นำประสบการณ์และคำแนะนำจาก โค้ชเจ – คุณเจรมัย พิทักษ์วงศ์ หนึ่งในคณะกรรมการของรายการกลับมาต่อยอดแนวคิด พัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนด้วยการใช้บริบททางกายภาพ รากเหง้าและภูมิปัญญาเป็นใบเบิกทาง กระตุ้นให้ชาวบ้านเล็งเห็นคุณค่าและฐานทุนท้องถิ่นที่มี จนพัฒนาบานาน่าเลยให้กลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวน่ามาเยือนและสัมผัสบรรยากาศดี ๆ แบบนี้สักครั้งถ้ามาถึงภูหลวง

ที่นี่คือแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมที่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี มีกิจกรรมดำนาปลูกข้าว เกี่ยวข้าว จับปูนา นั่งเตียงแคร่แช่น้ำสมุนไพร ชมการทอผ้า การปั่นฝ้าย ถ่ายรูปกับปราสาทกลางทุ่ง นอนโฮมสเตย์ และยังสามารถไปขึ้นเขาเพลินใจกับแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่าง ภูป่าเปาะ จุดชมวิวภูหอและทะเลหมอกในอีกฝั่งเขา ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ ทักไปหาบั้มที่เพจ บานาน่าเลย – Banana Loei ได้เลย










เลยมีเสน่ห์มากกว่าที่คุณคิด นอกเหนือจาก 3 แหล่งท่องเที่ยวที่เรากล่าวถึงที่สามารถเที่ยวได้ครบ จบใน 3 วัน 2 คืน หากคุณมีเวลามากกว่านั้น เรายังมีชุมชนแนะนำในเครือข่ายของ อพท. ที่สามารถท่องเที่ยวบนฐานทุนท้องถิ่นได้อย่างเพลิดเพลินไม่แพ้กัน
อาทิ การไปเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนริมแม่น้ำเหืองที่ชุมชนอาฮี อ.ท่าลี่ ยลวิถีการทำหน้ากากผีตาโขน และตุ๊กตาผีตาโขนกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านปากหมัน อ.ด่านซ้าย รวมถึงเที่ยวในตัวเมืองเลยที่ชุมชนไร่ม่วง ที่มีเส้นทางวิ่งเทรลในสวนสับปะรดเป็นไฮไลต์ และเที่ยวชุมชนห้วยม่วง ที่มีจุดชมวิวภูเขาหินปูนใกล้เมือง และไหว้พระในถ้ำสำหรับนักท่องเที่ยวสายมูให้ตามไปเก็บให้ครบ

ด้วยแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและประเพณี ทุนธรรมชาติและภูมิทัศน์ที่หลงเสน่ห์ได้ไม่ยาก ประกอบกับสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปี จากคำถามว่า ทำไมต้องไป เลย เมื่อได้ไปแล้วผมได้คำตอบว่า “ไปเถอะ รีบไปเลย ไปตอนนี้ได้ยิ่งดีเลย”
รักเลย ไปช่วยกันประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ของเมืองเลยให้ดังไกลสู่สายตาคนทั่วไปกันเยอะ ๆ
EXPLORERS: เฟี้ยต, ปุ๊กกี้, เจี๊ยบ, ปลา, บอม, ไอซ์, ปิง
AUTHOR: เฟี้ยต-นวภัทร ดัสดุลย์
PHOTOGRAPHER: บอม-ธนายุต วิลาทัน
