นี่คือบรรยากาศการพาแฟนเพจลงพื้นที่ทำงานตามแนวทาง Explorers Club ลำบากนิดๆ ทุลักทุเลหน่อยๆ ช่วยชาวโคกตาหอม เก็บขยะชายหาด ตั้งแค้มป์ริมทะเล ตลอด 3 วัน 2 คืน ถูกย่อให้เหลือ 12 นาที
เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน สมาชิกบ้านและสวน Explorers Club นับสิบชีวิต พาผู้ร่วมอุดมการณ์ที่ไม่กลัวความทุลักทุเลอีกจำนวนหนึ่ง ไปทำภารกิจเป็นนักท่องเที่ยวจิตอาสากลุ่มแรก แคมปิ้งบนผืนทราย และเก็บขยะริมชายหาดโคกตาหอม ร่วมกับชาวบ้านในตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน
ก่อนอื่นอยากขอบคุณผู้สมัครกว่า 70 คน ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ‘แคมปิ้งชุมชน ชายหาดลับทับสะแก’ ในครั้งนี้ พวกเราได้อ่านทุกข้อความ ทุกเหตุผล จนแอบหนักใจและเสียดายอย่างยิ่งที่จะต้องคัดให้เหลือเพียง 3 คนสุดท้าย เพื่อลงพื้นที่ไปทำงานในแนวทางของ Explorers Club.สำหรับใครที่พลาดไป หวังว่าเราจะมีโอกาสพบกันอีกในทริปหน้า แน่นอนว่าพวกคุณจะเป็นคนกลุ่มแรกที่เรานึกถึง ส่วนจะเป็นที่ไหนให้รอติดตามนะ ระหว่างนี้อิ่มเอมกับภาพบรรยากาศที่เราเก็บมาฝากจากโคกตาหอมไปก่อน
แคมปิ้งชุมชน คืออะไร ทำไมต้องโคกตาหอม ?
‘แคมปิ้งชุมชน’ เป็นคำที่ ‘พี่งบ-ธัชรวี หาริกุล’ เอ่ยขึ้นเมื่อครั้งได้มาลองแคมปิ้ง กินนอนกลางทราย ที่ชายหาดโคกตาหอม ตามคำชักชวนของ ‘พี่ตู่-ไตรรัตน์ ทรงเผ่า’ พี่ใหญ่แห่งบ้านและสวน Explorers Club เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
พี่งบคือผู้ร่วมก่อตั้ง Thailand Outdoor และผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิธรรมชาติไม่จำกัด (Nature Unlimited Foundation) องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ส่งเสริมให้คนสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน และอยู่เบื้องหลังการพัฒนาเส้นทางเดินป่าในไทยหลายเส้นทาง แม้บางคนอาจไม่เคยได้ยินคำ ๆ นี้ แต่ ‘แคมปิ้งชุมชน’ แท้จริงแล้วไม่ใช่คำแปลกใหม่ พี่งบบอกว่า คำนี้มีตัวอย่างดีๆ ให้เห็นอยู่แล้วมากมายในหลากหลายประเทศ
แคมปิ้งชุมชน คือ การสร้างลานกางเต็นท์ในเขตพื้นที่ของชุมชน เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สิทธิ์เข้ามาลองสัมผัสวิถีชีวิต ลองกินอาหารพื้นบ้าน และลองปฏิบัติตามวัฒนธรรมของคนในพื้นที่นั้น ๆ ได้ อันรวมไปถึงการเข้าถึงธรรมชาติสวยงามที่ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยาน ไม่ใช่พื้นที่ของเอกชน แต่เป็นพื้นที่ในชุมชนที่ชาวบ้านเป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งบางแห่งนั้นยังไม่ถูกปรุงแต่งใด ๆ
ดังเช่น โคกตาหอม ซึ่งในปัจจุบันเป็นชายหาดที่ธรรมชาติยังคงบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งปลูกสร้างฝีมือมนุษย์ มีเพียงธนาคารปูและห้องน้ำ 1 ห้องที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ แต่มีศักยภาพที่สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนได้ในอนาคต
สิ่งที่พวกเราตั้งใจ คือการชวนคนไปเที่ยวแบบรับผิดชอบ หรือเที่ยวด้วยวลี ‘Leave no trace’ ดั่งคำที่ ‘พี่เจ-เจรมัย พิทักษ์วงศ์’ ผู้ก่อตั้ง บ้านและสวน Explorers Club มักย้ำกับพวกเราอยู่เสมอว่า “เที่ยวแบบไม่ทิ้งสิ่งแปลกปลอมใด ๆ นอกจากรอยเท้า เที่ยวแบบไม่เก็บสิ่งใดกลับออกมานอกจากภาพถ่าย และความทรงจำ เพื่อกลับไปเล่าต่อให้คนอื่นฟัง”
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ บ้านและสวน Explorers Club ร่วมกับ Thailand Outdoor Shop และ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดกิจกรรม EXCLUSIVE TRIP #01 ‘แคมปิ้งชุมชน ชายหาดลับทับสะแก’ เพื่อชักชวนผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน มาช่วยเราเป็นกระบอกเสียงและส่งต่อวัฒนธรรมการท่องเที่ยวแบบมีจิตสำนึก ซึ่งไม่เพียงแค่การพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน หากยังเป็นช่วยกันรักษาธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ให้สวยงามและน่าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่อไปในภายภาคหน้า
เราคาดหวังว่าการลงพื้นที่ทำกิจกรรมนี้ในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนชุมชนและสร้างความยั่งยืนได้ไม่มากก็น้อย เรามีความเชื่อว่า ‘แคมปิ้งชุมชน’ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริง ถ้าหากมีการเริ่มต้นก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนขึ้นมาเพื่อจัดการพื้นที่อย่างเป็นระบบและถูกวิธี หรือหากจำเป็นต้องก่อสร้างจุดบริการผู้มาพักแรมและสิ่งอำนวยความสะดวก ก็สามารถพึงกระทำภายใต้กรอบ อยู่ในความเหมาะสม โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อม ดัดแปลงพื้นที่จนสูญเสียธรรมชาติบริสุทธิ์ หรือกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ไปชั่วกาล
การไปช่วยเก็บขยะริมชายหาด ปัดกวาดป่าชุมชน และอุดหนุนอาหารทะเลสดจากชาวประมงในพื้นที่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งแท้จริงแล้วนั้นชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้เขาเล็งเห็นถึงคุณค่า และช่วยกันปกปักรักษาพื้นที่แห่งนี้ด้วยความหวงแหนโดยไม่ต้องมีใครมาบอกอยู่แล้ว พวกเราเพียงมาช่วยตอกย้ำเจตนารมณ์ของพวกเขาให้ดังยิ่งขึ้น
การกำจัดขยะในเขตป่าชุมชนริมชายฝั่งอาจไม่ใช่เรื่องยากสำหรับชาวบ้าน แต่ขยะทะเลจำนวนมากมักถูกคลื่นซัดเกยตื้นเกลื่อนกลาด วนเป็นลูปวันแล้ววันเล่า พบได้ตั้งแต่เศษพลาสติกขนาดจิ๋วนอนที่แน่นิ่งใต้ผืนทราย ไปจนอวนดักปลาขนาดมหึมาที่เกี่ยวพันรอบโขดหิน เราเองก็รู้ว่าสิ่งที่เราทำอยู่อาจหมายถึงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะหากมนุษย์ยังคงมักง่าย ขยะก็ไม่มีทางหมดไปจากผืนทะเลได้ง่ายๆ
เรื่องนี้แม้แต้ ผ.ศ.ทิวา ศุภจรรยา อดีตนักวิชาการด้านธรณีวิทยา และอดีตอาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เชิญมาเป็นวิทยากรพิเศษ คอยให้ความรู้กับพวกเรายังบอกว่า “เก็บวันนี้ วันพรุ่งนี้ขยะก็มาใหม่”
หลังจากนี้เราหวังเพียงว่า เมื่อชายหาดโคกตาหอมเริ่มเป็นที่รู้จัก เริ่มมีนักท่องเที่ยวมาค้างแรม นักท่องเที่ยวทุกคนจะช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งสิ่งแปลกปลอมใด ๆ นอกจากรอยเท้า เที่ยวแบบไม่เก็บสิ่งใดกลับออกมา นอกจากภาพถ่าย และความทรงจำ
อยากเที่ยวหาดลับ สนับสนุนชุมชน ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ แบบพวกเรา ติดต่อไปที่ผู้ใหญ่บ้าน ประชุม เสือเหลือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ผู้ดูแลพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยและเพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยวเอง โทร.08-7081-6141 หรือพี่โรจน์ โทร.08-5266-3905
SPECIAL THANKS: คมปิ้งชุมชน ชายหาดลับทับสะแก ขอขอบคุณ พี่งบ – ธัชรวี หาริกุล Thailand Outdoor Shop และ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอบคุณผู้สมัครกว่า 70 คน ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ‘แคมปิ้งชุมชน ชายหาดลับทับสะแก’ แม้ครั้งนี้เราจะไม่มีโอกาสมาเที่ยวด้วยกันก็ตาม และขอบคุณ THAILAND OUTDOOR SHOP, COLEMAN THAILAND, POCARI SWEAT, LUMINOX, CHANG COLD BREW COOL CLUB ที่มาร่วมเป็นอีกหนึ่งเสียงช่วยส่งต่อวัฒนธรรมการท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก
EXPLORERS: ตู่, บาส, เฟี้ยต, โม, เนย, สมุย, ใบหม่อน, เจมส์, ก้อง, กิ๊บ, ปิง, นัท, ไอซ์, พริม
VIDEOGRAPHERS: ไอซ์-ธนายุทธ สร้อยสุวรรณ, นัด-ณัฐวัฒน์ ส่องแสง, ปิง-อำพล ซึ่งจิตสิริโรจน์
VIDEO EDITOR: สิฐ-พิสิฐ ค้ำชู