เที่ยวเพชรบุรี แบบหนีพระรามสอง-เพชรเกษม ไปชมวิวนาเกลือ สัมผัสหาดทรายแรกแห่งทะเลใต้ เดินเล่นบนสะพานไม้ในป่าโกงกาง ถ่ายรูปสวย ๆ กับเรือชาวประมงหลากสี ได้กินปูม้าสด ๆ ที่โคตรอร่อย! แล้วค่อยไปต่อที่ชะอำ ทั้งหมดนี้ต้องวิ่งรถทางรอง ผ่านคลองโคน-บางตะบูน-บ้านแหลม เท่านั้น!
หากคุณมุ่งหน้าลงใต้จากกรุงเทพฯไปเพชรบุรี คุณอาจจะเคยใช้เส้นทาง “คลองโคน” ที่เป็นถนนสายในลัดเลาะเลียบทะเลกันมาบ้างแล้ว บ่อยครั้งที่พวกเราได้แต่ผ่านแต่ยังไม่เคยแวะเก็บตกสถานที่เที่ยวตามข้างทาง ครั้งนี้พวกเราชาว EXPLORERS CLUB ขอไปลองแวะข้างทางบนถนนเส้นนี้เสียหน่อยว่าจะมีสถานที่ไหนน่าสนใจบ้าง
คลองโคน เป็นเส้นทางที่ตัดเข้าจากถนนพระราม 2 ลัดเลาะแนวฝั่งทะเลด้านซ้ายมือเกือบตลอดเส้นทาง เราจะเห็นคนปั่นจักรยานทั้งสายสปีด สายทัวริ่ง บนถนนเส้นนี้กันอยู่ตลอด อาจเพราะเป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยมีรถบรรทุกวิ่ง และรถดูเหมือนจะน้อยกว่าถนนสายหลัก ถนนบางช่วงมีไหล่ทางสำหรับจักรยาน สองข้างทางมีวิวนาเกลือให้ชม มีจุดพักหลายจุด และมีร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่ออยู่หลายเจ้า และเด็ดสุดคือเป็นอีกทีที่คนชอบกินปูม้าไม่น่าพลาด
สะพานเฉลิมพระเกียรติปากอ่าวบางตะบูน
คุณสามารถชมวิวทะเลไกลสุดลูกหูลูกตาได้ตรงกลางสะพานนี้ โดยการขับรถไปจอดบริเวณลานจอดรถตีนสะพานแล้วเดินย้อนขึ้นมาชมวิวคุณจะเห็น “กระเตง” ที่ชาวบ้านสร้างไว้นอนเฝ้าฟาร์มหอยแครงอยู่หลายหลัง ในบางเวลาสีของทะเลจะกลืนเป็นสีเดียวไปกับสีของท้องฟ้า เป็นวิวที่ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ ไม่ควรพลาดที่จะเก็บภาพเป็นที่ระลึกตรงจุดนี้เด็ดขาด บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของวัดปากอ่าว กับ ศาลกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์อยู่ด้วย
หาดทรายเม็ดแรก
ตรงจุดนี้คือช่วงรอยต่อชายฝั่งระหว่างหาดโคลนในจังหวัดสมุทรสงคราม และหาดทรายในจังหวัดเพชรบุรี ถือได้ว่าบริเวณนี้เป็นจุดเริ่มต้นของหาดทรายแรกแห่งทะเลใต้ ชายหาดของที่นี่มีความกว้างและทอดยาว มีโขดหินน้อยใหญ่อยู่เป็นระยะ น้ำทะเลใสสะอาดสามารถลงเล่นน้ำได้เลย เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น และตกริมทะเลได้สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก บรรยากาศเงียบสงบโดยเฉพาะในวันธรรมดา
คุณสามารถพักผ่อนที่หาดทรายแห่งนี้โดยใช้เวลายาว ๆ ได้เลย แต่อาจจะต้องเตรียมตัวเรื่องอาหารการกินให้พร้อม บริเวณนี้ร่มเงามีน้อย คุณสามารถกางทาร์ปบังแดด เอาเก้าอี้แคมป์ออกมากาง เอาผ้าออกมาปูนั่งเล่นนอนเล่นได้สบาย แต่บริเวณนี้ไม่มีห้องน้ำไว้บริการ ถ้าเล่นน้ำทะเลอาจจะหาที่ล้างเนื้อล้างตัวลำบากสักหน่อย
เรื่องขยะต้องรับผิดชอบ
เนี่องจากเป็นพื้นที่สาธารณะ มีความจำเป็นอย่างมากที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องดูแลรับผิดชอบความสะอาดและขยะให้เรียบร้อย ในภาพรวมที่พวกเราไปสำรวจ ยังเห็นปริมาณขยะเป็นจำนวนมากกระจายอยู่ในพื้นที่และบริเวณชายหาด เราควรช่วยกันดูแลพื้นที่สวย ๆ แห่งนี้ให้อยู่ไปนาน ๆ ด้วยการนำขยะของเราเองเก็บกลับออกไปคือดีที่สุด
กินปูม้าชมเรือประมง
หากมาถึงแหลมผักเบี้ยแล้ว คุณไม่ควรพลาดที่จะมารับประทานปูม้าและอาหารทะเลสด ๆ ที่ ”วิสาหกิจแพปลาชุมชน แหลมผักเบี้ย” ที่นี่เขามีการจัดตั้ง “ธนาคารปูม้า” ขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่ไปกับการทำประมงท้องถิ่นอย่างมีความรับผิดชอบ แม่ปูไข่ที่ติดมากับอวนจะถูกชาวบ้านแยกใส่ลงถังไว้โดยเฉพาะเพื่อรอให้แม่ปูเขี่ยไข่ทิ้ง หลังจากนั้นเมื่อไข่ฟักเป็นตัวอ่อน ชาวบ้านก็จะนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเพื่อให้ได้เจริญเติบโตขยายพันธุ์ต่อไป
หลังจากที่สั่งอาหารได้ไม่นานนัก ปูม้านึ่งสีส้มสดที่ถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบไว้ในจานเปลก็ถูกเสิร์ฟมาไว้ตรงหน้า กรรเชียงปูคือเป้าหมายแรกที่เราอยากลิ้มรส ทันทีที่บิออกก้อนเนื้อปูสีขาวแน่นก็ถูกเผยโฉม ควันกรุ่นจากเนื้อปูพวยพุ่งเตะจมูกกระตุ้นต่อมหิวได้เป็นอย่างดี ก้อนเนื้อสีขาวถูกจุ่มและกวนลงไปในถ้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรแซ่บ “โอ้วจอร์จมันยอดมาก มันโคตรอร่อยอะไรแบบนี้”
นอกจากปูม้าสดที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่แล้ว ก็ยังมีเมนูอีกสารพัดให้คุณได้ลิ้มลอง เนื้อปูผัดผงกะหรี่มาในจานเบ้อเร่อ อุดมไปด้วยเนื้อปูคลุกเคล้ากับผงกะหรี่และไข่ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าข้าวโถนั้นที่สั่งมาไม่น่าจะพอกับมื้อนี้ของพวกเรา ตามมาติด ๆ กับแกงส้มกุ้งสุดจี๊ดรสชาติหวานละมุนผสมเปรี้ยวปรี๊ดปร๊าดด้วยรสชาติของมะขามเปียก ปลาหมึกแดดเดียวก็เด้งหนึบสู้ฟันไม่ถอย ทำพวกเราเจริญอาหารแบบลืมเนื้อลืมตัวกันไปเลย ข้าวสวยถูกเติมใส่จานกันแบบไม่ยั้ง รู้ตัวอีกทีก็ต้องปลดกระดุมกางเกงเม็ดบนออกเสียแล้ว
หากคุณต้องการมาทานอาหารที่นี่เขาเปิดเฉพาะวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์เท่านั้น หากคุณมาในวันธรรมดาก็สามารถเดินเล่นชมเรือประมง กับธนาคารปูได้แต่ร้านอาหารจะปิด เพราะฉะนั้นอยากกินปูก็มาให้ถูกวัน ติดตามและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FACEBOOK : ธนาคารปูม้าและแพปลาชุมชน ต.แหลมผักเบี้ย
เดินเล่นป่าชายเลน
อีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจและอยู่ไม่ไกลกันจากหาดทรายเม็ดแรก “โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ที่นี่เป็นโครงการศึกษาและหาวิธีแก้ไขด้านสิ่งแวดล้อมจากขยะและน้ำเสียในพื้นที่ด้วยวิธีการต่าง ๆ คุณสามารถเข้าชมที่นี่ได้โดยไม่เสียค่าบริการใด ๆ เพียงแค่คุณลงทะเบียนด้านหน้าตรงประตูทางเข้า และเดินเข้าไปข้างในขึ้นรถนำชมโครงการได้เลย ถ้าเดินไปแล้วไม่เจอรถก็ให้รอตรงใต้อาคารสักพักเดี๋ยวรถก็มารับ
รถนำชมจะพาคุณไปยังฐานบำบัดน้ำเสียต่าง ๆ พร้อมกับการบรรยาย ซึ่งได้ความรู้ดีมาก รถนำชมจะพาคุณวน ไปจนถึงสถานีสุดท้ายคือป่าชายเลน หลายคนคงทราบถึงประโยชน์ของป่าชายเลนกันอยู่บ้างแล้ว แต่ความรู้ใหม่ที่พวกเราได้จากที่นี่ก็คือ ป่าชายเลนสามารถทำหน้าที่บำบัดน้ำเสียได้ด้วย แต่ต้องมีวิธีและหลักการสักนิดหน่อย ถือเป็นความรู้ใหม่ที่มีประโยชน์มาก
ตรงนี้จะเป็นทางเดินไม้ยาว ๆ ให้คุณได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศของป่าชายเลน มีป้ายให้ความรู้เกี่ยวพันธุ์พืชและสัตว์ตั้งอยู่เป็นระยะ ๆ กลางทางจะพบกับหอคอยสามชั้นสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ ส่วนปลายทางเดินจะเป็นศาลาชมวิวกว้าง ๆ ของทะเล ลมดีแต่แดดก็เอาเรื่อง แนะนำให้เตรียมพัดแว่นร่ม และพกน้ำดื่มใส่กระบอกมาด้วยก็ดี เดินไปกลับระยะทางประมาณเกือบ ๆ สองกิโลระยะทางกำลังดีไม่ไกลและไม่ใกล้เกินไป หลังจากนั้นก็ให้รอรถนำชมมารับไปกลับไปลงที่จุดเดิม
และนี่ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้หนึ่งวันของคุณเป็นหนึ่งวันที่สุดคุ้มค่าที่จะได้ใช้เวลากับกับครอบครัว หรือเพื่อนฝูง นี่เป็นเพียงสถานที่ส่วนหนึ่งของการวิ่งรถทางรอง ผ่านคลองโคน-บางตะบูน-บ้านแหลม เท่านั้น! ถ้าคุณมีสถานที่น่าสนใจก็แนะนำพวกเราได้หากมีโอกาสพวกเราก็ไม่ขอพลาดไปลุยไปสำรวจแน่นอน
EXPLORERS: บาส, เฟี้ยต, กัน
AUTHOR: บดินทร์ บำบัดนรภัย
PHOTOGRAPHER: นภสิทธิ์ ตันเสียดี
GRAPHIC DESIGNER: ธีรภัทร์ อินทจักร