ถึงแม้ผิงตงจะเป็นดินแดนที่มีภูมิประเทศในลักษณะแคบและยาวเมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ ในไต้หวัน ทว่าด้วยพรมแดนที่หันหน้าออกสู่ทะเลโดยมีฉากหลังเป็นภูเขา อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติเก่าแก่ที่สุดและกว้างใหญ่ที่สุดในไต้หวัน เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เทศมณฑลทางตอนใต้สุดของเกาะไต้หวันแห่งนี้ กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นสวยงามไม่แพ้ที่ใดในมหาสมุทรแปซิฟิกด้านทิศตะวันออก
เทศมณฑลผิงตง (Pingtung County) เป็น 1 ใน 13 เทศมณฑลของไต้หวัน มีการปกครองแบบแบ่งเขตออกเป็น 1 นคร 3 เมือง 21 เขต และ 8 หมู่บ้านชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนเขา ซึ่งนับได้ว่าผิงตงมีจำนวนเขตและหมู่บ้านรวมกันมากที่สุดในบรรดาเทศมณฑลของไต้หวันทั้งหมด
จากเกาสงเมืองท่าอุตสาหกรรม (แนบลิ้งค์อ่านต่อ) พวกเราก้าวเท้าเข้ามาสู่เขตแดนของเมืองเกษตรกรรม และเมืองท่องเที่ยวที่มีสภาพภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ที่นี่จึงมีสายลมโชยตลอดวัน สัมผัสได้ถึงความเย็นสบายโดยมีฉากทัศน์เป็นฟ้าสวยใส โดยเฉพาะพื้นที่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ก่อนจะไปท่องธรรมชาติ เราอยากแนะนำให้ลองแวะมาเที่ยวย่านในเมืองสักหน่อย

ก่อนเช้าวันใหม่เราจะต้องนั่งรถยนต์ต่อไปทางใต้อีกราวหนึ่งชั่วโมง เพื่อเดินทางไปยังแหล่งธรรมชาติอันงดงามแห่งแดนใต้ที่อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง ในค่ำคืนแรกพวกเราเลือกพักอาศัยในโรงแรมใจกลางเขตตงกั่ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองผิงตงไปทางตะวันตกประมาณ 30 นาที

Donggang Township
เขตตงกั่ง (Donggang Township) ตั้งอยู่ในฝั่ง west-central ของผิงตง ติดกับชายฝั่งตะวันตกของไต้หวัน หรือบริเวณช่องแคบไต้หวัน และอ่าวต้าเผิง (Dapeng Bay) อ่าวที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือประมงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวันเช่นกัน
พวกเราใช้เวลาพักผ่อนในช่วงหัวค่ำด้วยการชวนกันไปปั่นจักรยาน YouBike ลัดเลาะเที่ยวบ้านชมเมือง เริ่มจากถนน Chuantou ขึ้นเหนือไปยังสะพาน Jinde ปั่นข้ามไปอีกฝั่งของเมืองแล้ววกกลับมาที่ Huaqiao Fish Market ซึ่งเป็นตลาดประมงขนาดใหญ่ใกล้กับท่าเรือตงกั่ง ก่อนที่เราจะไป Donggang Night Market ที่มีของกินอร่อย ๆ รออยู่ เราได้แวะมายังวัดตงหลง (Donglong Temple) เพื่อสักการะเทพเจ้าเหวินหวังเย่ (Wen-wang-ye) เทพเจ้าแห่งโรคระบาดผู้ที่คอยปัดเป่าโรคระบาดทั้งหลายให้แก่ชาวเมือง

วัดตงหลง ตั้งอยู่บนถนนจงเจิ้ง (Jhongjheng Rd.) ไม่ใกล้ไม่ไกลกับท่าเรือตงกั่ง ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าเหวินหวังเย่ เป็นศูนย์รวมของชาวประมงทางภาคใต้ของไต้หวัน ที่จะมารวมกันโดยนัดหมายในเทศกาลเผาเรือเขตตงกั่ง เพื่อร่วมพิธีกรรมส่งเรือของเทพเจ้าลงสู่ทะเล นำโรคระบาดและโรคร้ายลอยไปพร้อมกับเรือของเทพเจ้าองค์นั้น ซึ่งปัจจุบันได้กลายมาเป็นประเพณีที่จัดขึ้นทุก ๆ 3 ปีครั้ง เพื่อเป็นการขอพรให้เกิดความสงบสุขและนำมาซึ่งความโชคดี จัดครั้งหนึ่งกินเวลานาน 8 วัน 7 คืน ในช่วงเดือน 9 ของปฏิทินจันทรคติจีน


วัดตงหลงจะเปิดตั้งแต่ตี 5 จนถึง 4 ทุ่มของทุกวัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่นิยมแวะมาสักการะ ขอพร และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย สำหรับใครที่เดินทางด้วยตัวเอง สามารถต่อรถบัส Pingtung สาย 8202 (ปลายทาง Donggang) จากสถานีรถไฟ Pingtung มาลงที่ป้าย Donggang หรือต่อรถบัส Kaohsiung สาย 9117 (ไป Kenting) จากสถานีรถไฟ Linbian มาลงที่ป้าย Donggang ก็สะดวกเช่นกัน

Kenting National Park
อย่างที่บอกไว้ว่ามาถึงผิงตงแล้วไม่มาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขิ่นติง (Kenting National Park) ก็เหมือนมาไม่ถึง แค่หนึ่งชั่วโมงเศษจากเขตตงกั่ง พวกเราก็มาถึงยังเขตเหิงชุน (Hengchun Township) ดินแดนทางใต้สุดของไต้หวัน อันเป็นสถานที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติเก่าแก่ที่สุด ใหญ่ที่สุด และเป็นอุทยานแห่งชาติเขตร้อนเพียงแห่งเดียวของไต้หวัน ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม 33,268 เฮกเตอร์ตั้งอยู่บนคาบสมุทรเหิงชุน (Hengchun Peninsula) ที่ซึ่งเราขอยกให้เป็นสวรรค์กลางแจ้งแห่งแดนใต้ อันเกิดจากส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างแมกไม้ ทุ่งหญ้า หินผา ชายหาด และผืนทะเล


จุดแรกที่เราเผลอตกหลุมรักความสวยงามของเขิ่นติง ก็คือทุ่งหญ้าหลงปัน (Longpan Park) ภาพเบื้องหน้าคือทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ มีสายลมพัดพาไอเย็นเคล้าเสียงคลื่นกระทบฝั่งตลอดเวลา พวกเราค่อย ๆ เดินย่ำผืนดินสีแดงไปยืนสูดลมหายใจลึก ๆ บนหน้าผาสูงชันที่ลดหลั่นลงไปสู่ผืนทราย แนวปะการัง และกลุ่มก้อนหินเบื้องล่าง



ภาพของท้องทะเลสีครามที่ไล่เฉดไปบรรจบกับท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ คือความงดงามที่อยู่เหนือคำบรรยายใด ๆ นับเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงที่พวกเราไม่สามารถสะกดคำว่า ‘เบื่อ’ ออกมาได้เลยสักครั้ง ความรู้สึกเหมือนเวลาถูกหยุดไว้ชั่วขณะเป็นอย่างนี้เองใช่ไหม…



20 นาทีจาก Longpan Park เราเดินทางมาถึงอีกหนึ่งสถานที่ที่คนรักป่าไม้และพืชพรรณเขตร้อนต้องร้องว้าว! ที่นี่คือ Kenting National Forest Recreation Area พื้นที่ป่านันทนาการที่เต็มไปด้วยต้นไม้รูปทรงแปลกตา แนวหินปูนที่สะท้อนร่องรอยของแนวปะการังที่เคยจมอยู่ใต้ผืนทะเล บางส่วนถูกปกคลุมด้วยพืชพันธุ์และรากไม้เช่นไทรยักษ์ ไปจนถึงระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ในพื้นที่อันเกิดจากการยกตัวของแผ่นเปลือกโลกเมื่อราว 500,000 ปีก่อน







สัตว์ป่าสงวนท้องถิ่น อย่าง ลิงแสมแห่งฟอร์โมซา (Taiwan macaque หรือ Formosan macaque) และกระรอกสวน หรือ กระรอกท้องแดง (Red-bellied tree squirrel) ก็สามารถพบเห็นได้ที่นี่ Kenting National Forest Recreation Area ผู้มาเยือนจะเพลิดเพลินกับความเขียวขจีของสวนป่าเขตร้อน และยังมีถ้ำมังกรเงิน (Silver Dragon Cave) ที่เราสามารถเดินลอดช่องแคบ ๆ ภายในถ้ำไปเก็บภาพหินงอกหินย้อยได้อย่างง่ายดาย

ก่อนเราจะไปชมแสงสุดท้ายของวันริมหาดทราย Baisha Beach พวกเราตามปลา รอง บก. National Geographic Thailand ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ชีววิทยาทางทะเลและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติ (National Museum of Marine Biology and Aquarium) ในเขตเชอเฉิง (Checheng Township) พิพิธภัณฑ์ที่หมายมุ่งในการวิจัยสิ่งแวดล้อมของเกาะและระบบนิเวศในมหาสมุทร
ต้องบอกว่าที่นี่น่าตื่นตาตื่นใจมาก เพราะเราจะได้ชมนกเพนกวินจากขั้วโลกใต้ และวาฬเบลูกาจากขั้วโลกเหนือแบบใกล้ชิดอีกด้วย พวกเราใช้เวลาอยู่นานเดินชมอาคารน่านน้ำสากล 1 ใน 3 อาคารจัดแสดงหลัก นอกจากการชมสัตว์น้ำและสัตว์ทะเลสารพัดชนิดแล้ว ความพิเศษก็คือนักท่องเที่ยวสามารถค้างคืนในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้! ใครสนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์ชีววิทยาทางทะเลและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติ ที่นี่เขาเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.30 น. รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ National Museum of Marine Biology and Aquarium







จุดชมพระอาทิตย์ตกในผิงตงที่ใครมาก็หลงรัก
มาถึงแล้วอ่าวไป๋ซา (Baisha Beach หรือ Baisha Bay) อ่าวที่มีความหมายว่า “อ่าวทรายสีขาว” ที่นี่คือหนึ่งในอ่าวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในไต้หวัน หาดทอดตัวยาวกว่า 400 เมตร มีเม็ดทรายละเอียดและขาวสมชื่อ ใกล้กันยังมีแหลมหินที่ยื่นออกไปสู่ทะเล ซึ่งเกิดจากลาวาที่ไหลออกมาจากการระเบิดของภูเขาไฟจากเทือกเขาต้าถุนเมื่อราว 800,000 ปีก่อนนั่นเอง

เรามาถึงในช่วงเวลาที่แดดร่ม ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อน มีเวลานั่งมองดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ลดระดับไปซ่อนตัวอยู่หลังก้อนเมฆ ก่อนจะลาลับขอบฟ้าบรรยากาศโรแมนติกมาก ไร้เสียงผู้คนรบกวน ได้ยินเพียงเสียงคลื่นกระทบหาดที่ชัดเจนเป็นจังหวะ ความประทับใจนี้ไม่เพียงทำให้เราอิ่มเอมกับการพักผ่อน แต่ยังช่วยยืนยันได้ถึงสิ่งที่ การท่องเที่ยวไต้หวัน ระบุเอาไว้ในเว็บไซต์ (taiwantourism.org) ว่า ผิงตงเป็นเมืองที่เหมาะกับการเดินเท้าเปล่าบนชายหาด และนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน คือเรื่องจริง
ระหว่างมื้อค่ำในคืนสุดท้ายก่อนกลับบ้าน พวกเราในกลุ่มถามกันว่าประทับใจเมืองไหนมากที่สุดในไต้หวันตอนใต้ ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันโดยมิได้นัดหมายว่า “ผิงตง” เชื่อเหลือเกินว่าใครก็ตามที่ได้มาเยือนดินแดนธรรมชาติงดงามแห่งนี้ จะรู้สึกเหมือนกับเราเช่นกัน ผิงตง เมืองที่จะทำให้เราตกหลุมรักโดยไม่ต้องพยายาม ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ






ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ที่เราแนะนำ และอยากชวนไปลองเที่ยวไต้หวันตอนใต้ ใน 3 เมือง 3 เอกลักษณ์ ไถหนาน เมืองหลวงเก่าที่เป็นแหล่งวัฒนธรรม เกาสง เมืองท่าอุตสาหกรรมอันทันสมัย และผิงตง เมืองแห่งธรรมชาติอันน่าลุ่มหลง ซึ่งยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายที่คุณอาจไม่เคยรู้จักรออยู่
ติดตามแคมเปญ ‘Explore Southern Taiwan’ โดย Taiwan Tourism TH ร่วมกับ National Geographic Thailand และบ้านและสวน Explorers Club ชวนเที่ยวไต้หวันตอนใต้ในรูปแบบวีดีโอได้เร็ว ๆ นี้ ตามเราไปเที่ยวด้วยนะกันครับ
EXPLORERS: เฟี้ยต, ปลา, ออน, ฟาง, เชอร์รี่, มุก, แน็ค, เบียร์
AUTHOR: เฟี้ยต-นวภัทร ดัสดุลย์
PHOTOGRAPHER: ฟาง-อภินัยน์ ทรรศโนภาส
GRAPHIC DESIGNER: ฟอฟอ-อานันตญา รุ่งลิขิตเจริญ