โบสถ์ซางตาครู้ส หรือจะเรียกว่าวัด กุฎีจีน ก็ได้ ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงพระเจ้ากรุงธนบุรีพร้อมกับกับชุมชนเลยจริง ๆ แล้วตัวโบสถ์ปัจจุบันที่เราเห็นอยู่นั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนโบสถ์หลังเดิมที่ทรุดโทรมลงไปในช่วงปี พ.ศ. 2459 (สมัยรัชกาลที่ 6) และก็ได้มีการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่อีกทีในปี พ.ศ. 2539
รวม ๆ แล้วอายุอานามก็ร้อยกว่าปีแล้ว นับว่ายังสวยงามสมบูรณ์อยู่เลยทีเดียว ส่วนรูปแบบงานสถาปัตยฯ ก็ถูกผสมผสานด้วยความงดงามของศิลปะสองยุคสมัยเข้าด้วยกัน ระหว่าง เรอเนซอส์ และ นีโอคลาสสิคภายในประดับประดาด้วยลวยลาย และกระจกสีสวยงามที่บอกเล่าเรื่องราวของพระคัมภีร์ ส่วนยอดโดมก็เป็นสไตล์อิตาลีแบบเดียวกันกับมหาวิหารวิหารฟลอเรนซ์ และพระที่นั่งอนันตสมาคม
ความพิเศษของโบสถ์ซางตาครู้สอีกอย่างก็คือ ‘ระฆังการิย็อง’ (Le Carillon) ซึ่งหมายถึง ระฆังที่ตีเป็นเพลงได้ ระฆังชุดนี้ถูกสั่งทำมาจากฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1924 ในสมัยนั้น คุณพ่อ กูเลียลโม กิ๊น ดาครู้ส เป็นเจ้าอาวาส จากตอนนู้นจนถึงตอนนี้ ปี 2021 อายุอานามของระฆังชุดนี้ก็ปาเข้าไป 97 แล้ว!!!! ซึ่งในปัจจุบันผู้ที่เล่นระฆังการิย็องที่โบสถ์ซางตาครู้สได้ เหลือเพียงแค่สองคนเท่านั้น หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ลุงก๋อย – สัวสดิ์ สิงหทัต’ ซึ่งเป็นผู้เล่นลำดับที่สี่นับตั้งแต่มีมาที่โบสถ์แห่งนี้ ลุงก๋อยเป็นทั้งผู้เล่นและคนที่คอยซ่อมแซมระฆังให้ใช้งานได้เป็นปกติเสมอมา
องค์ประกอบของระฆังชุดนี้ก็จะประกอบใบด้วยระฆัง 16 ใบ ที่มีเสียงของโน้ตที่ต่างกันสามารถเล่นเป็นเพลงได้ด้วยการกดแป้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับเปียโนลงไป สายสลิงที่โยงไว้กับแป้นจะทำหน้าที่ดึงค้อนที่แขวนอยู่ด้านในตัวระฆังให้กระทบกับใบระฆังจนเกิดเสียงขึ้นมา การเล่นแบบนี้ต้องออกแรงกดค่อนข้างมากเพราะตัวค้อนแขวนมีน้ำหนักเยอะพอสมควร
ปกติระฆังการิย็องจะเล่นในโอกาสพิเศษ หรือ สำคัญ ๆ เท่านั้น อย่างที่วันคริสต์มาส หรือวันขึ้นปีใหม่ สำหรับตัวระฆังชุดนี้จะถูกติดตั้งไว้ในส่วนโดมของบริเวณหน้าโบสถ์ หากสังเกตุจากด้านหน้าโบสถ์ให้มองขึ้นไปจะเห็นช่องลมกลม ๆ นั่นแหละ นอกจากตรงนั้นจะเป็นช่องลมแล้วก็ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนลำโพงกระจายเสียงได้ดีอีกด้วย สุดยอดจริง ๆ ครับ
ปกติหอระฆังไม่ได้อนุญาตให้ขึ้นมานะครับ อย่าได้เผลอเดินขึ้นมาเชียวเพราะต้องขึ้นบันไดวนและต้องปีนบันไดต่อขึ้นไปอีกต้องอาศัยความระมัดระวังมากเป็นพิเศษเดี๋ยวจะตกมาแข้งขาหักเอา ต้องขอขอบคุณโบสถ์ซางตาครู้สอย่างสูงครับที่ได้อนุเคราะห์ให้เรามีโอกาสขึ้นมาถ่ายภาพความน่าทึ่งของวัตถุล้ำค่าทางประวัติศาสตร์นี้ให้ชาว บ้านและสวน Explorers Club ได้ชมกัน
ที่นี่ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน ทุกชาติ และทุกศาสนา สามารถเข้ามาชมความงดงามของโบสถ์กันได้ทุกวัน หรือถ้ามาช่วงเวลาสักประมาณ 5 โมงเย็น ก็จะได้เข้าไปชมความงามภายในของโบสถ์ด้วย เพื่อความชัวร์ก็โทรมาสอบถามรายละเอียดกันก่อนได้ที่ โทร. 0-2472-0153
ส่วนการเดินทางถ้ามาด้วยรถส่วนตัวก็ให้ขับเข้ามาจอดได้ที่ลานจอดรถของวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร แล้วเดินเลาะเลียบแม่น้ำเจ้าพระยามาได้เลยจะสะดวกที่สุด โดยปกติโบสถ์จะเปิดตอน ห้าโมงเย็นนะครับ