บ้านและสวน Explorers Club และเพื่อน ๆ ของพวกเรา มีแผนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่มาเก๊า ในเร็ว ๆ นี้ เราจึงเข้ามาศึกษาข้อมูลด้านการท่องเที่ยวจากเว็บไซต์ www.macaotourism.gov.mo ที่มีการระบุข้อควรรู้และเกร็ดความรู้ในรูปแบบภาษาไทย ให้เราได้อ่านอย่างละเอียดพร้อมเที่ยวสะดวกเสร็จสรรพ เราจึงสรุป 10 สิ่งน่ารู้ก่อนไปมาเก๊าในมุมมองของเรามาให้อ่านให้ทุกคนได้เตรียมพร้อมก่อนไป
1
มาเก๊าเมื่อก่อนและปัจจุบัน
ชาวประมงจากมณฑลฝูเจี้ยน และชาวนาจากมณฑลกวางตุ้ง คือชนกลุ่มแรก ๆ ที่ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากในดินแดน ‘โอหมูน’ หรือ ‘ประตูแห่งการค้าขาย’ ซึ่งเป็นชื่อเรียกในอดีตของมาเก๊า ชื่อนี้มีที่มาจากทำเลที่ตั้งบริเวณปากแม่น้ำจูเจียง หรือแม่น้ำไข่มุก (แม่น้ำเพิร์ล)
เมื่อก่อนคนที่นี่เรียกว่าดินแดนที่เป็นเมืองท่าทางตอนใต้ของมณฑลกวางเจาแห่งนี้ว่า ‘อาม่าเก๊า’ หรือ ‘สถานที่ของอาม่า’ เพื่อเป็นเกียรติกับเทพธิดาของชาวเรือ โดยมีวัดอาม่า (A – Ma Temple) ที่ในปัจจุบันผู้คนนิยมแวะไปสักการะขอพรเรื่องงาน การเงิน และเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ตั้งอยู่ปากทางเข้าท่าเรือ
ในช่วงต้นปี 1550 เริ่มมีชาวโปรตุเกสเดินทางมาโอหมูน และนำชื่ออาม่าเก๊าไปใช้เรียกจนค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นมาเก๊าในที่สุด เมื่อชาวโปรตุเกสเข้ามาตั้งรกราก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของประตูแห่งวัฒนธรรมสองบานที่เปิดเข้าหากัน การถือกำเนิดของโบสถ์โรมันคาทอลิก วิทยาลัยคริสเตียน และป้อมปราการต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ นำไปสู่ยุคทองและการปกครองดินแดนของโปรตุเกสในเวลาต่อมา
เที่ยงคืนวันที่ 20 ธันวาคม ปี 1999 (พ.ศ. 2542) คือวันแรกที่มาเก๊าได้ชื่อว่าเป็น ‘เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน’ กล่าวคือเมื่อราว 26 ปีก่อน โปรตุเกสผู้ถือครองดินแดนชายฝั่งทางใต้ของจีน ที่มีพื้นที่ขนาด 115.3 ตารางกิโลเมตร ผืนนี้มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ปี 1887 (พ.ศ. 2430) ได้มอบอำนาจการบริหารกลับคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่ด้วยเงื่อนไขที่ว่า มาเก๊าจะยังคงสถานะทางการเมืองและเศรษฐกิจเฉกเช่นเดิมไปอีก 50 ปี นับจากพิธีส่งมอบในคืนนั้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าว มาเก๊าจึงยังคงใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาทางการควบคู่ไปกับภาษาจีน และอยู่ภายใต้นโยบายการปกครองแบบ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ พ่วงมาด้วยสถานะเป็นเมืองมรดกโลกที่โดดเด่นด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ซึ่งผสมผสานความเป็นตะวันออก และตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างกลมกล่อม โดยมีจำนวนประชากรประมาณ 688,300 คน มากกว่า 90% คนที่นี่มีเชื้อชาติจีน รองลงมาก็โปรตุเกส, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และเชื้อชาติอื่น ๆ
2
เขตแดนแห่งมาเก๊า
ดินแดนของมาเก๊ามีอาณาเขตติดต่อกับจีนแผ่นดินใหญ่ เรียกว่า ‘คาบสมุทรมาเก๊า’ ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งทางฝั่งตะวันตกของปากแม่น้ำเพิร์ล แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 เขต ประกอบด้วย Nossa Senhora de Fatima, Santo Antonio, Sao Lazaro, Sao Lourenco, และ Se โดยมีส่วนที่เป็นเกาะคือตั้งของเขต Taipa, Cotai และ Coloane นอกจากนี้มาเก๊ายังมีการถมทรายเพื่อขยายดินแดนรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
3
มาเก๊าฟรีวีซ่า
สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย สามารถวางแผนเที่ยวมาเก๊า (รวมถึงฮ่องกง) แบบพำนักได้ยาว ๆ ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า ในการเดินทางเข้ามาเก๊าจะใช้วิธีการปั๊มตราประทับลงบนใบอนุญาตเข้าเมือง ซึ่งเป็นแผ่นกระดาษเล็ก ๆ ต้องเก็บรักษาอย่างระวัดระวัง อย่าทำหล่นหายเชียว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมบนเว็บไซต์บริการคนเข้าเมืองมาเก๊า ของกองกำลังตำรวจรักษาความปลอดภัยสาธารณะได้ที่ www.gov.mo/en/services/ps-1474/ps-1474b/
4
การเดินทาง ขึ้นรถ ลงเรือ
การเดินทางท่องเที่ยวมาเก๊า สามารถใช้บริการรถประจำทางที่วิ่งรับส่งระหว่างคาบสมุทรมาเก๊า ไทปา และโคโลเอน ตลอดทั้งวัน ราคาเดียวกันตลอดสายอยู่ที่ 6.00 ปาตากาส์ แนะนำว่าควรเตรียมจำนวนเงินให้พอดี เพราะที่มาเก๊าจะไม่มีการทอนเงินบนรถโดยสาร ส่วนใครกลัวหลงเปิดแอพ Google Map แอพเดียวจบ มีบอกทุกอย่าง ง่ายดายสุด ๆ ดูข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dsat.gov.mo/dsat/index.aspx หรือบริษัทให้บริการรถประจำทาง TRANSMAC ที่ www.transmac.com.mo และ TCM ที่ www.tcm.com.mo
ส่วนการเดินทางไป-กลับจากสนามบินนานาชาติมาเก๊า จะมีบริการรถประจำทางสายต่าง ๆ อาทิ AP1, AP1X, MT1, MT4, N2, 26, 36, 51A & 51X วิ่งให้บริการ นอกจากนี้หากเราเข้าพักตามโรงแรมใหญ่ๆ แทบทุกแห่งจะมีบริการรับส่งทั้งขาไปและกลับจากสนามบินนานาชาติมาเก๊า ส่วนการเดินทางด้วยแท็กซี่ออกจากสนามบิน เราจะต้องเสียค่าโดยสารเพิ่ม 8.00 ปาตากาส์ และ 3.00 ปาตากาส์ ต่อกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบสำหรับใส่ไว้ท้ายรถ
หรือใครที่มาจากฮ่องกง ก็สามารถนั่งรถยนต์, Shuttle bus หรือ รถโค้ชข้ามพรมแดน (Cross-boundary) ข้ามสะพานฮ่องกง – จูไห่ – มาเก๊า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shuttle bus ที่เว็บไซต์ www.hzmbus.com และดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถโค้ชบริษัท One bus Hong Kong Macau Limited ได้ที่www.onebus.hk, ดูรายละเอียดของบริษัท Hong Kong Macau Express ได้ที่ www.hkmoexpress.com และดูรายละเอียดของบริษัท Eternal East Bus ได้ที่ www.eebus.com ส่วนทางเรือจากฮ่องกง สามารถนั่งเรือข้ามฟากของ TurboJET ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.turbojet.com.hk และ Cotai Water Jet ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณราวหนึ่งชั่วโมง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.cotaiwaterjet.com
อีกทางหนึ่งคือการข้ามเมืองจากมณฑลกวางตุ้งมาที่มาเก๊าด้วยโดยสารปรับอากาศปรับอากาศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัท Kee Kwan Motor Road และบริษัท ไชน่าทราเวลเซอร์วิส (มาเก๊า) จำกัด ที่เว็บไซต์ www.cts.com.mo
5
จับ จ่าย ใช้ สอย
ที่มาเก๊าใช้สกุลเงิน ปาตาการ์ (MOP) แบ่งเป็น 100 อาโวส และเป็นสกุลเงินหลักของมาเก๊า โดยมีธนบัตรและเหรียญในหน่วยเงินที่มีชื่อเรียกแยกย่อยดังนี้
เหรียญ: 10 20 และ 50 อาโวส 1 2 5 และ 10 ปาตาการ์
ธนบัตร: 10 20 50 100 500 และ 1000 ปาตาการ์
โดยสกุลเงินปาตาการ์ และเหรียญฮ่องกง (HKD) มีอัตราแลกเปลี่ยนใกล้เคียงกันมาก 103.20 ปาตาการ์ (MOP) เท่ากับ 100 เหรียญฮ่องกง (HKD) โดยสามารถแปรผันได้ถึง 10% โดยประมาณ 8 ปาตาการ์เท่ากับ 1 เหรียญสหรัฐ และเทียบเท่ากับ 4.22 บาทไทย สามารถแลกเปลี่ยนที่จุดบริการตามสนามบิน ท่าเรือ โรงแรมส่วนใหญ่ และธนาคาร
การทำธุรกรรมการเงินผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในมาเก๊าก็ค่อนข้างสะดวก ใช้บัตรเครดิตได้ทั้ง China UnionPay, American Express, JCB, Visa และ Mastercard อีกทั้งยังรองรับแอพลิเคชั่นที่สามารถสแกนจ่ายของต่างประเทศได้หลากหลายและครอบคลุม อาทิ WeChat Pay และ Alipay จากจีนและฮ่องกง หรือจะเป็น TrueMoney ของไทย
6
บัตร Macau Pass
หนึ่งในความสะดวกเมื่อมาเที่ยวมาเก๊าคือการใช้บัตร Macau Pass ระบบชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการนำเทคโนโลยีบัตร IC หรือ Integrated Circuit ซึ่งเป็นการติดตั้งแผงวงจรรวมไว้กับยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะทุกคันในมาเก๊า ไม่ต้องแลกเหรียญให้ยุ่งยาก บัตรเดียวเที่ยวได้ทั้งการเดินทาง ซื้อของที่ร้านสะดวก ร้านอาหารบางแห่งที่มีระบบรองรับ หรือใช้กับเครื่องจำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.macaupass.com
7
UNESCO World Heritage Site
มาเก๊าที่มีสถาปัตยกรรม ที่ผสมผสานทางวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลก โดย ยูเนสโก้ ในปี 2005 อาทิ Ruins of St. Paul’s, Senado Square, A-Ma Temple, และ St. Dominic’s Church ซึ่งหนึ่งในแลนด์มาร์ค คือ โบสถ์เซนต์ปอล (St. Paul’s Church) หรือโบสถ์เซนต์ปอลแห่งมาเก๊า ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบบาโรก (Baroque) สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 โดยมิชชันนารีชาวโปรตุเกส ซึ่งซากกำแพงที่เห็นในปัจจุบันคือสิ่งที่หลงเหลือมาจากการถูกเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1835
8
เมืองสร้างสรรค์แห่งศิลปะการทำอาหารโลก
ที่นี่คือ สวรรค์ของนักชิม ด้วยมรดกทางด้านอาหารที่มีอายุยาวนานมากกว่า 400 ปี ทำให้มาเก๊าได้รับการกำหนดให้เป็น ‘เมืองสร้างสรรค์แห่งศิลปะการทำอาหาร’ ของ UNESCO เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2017 อาหารการกินที่นี่เขาก็เรียกกันว่า ‘แมคกานีส’ (Macanese) ที่แปลได้ทั้ง อาหารมาเก๊า และ คนมาเก๊า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างอาหารโปรตุกีส และอาหารจีน ปรุงจากวัตถุดิบหลากหลายที่มาทั้งจากยุโรป อเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วัฒนธรรมการกินและการทำอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของมาเก๊า กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง มีตั้งแต่อาหารจากร้านอาหารระดับโลก เรื่อยไปจนร้านอาหารตามตรอกซอกซอยที่จะมอบประสบการณ์การกินอาหารรสชาติมาเก๊าแท้ ๆ และยังมีอาหารอีกหลากหลายสไตล์ให้เลือกชิม ทั้งโปรตุเกส จีน ญี่ปุ่น อินเดีย รวมถึงไวน์โปรตุเกสชั้นเยี่ยม และทาร์ตไข่ที่กำลังเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ สมกับฉายาเมืองแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมโดยแท้จริง
ส่วนน้ำสะอาดในมาเก๊ามาจากจีนแผ่นดินใหญ่โดยตรง มีการเพิ่มคลอรีนลงไปเพื่อทำให้สะอาดและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น โรงแรมและร้านอาหารทุกแห่งมีบริการน้ำดื่มที่ได้จากการกลั่น
9
กิจกรรมและเทศกาลสำคัญ
ด้วยส่วนผสมของวีถีชาวตะวันตกและตะวันออก ทำให้มาเก๊ามีกิจกรรมน่าตื่นเต้นจัดขึ้นตลอดทั้งปี อาทิ งานเฉลิมฉลองตามประเพณีจีนอย่างเช่น วันตรุษจีน งานเลี้ยงฉลองเทพเจ้าทัวเท เทศกาลเทพอาม่า การแข่งขันเรือมังกรนานาชาติมาเก๊าประจำปี และเทศกาลตันอึง หรือเทศกาลเรือมังกร ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาเก๊า
หรือจะเป็นเทศกาลเดินขบวนพาเหรดรอบเมืองมาเก๊าประจำปีที่ผู้คนรอคอย เรื่อยไปจนถึงเทศกาลสำคัญของชาวตะวันตกอย่างเช่น เทศกาลอีสเตอร์ การจัดขบวนแห่พระแม่ฟาติมา และวันคริสต์มาส ดูปฏิทินสำหรับงานต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ https://www.macaotourism.gov.mo/th/events/calendar
10
เตรียมตัว เตรียมไฟ แต่ไม่ต้องห่วง WI-FI
มาเที่ยวมาเก๊าอย่ากลัวหมดไฟ ที่มาเก๊าใช้ไฟฟ้าแบบ 230V, 50Hz ปลั๊กไฟที่ใช้ในมาเก๊าเป็นแบบสามขา ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือแบบทรงกลม (ควรตรวจสอบก่อนที่จะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า) เรื่องอินเตอร์เน็ตที่นี่ยิ่งหายห่วง มาเก๊ามีบริการ Wi-Fi ฟรีตามสถานที่ต่าง ๆ ภายใต้ชื่อ ‘FreeWiFi.MO’ ใช้ได้ทั้งคนพื้นที่และนักท่องเที่ยว รายละเอียดเพิ่มเติม www.freewifi.mo หรือดาวน์โหลด FreeWiFi.MO มาเก็บไว้เพื่อความอุ่นใจ
อ่านจบแล้วเตรียมตัวเที่ยวให้สนุก! และเตรียมพบกับเรื่องราวจาก บ้านและสวน Explorers Club และเพื่อน ๆ ของพวกเรา ในการไปเที่ยวมาเก๊าเร็ว ๆ นี้
ที่มาของข้อมูลอ้างอิงจาก www.macaotourism.gov.mo
PHOTOGRAPHER: Lilly J.
.
