หากไม่ได้เดินทางมาเห็นกับตาตัวเองก็ไม่รู้เลยว่า ‘โคโลอาน’ (Coloane) เป็นเหมือนเมืองที่พักใจ สำหรับผู้คน ให้ได้พักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ มีต้นไม้ใหญ่ ไร้ตึกสูง อากาศดี และยังเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวมากที่สุดของมาเก๊าอีกด้วย
เราแปลกใจเล็กน้อยกับบรรยากาศกลางวันแสก ๆ แดดเปรี้ยง แต่แถวนี้ก็ดูร่มครึ้ม ไม่ได้รู้สึกถึงความร้อนอบอ้าวแผดเผาสักเท่าไร นอกจากฤดูกาลเป็นใจ อาจเป็นเพราะแถวนี้ไม่มีตึกสูง และอยู่ใกล้ทะเลโล่ง ๆ อากาศเลยพัดผ่านได้ดี

แต่ความลับอีกอย่างที่เราพบเจอก็คือ ริมถนนทุกจุดอุดมไปด้วยต้นไทรใหญ่ที่นอกจากสร้างความร่มรื่นให้กับพื้นที่ได้อย่างดีแล้ว ผลของมันยังเป็นเหมือนร้านอาหารบุฟเฟ่ต์อิ่มไม่อั้นให้กับบรรดานก และสัตว์เล็ก ๆ ในธรรมชาติ เราจึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเห็น ‘นกปรอดหัวโขน’ ส่งเสียงหวาน ๆ ดังระงม บินกันให้ว่อนไปทั่ว ทำให้คิดว่านี่ถ้าหากเป็นบ้านเราสงสัยคงอยู่ในกรงไปหมดแล้ว

จากการตัดแต่งอย่างถูกวิธี ทำให้ต้นไม้ใหญ่แผ่เรือนยอดให้ผู้คนได้ใช้ประโยชน์จากความร่มรื่น นก และสัตว์เล็ก ๆ ได้ที่อยู่อาศัย ในขณะเดียวกันก็ทำให้เมืองดูมีเสน่ห์ และมีทัศนียภาพที่สวยงามไปด้วย เราแทบไม่เห็นต้นริมทางต้นไหนหัวกุดผิดรูปเลย มันเป็นการแสดงออกถึงการให้ความสำคัญ และเรื่องการจัดการต้นไม้ใหญ่กับพื้นที่สาธารณะ และผู้คน ก็ต้องยอมเขาว่าทำได้ออกมาดีมาก ไม่ใช่แค่เฉพาะที่โคโลอานเท่านั้น แต่มันหมายถึงทั้งเมืองมาเก๊าเลย

เราเริ่มต้นสำรวจเมืองนี้กันที่บริเวณวงเวียน Ramalho Eanes Garden แถวนี้จะเป็นเหมือนจุดเชื่อมต่อของการเดินทางจากโซนอื่นมาที่เมืองนี้ ใกล้ ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของร้าน Lord Stow’s Bakery ทาร์ตไข่ต้นตำหรับเจ้าดังของมาเก๊า ถึงคุณจะอิ่มจากไหนมาก็ตาม อย่าได้พลาดที่จะลิ้มลองความอร่อยของมันในแบบสดใหม่จากเตา



จากวงเวียน Ramalho Eanes Garden คุณสามารถเดินเล่นไปตามถนนริมทะเลที่คนแถวนี้จะเรียกว่า ‘ถนนแห่งการเดินเรือ’ บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน ที่เรียกว่า หมู่บ้านโคโลอาน (Coloane Village) ชุมชนเล็ก ๆ น่ารักริมทะเล แถวนี้จะเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่สองสามแห่ง คือ โบสถ์เซนต์ฟรานซิส ซาเวียร์ กับอนุสาวรีย์ปราบโจรสลัด และใกล้ ๆ กันจะเป็นห้องสมุดอาคารสไตล์ยุโรปสวยงาม
จากถนนริมทะเลนี้หากมองออกไปยังฝั่งตรงข้าม จะสามารถมองเห็นจีนแผ่นดินใหญ่ได้เลย โดยแถวนี้จะมีท่าเรือสำหรับข้ามฝั่งด้วย แต่เฉพาะคนพื้นที่เท่านั้นที่สามารถใช้บริการได้ นักท่องเที่ยวอย่างเราอย่าไปทะเล่อทะล่าเผลอเดินไปข้ามเข้าล่ะ บ้านแถวนี้จะมีสีสันสดใส โทนพาสเทลหน่อย ๆ ให้อารมณ์ความเป็นเอเชียผสมกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียนนิด ๆ บ้านหลังขนาดกะทัดรัดบางหลังเป็นร้านอาหาร และคาเฟ่ที่มีบรรยากาศเป็นกันเอง



เราอยากแนะนำว่าไม่ควรพลาดที่จะได้ลองมาอุดหนุนร้านค้าแถวนั้น บางร้านที่เราเดินเข้าไปมั่ว ๆ ก็กลายเป็นเจอของดีแบบบังเอิญ อย่างร้านไอศกรีมโฮมเมด Tinghai Coloane Cream ที่พวกเราก็สุ่มเดินเข้าไป เห็นทางเข้าดูธรรมดา ๆ ก็ไม่คิดว่า จะเป็นร้านสุดป๊อปของย่านนี้ เลยซัดไปคนเดียวสองโคนใหญ่เพราะไหน ๆ ก็มาแล้ว เลิศทั้งรสช็อกโกแลต และรสนม





บ้านแถวนี้จะมีสีสันสดใส มีความเป็นเอเชียผสมกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียนนิด ๆ บ้านหลังขนาดกะทัดรัดหลายหลังเป็นร้านอาหาร และคาเฟ่บรรยายกาศเป็นกันเอง และคุณก็ไม่ควรพลาดที่จะได้ลองอุดหนุนร้านค้าแถวนั้น เราสามารถใช้เวลาเดินสำรวจที่นี่ได้พักใหญ่ ตามตรอกซอกซอยเล็ก ๆ มีสตรีทอาร์ต และมุมสวย ๆ หลายมุม เดินไปเดินมาก็จะวนมาที่เดิมอยู่ดีไม่ต้องกลัวจะหลงทาง เพราะตามตรอกซอยแถวนี้จะทะลุถึงกันได้หมด
หรือจะต่างคนต่างเดิน แล้วมานั่งร่ม ๆ นัดเจอกันตรงโบสถ์เซนต์ฟรานซิส ซาเวียร์ ก็ได้ง่ายดี
EXPLORERS: ตู่, บาส, นัท, ปิง, แพรวา, ปุ๊กกี้, นัด, ปลา
AUTHOR: บาส-บดินทร์ บำบัดนรภัย
PHOTOGRAPHER: แพรวา-กรานต์ชนก บุญบำรุง