หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเดินทางในฤดูฝน และอยากสัมผัสบรรยากาศตามชื่อเรื่อง ผมมีอยู่หนึ่งสถานที่ในประเทศไทย ที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับการนั่งรถไฟและเที่ยวป่าฝนอย่างสบายอารมณ์ นั่นคือที่ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล พื้นที่ป่ารอยต่อระหว่างจังหวัดลำพูนกับลำปาง
โดยการเดินทางครั้งนี้ทางทีมของเราได้รับการสนับสนุนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ด้วยขบวนรถด่วนขบวนพิเศษ “อุตราวิถี” ซึ่งภายในตกแต่งอย่างทันสมัย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เช่น จอ LED แบบสัมผัสเพื่อบอกพิกัดของรถไฟ ปลั๊กชาร์จไฟสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อ่างล้างมือ และห้องน้ำที่แยกส่วนระหว่างห้องอาบน้ำกับโถปัสสาวะ เมื่อได้มาสัมผัสบรรยากาศความทันสมัยเช่นนี้ ทำให้ผมลืมภาพจำที่เคยมีกับรถไฟไทยไปเลย เพราะการเดินทางของเราครั้งนี้สะดวกสบายมากขึ้นกว่าครั้งไหน ๆ
เราเดินทางออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 18.10 น. ด้วยขบวนรถที่ 9 กรุงเทพ – เชียงใหม่ เหตุผลของการเลือกเดินทางในเวลากลางคืน เพราะว่าเราสามารถนอนหลับพักผ่อนไปบนตู้โดยสารของรถไฟได้ และเป็นการเก็บแรงไว้ท่องเที่ยวเมื่อเราไปถึงสถานีปลายทาง เนื่องจากสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 การรถไฟฯ จึงไม่มีบริการอาหารแบบเต็มรูปแบบ ดังนั้นผู้โดยสารจึงควรเตรียมอาหารมารับประทานระหว่างเดินทางด้วย
เราเดินทางมาถึงสถานีปลายทางในเวลา 06.00 น. บรรยากาศยามเช้าบนสถานีขุนตาน สถานีรถไฟเล็ก ๆ ที่ให้ความรู้สึกคลาสสิกเมื่อเราก้าวเท้าลงถึงชานชาลา เป็นบรรยากาศยามเช้าที่สงบและสวยงาม พร้อมมีเรื่องราวของอุโมงค์ขุนตานภาพความทรงจำในใจ พวกเราจัดแจงร่างกายของตัวเองไปอาบน้ำล้างหน้าเพื่อเรียกความรู้สึกสดชื่น แวะรับประทานอาหารเช้ากับกาแฟอุ่น ๆ ก่อนเดินทางขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล
เสน่ห์อย่างหนึ่งของการเที่ยวป่าในฤดูฝนคือ ความเขียวชอุ่มของแมกไม้นานาพรรณ ไม่ว่าคุณจะมองทางไหนก็รู้สึกสดชื่น ในช่วงเวลาเช่นนี้ ความชื้นในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ มีงานวิจัยบางชิ้นกล่าวว่า การได้อยู่ท่ามกลางป่าไม้และธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจได้ อย่างในประเทศญี่ปุ่นที่มีวิธีการอาบป่า หรือชินรินโยกุ ซึ่งเป็นวิถีปฏิบัติที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพื่อบำบัดร่างกายและจิตใจที่อ่อนล้าให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เป็นสถานที่ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย มีลานกางเต็นท์ชื่อไพเราะว่า “ลานชมดาว” ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่เดียวกับที่ทำการสำนักงานฯ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบเงียบ ลองเดินขึ้นไปกางเต็นท์ที่จุดยุทธศาสตร์ 1-4 คุณจะได้บรรยากาศการกางเต็นท์ที่สงบเงียบ โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีร้านค้าจำหน่ายอาหาร และห้องน้ำไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวที่ประสงค์ค้างแรมในบ้านพัก ทางอุทยานฯ มีบ้านพักให้เลือกหลายรูปแบบ พร้อมกับวิวธรรมชาติที่จะทำให้เช้าวันใหม่ของคุณสดชื่นกว่าทุก ๆ วัน
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติในแต่ละจุดกางเต็นท์ เป็นเส้นทางสำหรับผู้เริ่มต้นเดินป่า หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นสนามซ้อมสำหรับการเดินป่าระยะไกล นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากเดินป่า แต่ยังไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง ผมแนะนำว่าลองมาเดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานฯ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และถือเป็นการออกมาใช้เวลากับธรรมชาติไปในตัว
การเดินทางมาท่องเที่ยวป่าในฤดูฝน บางครั้งเราก็ไม่ต้องการทำกิจกรรมเยอะมาก เพียงแค่นั่งอยู่ในเต็นท์แล้วฟังเสียงฝน ก็รับรู้ถึงความรู้สึกสบายใจและสดชื่นได้ เมื่อฝนค่อย ๆ ซาเม็ดค่อยออกมานั่งหน้าเต็นท์ชื่นชมความงามของธรรมชาติกันต่อ แม้ความชื้นในอากาศจะค่อนข้างสูง แต่ที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล กลับไม่ปรากฏตัวทากดูดเลือดให้พวกเราเป็นกังวล ผมพบเเค่เพียงหอยทากตัวน้อยคลานช้า ๆ อยู่ตามใบหญ้า และแมลงรูปร่างแปลกตาบินสลับไปมา
ทางทีมของเราเลือกกางเต็นท์ที่ลานสน ย.2 โดยเหตุผลส่วนตัว ผมคิดว่าจุดนี้บรรยากาศดี วิวทิวทัศน์สวยงาม มีห้องน้ำอยู่ใกล้ ๆ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเดินทางไปชมน้ำตกตาดเหมย แม้เส้นทางจะยากลำบากไปหน่อย แต่ก็เป็นความคุ้มค่าที่ได้เยี่ยมชมสักครั้ง จุดสำคัญอีกแห่งหนึ่งในอุทยานฯ คือจุดชมวิว ย.4 ที่มีภาพของอาทิตย์อุทัยอันงดงาม ถ้าโชคดีเราอาจได้พบเห็นทะเลหมอกเป็นฉากหน้าของแสงอรุณที่เส้นขอบฟ้า หากอยากเก็บภาพอันน่าประทับใจเช่นนี้ แนะนำว่าควรเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวตั้งแต่หัวรุ่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อจะได้ไม่พลาดบรรยากาศยามเช้าที่ตระการตา แต่ในช่วงฤดูฝนที่เมฆมักบดบังท้องฟ้าจนเป็นสีเทาครื้ม ซึ่งอาจมองไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามเท่ากับช่วงอื่นของปี แต่พอเวลาสายแสงอาทิตย์จะค่อย ๆ แทรกผ่านม่านหมอกลงมาได้บ้าง เราก็จะพบกับความงามของธรรมชาติในอีกมิติหนึ่ง
วันสุดท้ายของการเดินทางก่อนกลับกรุงเทพฯ ยังพอมีเวลาสำหรับกิจกรรมอื่น ๆ เราจึงตัดสินใจไปเดินชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ทำให้ได้เห็นความสุขที่เรียบง่ายของชาวบ้านตำบลท่าปลาดุก อำแม่ทา จังหวัดลำพูน พร้อมกับพูดคุยกับนายสถานีรถไฟ และแม่ค้าที่นั่งหยอกล้อกับสุนัขจรที่มาอาศัยนอนในสถานีฯ ขณะที่บางคนในทีมขอตัวไปเดินเล่นถ่ายรูปเก็บบรรยากาศรอบ ๆ ช่วยให้รู้ว่า บางครั้งความสุขก็ไม่ได้เกิดจากสิ่งที่อยู่ไกลตัว การเดินทางมักเปิดมุมมองความสุขอย่างง่าย ๆ ให้เราเสมอ
“ที่สถานีขุนตาน ผู้คนมักเดินทางมาอย่างเนืองแน่นในวันหยุดสุดสัปดาห์ วันธรรมดาก็พอมีบ้างประปราย” พี่ริ่ว นายสถานีรถไฟขุนตาน กล่าวและเสริมว่า ” ถ้าที่นี่ไม่มีอุโมงค์ขุนตาน ไม่มีอุทยานแห่งชาติฯ สถานีนี้ก็คงเงียบเหงาไม่มีชีวิตชีวา เป็นทางผ่านเหมือนกับอีกหลายสถานี” พวกเราขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายของวัน บอกลาความสงบ ก่อนจะไปใช้ชีวิตกับการทำงานในเมืองใหญ่ต่อไป
ขอขอบคุณ กองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เชิญให้เรามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ กับการนั่งรถไฟไปใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ และเราหวังว่าคุณก็คงอยากจะสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ แบบนี้เช่นกัน ต้องการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับขบวนรถเพิ่มเติม สามารถโทรติดต่อได้ที่สายด่วน 1690 นะครับ
อ่านเรื่องอุทยานแห่งชาติขุนตาลเพิ่มเติม https://ngthai.com/travel/25574/doikhuntannationalpark/
EXPLORERS: เจ, ตู่, ต้น