บล็อกเกอร์ดังลองนั่ง รถไฟจีน-ลาว

ตามติดบล็อกเกอร์ดังจากสปป.ลาว ลองนั่งรถไฟด่วน สายลาว-จีน ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้

ระบบรางของรถไฟสายนี้ถูกออกแบบให้สามารถรองรับรถไฟความเร็วสูงที่ใช้ความเร็วได้มากกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในส่วนที่วิ่งในสปป.ลาวจะวิ่งด้วยอัตราเร็ว 160-200 กม.ต่อชั่วโมงเท่านั้นสำหรับขบวนที่ใช้ขนส่งผู้โดยสาร แต่หากเป็นขบวนรถไฟขนส่งสินค้าจะจำกัดความเร็วที่ไม่เกิน 120 กม.ต่อชั่วโมง (BBC) จึงขอเรียกว่ารถไฟด่วน

ยอมรับเลยว่าเราเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้พี่น้อง สปป.ลาว และชาวจีนแผ่นดินใหญ่ สำหรับ Mega Project ที่ใคร ๆ ก็ต้องร้อง WOW! กับโครงการรถไฟลาว-จีน หรือเส้นทางรถไฟ “ล้านช้าง” ที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มาสิ้นสุดที่นครเวียงจันทน์ ที่สนนเวลาการเดินทางตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางเพียง 10 ชั่วโมง รวมระยะทาง 1,035 กิโลเมตร รวมสถานีทั้ง 2 ประเทศที่รับส่งผู้โดยสารรวม 21 สถานีในเฟสแรก วิ่งด้วยความเร็วระหว่าง 160-200 กิโลเมตร/ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ

ในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง (โครงการเริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี 2559) ฤกษ์ที่ใช้ให้เป็นวันเปิดอย่างเป็นทางการก็คือวันชาติของ สปป.ลาว เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา และวันแรกที่รถไฟขบวนปฐมฤกษ์ได้ออกจากชานชาลาก็คือวันที่ 4 ธันวาคม จากภาพข่าวที่เราติดตามก็ยิ่งทำให้อยากมีโอกาสได้ไปรีวิวความอลังการด้วยตัวเอง แต่แล้วโชคก็เข้าข้าง เพราะไม่นานเราก็ได้เห็นรีวิวแรกของคุณนู ช่างภาพ และ Travel Blogger เจ้าของสตูดิโอถ่ายภาพ Nouz Gallery ที่รีวิวเส้นทางจากเวียงจันทร์ สู่หลวงพระบาง บ้านและสวน Explorers Club จึงไม่ลังเลใจ ติดต่อไปพูดคุยเรื่องการเดินทางครั้งนี้ และนี่ก็คือความประทับใจที่เราได้รับจากประสบการณ์ของคุณนูในครั้งนี้ครับ

บล็อกเกอร์นักเดินทาง

“จริง ๆ ผมเป็นคนที่รักการเดินทาง และหาโอกาสที่จะเดินทางอยู่เรื่อย ๆ อยู่แล้วครับ อาจจะไม่ใช่ทริปที่ใหญ่หรือไกลมาก เพราะผมไม่ได้มีเวลาเยอะ ผมเลยชอบทริปแนวแคมปิ้ง เข้าป่าที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หรือทริปแบบ Road Trip บ้าง Bike Trip บ้างออกหาแรงบันดาลใจสนุกๆเป็นกลุ่ม ๆ ก็สนุกไปอีกแบบครับ

“ผมว่าชีวิตเรามีคุณค่ามากกว่าแค่เกิดมาเพื่อทำงานนะ และการเดินทางก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เราพบความหมายของชีวิต ได้เปิดมุมมองของชีวิต เพราะนอกจากได้ผ่อนคลาย ความสนุกทั้งระหว่างทาง และ ณ จุดหมายผมว่ามันช่วยให้ชีวิตมีสมดุลขึ้น หลายที่ ๆ ไปผมแทบไม่ได้เก็บความทรงจำเป็นภาพถ่าย แต่ใช้ความรู้สึกแลหัวใจซึมซับบรรยากาศตรงนั้น แต่นั้นก็ทำให้แอบเสียดายว่าทำไมไม่ถ่ายภาพ หรือเก็บวิดีโอเพื่อเก็บความทรงจำเอาไว้บ้างครับ ฮ่าๆ”

รถไฟด่วนที่รอคอย

“เอาจริง ๆ ผมได้ยินข่าวเรื่องโครงการรถไฟความเร็วสูงมา 5-6 ปีได้แล้วครับ คือข่าวว่าจะสร้าง มาจนถึงเริ่มสร้าง ตอนนั้นก็เรียกว่าไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก เพิ่งมาเมื่อกลางปีนี้ที่เริ่มมีการพูดถึงกันหนาหูใน Social Media บ้าง ในวงการคนชอบเดินทางด้วยกันบ้าง ก็เริ่มคิดว่าน่าจะทำการบ้านเผื่อไว้ จนใกล้เวลาที่เรียกว่าเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันชาติที่ผ่านมา ผมก็ตัดสินใจเพียงข้ามคืนเลยว่าผมจะไปลองนั่งให้ได้ ในที่สุดผมก็เดินทางไปที่สถานีเพื่อจับจองตั๋ว โดยความลงตัวอยู่ที่ตารางการเดินรถที่เหมาะเจาะทำให้ผมวางแผนเที่ยวหลวงพระบางได้แบบ One Day Trip สบายๆ เพราะจากเวียงจันทร์ – หลวงพระบาง ที่ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ที่สำคัญราคาค่าโดยสารก็ไม่สูงอย่างที่คิด นั่นคือเที่ยวละ 198,000 กีบ (574 บาทไทย) สำหรับชั้น 2

“รถเคลื่อนออกจากชานชะลาตอนเวลา 8 โมงเช้าพอดิบพอดี ดีที่ผมเผื่อเวลามาถึงสถานีเร็วหน่อยเพราะคิดว่าจะได้ถือโอกาสเยี่ยมชมในอาคาร และส่วนอื่นๆ ไปด้วย ความประทับใจของผมเริ่มต้นที่ระบบรักษาความปลอดภัย การเข้มงวดเรื่องการตรวจเช็คความพร้อมของผู้โดยสารทั้งเอกสาร และสัมภาระ ตัวอาคารก็ดูทันสมัย สะอาดสะอ้าน ผมผ่านทุกจุดตรวจไปถึงหน้าชานชะลา แน่นอนว่าหัวใจก็เต้นเร็วขึ้น เพราะเจ้าหัวจรวดที่เห็นตรงหน้าดูสวยเพรียวล้ำสมัย สมที่เป็นรถไฟที่หลายคนรอคอย เบาะที่นั่งกว้างขวาง หน้าต่างด้านข้างไสแจ๋วที่ทำให้ผมเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ระหว่างทางได้แบบเต็มๆตา ได้เวลาที่ผมจะเสพความสุขตรงหน้าอย่างเต็มที่อีกครั้ง”

เรื่องเล่าระหว่างทาง

“อย่างที่ผมบอกไป เรื่องระหว่างสำคัญไม่แพ้จุดหมาย การได้นั่งรถไปครั้งนี้ผมก็ถือโอกาสฟัง และแชร์ประสบการณ์ครั้งแรกของผู้ร่วมทางเช่นกัน หลายคนคิดเหมือนผมเรื่องการประหยัดเวลาไปมาก ที่ปกติการเดินทางจากเวียงจันทร์สู่หลวงพระบางด้วยรถนั้น อาจต้องใช้เวลาถึง 7-8 ชั่วโมง และเส้นทางก็ไม่สะดวกสบายในการขับรถ เทียบกับการนั่งเจ้าหัวจรวดที่เร็วและนิ่มขนาดนี้ต้องเรียกว่ามันดีงามกว่าเป็นไหนๆ บ้างว่าเรื่องตารางการเดินรถที่สามารถวางแผนการเดินทางไป-กลับได้ในข่วง 1 วัน ช่วยได้มากเรื่องการทำธุระที่สั้นลง พระภิกษุสงฆ์ที่นั่งอยู่ในแถวใกล้กัน ท่านประทับใจระบบการเดินรถ ความสะอาดเรียบร้อย และความทันสมัย ผมได้ประสบการณ์ ดีๆ ใหม่ ๆ จากผู้ร่วมเดินทางเป็นอย่างมากครับ”

สถานีนี้สู่สถานีต่อไป

“รถไฟจอดเทียบท่าหลวงพระบาง 10 โมงเป๊ะ ผมออกเดินทางตามแผนคร่าวๆ ที่ทำการบ้านมาเมื่อคืน เริ่มจากพระธาตุพูสี ตามด้วยพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหลวงพระบาง วัดสำคัญอย่างวัดเชียงทอง น้ำตกตาดกองสีที่ผมฝันว่าจะต้องมาให้ได้สักวัน ปิดท้ายทริปด้วยการลองลิ้มชิมเมนูข้าวซอยหลวงพระบางก็เป็นอันจบ นับเป็น One Day Trip ที่สนุก ครบ จบในช่วงเวลาเพียง 1 วันที่แสนคุ้มค่า ทริปหน้าผมตั้งใจจะไปให้ถึงเหนือสุดของ สปป.ลาว นั่นก็คืออุดมไทร และบ่อเต็น แล้วจะกลับมารีวิวความสนุกให้หมู่ (เพื่อนๆ) ทุกคนชาวบ้านและสวน Explorers Club อีกครั้งแน่นอนครับ ສະບາຍດີ”