Type and press Enter.

สุวรรณ ส.ทองประเสริฐ

คนริมคลอง นักศึกษาสาขาประมง นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล นักอนุรักษ์พะยูน เจ้าของเรือแท็กซี่พลังงานแสงอาทิตย์ หลากหลายบทบาทที่เกี่ยวพันกับสายน้ำตลอดเส้นทางของ สุวรรณ พิทักษ์สินธร แห่ง Thai Solar Taxi Boat สามารถบ่งบอกสิ่งที่เป็นหรือสิ่งที่เขาทำได้อย่างดี หากแต่ทั้งหมดนั้น ได้หล่อหลอมขึ้นจากหัวใจที่รักในสิ่งแวดล้อม และอยากทำทุกวิถีทางให้โลกที่อยู่ ไม่แย่ไปกว่านี้

เรามาพบกับพี่สุวรรณที่ท่าเรือหน้าวัดอัมพวัน บางใหญ่ นนทบุรี เพื่อข้ามเรือเข้าไปยังตัวบ้าน เนื่องจากยังไม่มีถนนตัดผ่าน ซึ่งพี่สุวรรณได้ขับเรือมารับด้วยตัวเอง เราจึงรู้ทันทีในแว่บแรกถึงความเชี่ยวชาญตามวิถีคนริมคลอง นอกจากทักษะการขับเรือที่มีแล้ว ยังเห็นถึงความคล่องแคล่วกระโดดขึ้นลง เดินบนกาบเรือ ผูกเงื่อนอย่างทะมัดทะแมง ส่งสัญญาณถึงเรื่องที่จะคุยกันในวันนี้ต้องสนุกแน่ ๆ

สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม
สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม
สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม

Eco Trip ล่องลำน้ำ ท่ามกลางความสงบ

สำหรับการท่องเที่ยว ช้าเร็วอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างทาง สัมผัสแรกที่เรารู้สึกบนเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ‘ส.ทองประเสริฐ’ ของพี่สุวรรณ คือความเงียบสงบให้ได้ดื่มด่ำกับการเดินทางไปอีกแบบ บางจังหวะอาจได้ยินเสียงเบา ๆ ของมอเตอร์ไฟฟ้าขึ้นมาบ้าง แต่ระดับเดซิเบลก็ยังห่างกลับเรือเครื่องสันดาปอยู่มากนัก

ระหว่างที่นั่งตรงชานบ้านริมน้ำ มีเรือหลายลำผ่านมา ส่งเสียงอื้ออึงจนฟังกันไม่รู้เรื่อง พี่สุวรรณใช้โอกาสนี้เล่าว่า  ถ้าเป็นเรือไฟฟ้า ก็จะไม่มีทั้งเสียง กลิ่น ควัน “คุณคิดดูนะ คลองแคบ ๆ มีเรือวิ่งเกือบทั้งวัน ไหนจะควัน ไหนจะคลื่น บางลำก็ขับเร็วและเสียงดังมาก เพราะในคลองมันไม่มีกำหนดความเร็ว แล้วชุมชนริมคลองเขาอยู่กับสิ่งนั้นตลอด ในแหล่งท่องเที่ยววันหนึ่งเขารับเรือ 30 เที่ยวเลยนะ ถ้าเรือแบบเรา (เรือไฟฟ้า) คลองก็จะเงียบสงบแบบที่นั่งมาเมื่อกี้นี้”

สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม

สำหรับ Thai Solar Taxi Boat คือเรือแท็กซี่นำเที่ยวในคลองอ้อมนนท์ ที่พี่สุวรรณได้นำมาเอาไอเดียเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้งาน โดยไม่ได้ตั้งใจทำกำไรในเชิงธุรกิจ เป้าหมายเขาคืองานที่ทำแก้เหงาหลังเกษียณ ให้มีสังคมได้พูดคุยกับผู้คน และหวังให้เป็นที่ Showcase เรือไฟฟ้าที่จุดประกายให้ผู้คนหันมาสนใจสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น

และในปัจจุบัน Thai Solar Taxi Boat กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวชมบรรยากาศวิถีชีวิตริมคลองเอาไว้ 2 เส้นทางหลัก เริ่มต้นที่ท่าน้ำวัดอัมพวัน บางใหญ่ มุ่งหน้าไปทางวัดชะลอ บางกรวยแล้ววกกลับ และอีกเส้นทางคือวิ่งไปทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาตรงแถวสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักท่องเที่ยว ซึ่งเรือ ส.ทองประเสริฐ ของพี่สุวรรณรองรับได้ 10 ที่นั่ง แต่ถ้าจะให้สบาย เที่ยวละ 6 คนถือว่ากำลังพอดี

“พี่อยากให้คนมาเที่ยวคลองอย่างมีความสุข ไม่ใช่นั่งเรือ วู้ดไป วู้ดมา ตะโกนคุยกัน แล้วก็บอกเบื่อไม่อยากมาแล้ว จริง ๆ แต่ก่อนพี่ก็ไม่ชอบนั่งเรือนาน ๆ นะ เพราะเสียงมันดัง หนวกหู เหม็นน้ํามัน พี่จึงพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อให้คนมารู้จักคลองและได้ตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่มาแล้วไม่อยากมาอีก เพจที่ทำขึ้นก็ไว้เป็นช่องทางการติดต่อ ไม่ได้ทำการตลาดอะไรเลย”

สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม
สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม

จาก พิทักษ์สมุทรสู่ .ทองประเสริฐ

ย้อนกลับก่อนหน้านี้ พี่สุวรรณเล่าเรื่องราวที่มาของเรือ ส.ทองประเสริฐ ให้เราฟังว่า เรือลำนี้ไม่ใช่เรือไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ลำแรกที่เขาพัฒนาขึ้น เพราะบทบาทการเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ข้าราชการในสังกัดกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำงานด้านอนุรักษ์อยู่กับท้องทะเล ซึ่งพี่สุวรรณนี้เองที่เป็นผู้ทำโครงการสำรวจจำนวนพะยูนและรณรงค์การอนุรักษ์อย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2530 หลังจากที่ก่อนหน้านั้น ไม่มีรายงานการพบพะยูนในน่านน้ำไทยนานหลายปี

ซึ่งภารกิจทางทะเลที่ต้องใช้งานเรืออยู่เป็นประจำ ทำให้พี่สุวรรณคิดเรื่องเรือที่ตอบโจทย์การใช้งานอนุรักษ์มาหลายสิบปี เขารึเริ่ม คิดค้น ออกแบบ และแก้ไขอยู่หลายต่อหลายครั้ง จนได้เรือต้นแบบมาทดลองใช้ กระทั่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากภาคธุรกิจเอกชนรายหนึ่ง จนเกิดเป็นเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ‘พิทักษ์สมุทร’ ออกโลดแล่นทำภารกิจในทะเลไทยยาวนานหลายปี และยังได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่าง ๆ มากมาย

สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม
สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม

“พูดถึงรางวัล พี่ก็รู้สึกผิดหวังนิด ๆ นะ (ยิ้ม) เรือพี่ได้รางวัลเกี่ยวกับด้านพลังงานมา 3 – 4 รางวัล แต่ความจริง เราคิดเรือแบบนี้ขึ้นมาเพราะต้องการสิ่งแวดล้อมที่ดี เรื่องพลังงานนั้นไม่ใช่เป้าหมายหลักเลย พี่ต้องการเรือที่ไม่ปล่อยมลพิษ ไม่ปล่อยคาร์บอน ไม่ทิ้งคราบน้ำมัน เสียงเงียบ

“คิดดูนะ ก็เรามาปกป้องดูแลเขา (สัตว์ทะเล) แล้วทําไมเราถึงมาทําลาย มาทําบ้านเขาสกปรก พี่ว่ามันไม่ถูก ตอนแรกก็คิดถึงเรือใบ แต่คิดว่าคงใช้งานยาก ต้องมีเทคนิคการขับ คนทั่วไปไม่ใช่ขับง่าย ๆ ถ้าไม่มีลมก็ไปไม่ได้ จนวันหนึ่งนั่งหลบแดดกันอยู่ก็คิดว่า บ้านเราแดดเยอะ แดดแรง ทำไมไม่มีเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เลยเป็นจุดเริ่มต้นของเรือพิทักษ์สมุทร”

สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม
สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม
สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม

กลับบ้าน มุ่งหน้าสู่ชีวิตที่เรียบง่าย

จากตรงชานบ้าน พี่สุวรรณชี้มือไปยังบ้านหลังถัดไป พลางเล่าว่านั่นเป็นบ้านของครอบครัวเขา ที่ตรงนี้คือที่ที่เขาเติบโตมา เคยโดดเล่นน้ำ ดำผุดดำว่ายตามประสา และเป็นที่ที่ปลูกฝังให้เขารักน้ำและสนใจสิ่งแวดล้อม จนพาตัวเองไปเรียนคณะประมงและได้ทำงานที่รักมาจนถึงเกษียณ กระทั่งการกลับมาซื้อที่ดินปลูกบ้านอยู่ติดกันตรงนี้ก็กลายเป็นแผนเกษียณด้วยชีวิตสงบริมคลองที่เขาหลงเสน่ห์มาโดยตลอด

และการกลับมาใช้ชีวิตริมคลองหลังเกษียณเป็นความต้องการของเขาและพี่อ๋อย-ภรรยา ด้วย เช่นเดียวกับการเป็นเจ้าของเรือสักลำก็สอดคล้องกับวิถีริมคลอง ซึ่งเรือ ส.ทองประเสริฐ ที่ได้นำเอาแนวคิดเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง ได้ตอบโจทย์หัวใจเขาได้ครบถ้วน

สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม
สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม

“จุดมุ่งหมายของเรือลำนี้ ไม่ใช่เรื่องงาน แต่เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะเราอยู่กับมัน หน้าบ้านเรา ตำบลเรา เราควรคิดว่าเราจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีหรือไม่ ไม่มีใครอยากให้หน้าบ้านเป็นคลองน้ำเน่า หรือถนนที่มีแต่ฝุ่น เรื่องพะยูนเราทําอะไรไม่ได้แล้วเพราะมันอยู่ไกลเกินไป แต่เรายังมีความรู้ด้านนี้ เรื่องเรือไฟฟ้าเราทําได้เลย อยู่หน้าบ้านเรา

“อยู่ริมคลอง เราได้เห็นอะไรที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แต่เปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ ไหลเอื่อย ๆ ชีวิตมันจะช้า ๆ เย็น ๆ ไม่มีไอร้อน ไม่มีฝุ่น มีต้นไม้เยอะ มันคือเสน่ห์ของชุมชนริมน้ํา ที่ยังพอเห็นคนใช้ชีวิตแบบเก่าอยู่ คือคนเราโดยปกติถ้าเห็นอะไรที่เราไม่เคยรู้จักมันจะมีความแปลกตาอยู่แล้ว ตั้งแต่เด็ก พี่ชอบน้ํา ชอบเรือแต่ไม่ได้รู้ลึกมาก แค่รู้หลักการทําเรือว่าต้องเป็นอย่างไร ใบจักรเรือพี่ก็ใช้แบบที่ชาวบ้านใช้ ถึงมันจะมีหลายแบบเราก็แค่ไปเลือกมาใช้ให้ถูก ทดลองไปเรื่อย ๆ ก็เจอแบบที่เหมาะกับเรือเราเอง”

สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม

ความรู้ที่มี ยินดีแบ่งปัน

ตลอดการพูดคุยมากว่าชั่วโมง ใจเราเริ่มสัมผัสได้ถึงหัวใจที่รักสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงของพี่สุวรรณ จนเผลอคิดได้ว่า เรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เขาเล่าถึงนั้นเป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่งในการไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่าคือสิ่งแวดล้อมที่ดี และเขามองว่าการท่องเที่ยวชุมชนในแบบที่ทำอยู่นี้ก็ยังมีความท้าทายรออยู่อีกมากหากจะขยายไปในวงกว้าง เป้าหมายที่ว่านี้ยังต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจอย่างมหาศาลจากทุกคน

ส่วนที่พี่สุวรรณทำได้ ทำอยู่ และจะทำต่อไป คือการแบ่งปันองค์ความรู้เกี่ยวกับเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ออกไปเรื่อย ๆ แก่ทุกคนที่ต้องการ “พอพี่ทําเรือแบบนี้ได้แล้ว ก็คิดว่าถ้าใครอยากทําเรือไฟฟ้าติดต่อมาได้เลย พี่ยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตอนนี้ก็เป็นที่ปรึกษาให้โครงการเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี อยู่ด้วย และอีกสองรายที่บางน้ำผึ้งกับที่วัดไร่ขิง ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา”            

หลังจบบทสนทนา เราแอบคิดไปว่า หากในคลองทุกคลอง แม่น้ำทุกสาย มีแต่เรือไฟฟ้าวิ่งกันไปมากันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ความสงบเงียบน่าจะช่วยเติมเต็มเสน่ห์ของการเดินทางทางน้ำให้เพิ่มขึ้นอีกมากมายเลยทีเดียว

สุวรรณ พิทักษ์สินธร ชวนคนออกเดินทาง ชมชีวิตริมน้ำแบบไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม

EXPLORER: สุวรรณ พิทักษ์สินธร
AUTHOR: เอ็กซ์-พงษ์อมร ต้นสายเพ็ชร
PHOTOGRAPHER: ต้น-ศุภกร ศรีสกุล