Type and press Enter.

Cycling the Clouds ปั่นจักรยานทั่วไทย พาหัวใจกลับบ้าน

Cycling the Clouds ปั่นจักรยานทั่วไทย พาหัวใจกลับบ้าน ของ ‘ฮุ้ง-ณัฏฐนันท์ ประเสริฐรัสมี’

ปั่นจักรยานทั่วไทย พาหัวใจกลับบ้าน ตอนที่ 1 จากแม่ริม สู่ดอยอ่างขาง โดย ‘ฮุ้ง-ณัฏฐนันท์ ประเสริฐรัสมี’

หากนับตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2564 ในวันเริ่มออกสตาร์ทจนถึงวันนี้ ก็ใกล้จะครบสามเดือนเต็มแล้วที่ ‘ฮุ้ง’ ปั่นจักรยานออกจากบ้านในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายคือการเดินทางไปทั่วไทย ไปให้ครบทุกอุทยานแห่งชาติ แล้วกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ ซึ่งป่านนี้คงกำลังมุ่งหน้าสู่ภูอีเลิศ จังหวัดเลย ตามบันทึกระหว่างทางในโพสต์ล่าสุดที่เธอเขียนลงในเพจ ‘Cycling the Clouds’ ของตัวเองเป็นประจำ เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ที่พบเจอในทุก ๆ ด้านสู่คนที่กำลังติดตามการเดินทางพร้อมสองล้อคู่ใจของเธออยู่

ส่วนในบทความนี้ที่เธอเขียนส่งมาบอกเล่ากับ ‘บ้านและสวน Explorers Club’ โดยเฉพาะ จะพาย้อนไปสู่เรื่องราวในช่วงเริ่มต้น พร้อมเหตุผลที่ทำให้เธออยากปั่นจักรยานคนเดียวบนเส้นทางยาว 16,000 กว่ากิโลเมตร จบภายในเวลา 1 ปี นี่คือบันทึกจากแม่ริมสู่ดอยอ่างขาง ในเส้นทางแม่แตง – เชียงดาว – อ่างขาง – ฝาง – ท่าตอน ในช่วงเริ่มต้นที่ฮุ้งต้องกางเต็นท์นอนข้างวัด ผูกเปลนอนริมอ่างเก็บน้ำ หรือแม้แต่ขออาศัยนอนกางมุ้งที่โรงเรียนก็ทำมาแล้ว

Cycling the Clouds ปั่นจักรยานทั่วไทย พาหัวใจกลับบ้าน ของ ‘ฮุ้ง-ณัฏฐนันท์ ประเสริฐรัสมี’
คืนแรกขอกางเต็นท์นอนข้างวัด
Cycling the Clouds ปั่นจักรยานทั่วไทย พาหัวใจกลับบ้าน ของ ‘ฮุ้ง-ณัฏฐนันท์ ประเสริฐรัสมี’
คืนที่ 2 ผูกเปลนอนริมอ่างเก็บน้ำ

บันทึกจากแม่ริมสู่ดอยอ่างขาง

.“Run, Forrest, Run! ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump คงจำประโยคนี้ได้ ตอนที่ฮุ้งคิดจะออกไปปั่นจักรยาน คือตอนที่ฮุ้งเริ่มรู้สึกว่าอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ผลกระทบที่ได้รับจากสถานการณ์โควิด การติดอยู่กับที่แบบไร้ความหวัง งานไม่มี สภาพจิตใจย่ำแย่ ภาพ Forrest Gump ที่ออกวิ่งก็ผ่านเข้ามาในหัว ‘เออ หรือเราต้องออกไปทำอะไรสักอย่างเพื่อเยียวยาตัวเองนะ’ การอยู่อย่างนี้มีแต่จะทำให้จิตใจและร่างกายแย่ลง”

“ทุกวันที่ตื่นขึ้น ฮุ้งแทบไม่มีแรงลุกจากที่นอน คิดไม่ออกว่าจะตื่นมาทำอะไร ไม่มีกะจิตกะใจจะคิดอะไรใหม่ ๆ พยายามหาอะไรทำ ถักโครเชต์ก็แล้ว วาดรูปก็แล้ว อ่านหนังสือก็แล้ว แต่ก็ช่วยได้แค่ตอนที่มีสมาธิอยู่กับสิ่งนั้น หลัง ๆ ทำไปก็เริ่มง่วง จากง่วงเฉพาะตอนทำงานก็พาลไปง่วงเกือบตลอดเวลา”

“ฮุ้งบอกตัวเองว่าปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้แล้ว ฮุ้งจึงเริ่มออกไปปั่นจักรยานออกกำลังกายแถวบ้าน วันไหนที่ไม่ได้ออกไปปั่น ฮุ้งฝึกโยคะ หลังจากนั้นจะนั่งสมาธิ มันช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมาก ความง่วงทั้งวันเริ่มหายไป อาการปวดหัวแบบไมเกรนก็หาย รู้สึกโล่ง ปลอดโปร่ง กระฉับกระเฉง แต่เมื่อยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ ก็ทำให้ฮุ้งกลับมาซึม ๆ อีก ฮุ้งเลยตัดสินใจว่าต้องออกไปในที่ใหม่ ๆ บ้างแล้ว ไปให้ธรรมชาติเยียวยา และไปก่อนที่ร่างกายจะเสื่อมไปตามอายุขัย แล้วจะหมดแรงทำอะไรไปเสียก่อน”

“ความคิดเรื่องการปั่นจักรยานทางไกลจึงเกิดขึ้น ฮุ้งเริ่มวางแผน ศึกษาเส้นทาง ศึกษาเรื่องของจักรยาน ดูคลิปตัวอย่างคนที่เคยปั่นทางไกลทั้งไทยและต่างชาติเยอะมาก ศึกษาจักรยานที่จะเข้ากับสรีระเรา ซ้อมปั่นแบบค่อย ๆ เพิ่มระยะทาง ตอนที่เริ่มฮุ้งมีเงินในบัญชีหลักร้อย แต่ก็ได้ความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ที่อยากสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นจักรยาน สิ่งของ หรือเงินทุน เมื่อทุกอย่างพร้อมฮุ้งจึงเริ่มออกเดินทาง”

Cycling the Clouds ปั่นจักรยานทั่วไทย พาหัวใจกลับบ้าน ของ ‘ฮุ้ง-ณัฏฐนันท์ ประเสริฐรัสมี’
คืนที่ 3 นอนน้ำตกหมอกฟ้า อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย
น้ำตกหมอกฟ้า แม่แตง
จากแม่แตงสู่เชียงดาว กับวิวดอยหลวงเชียงดาว ระหว่างทางไปพักบ้านเพื่อน
จากแม่แตงสู่เชียงดาว กับวิวดอยหลวงเชียงดาว ระหว่างทางไปพักบ้านเพื่อน

เรื่องสนุกระหว่างทางในบางส่วนที่เราอยากชวนให้คุณไปอ่านต่อ

นอกเหนือจากเรื่องที่เธอเขียนส่งมาเล่า เราได้เข้าไปอ่านเรื่องราวการเดินทางของเธอเพิ่มเติมซึ่งอยากบอกว่าสนุกมาก ตั้งแต่จุดหมายในสัปดาห์แรกของฮุ้งที่ปักหมุดไปเมืองคอง แต่แค่เริ่มออกเดินทาง day 1 เธอก็ได้นอนวัดสุวรรณาวา (นาหืก) ในอำเภอแม่ริม เสียแล้ว

เธอเขียนบันทึกไว้ว่านี่เป็นการขอนอนวัดครั้งแรกของเธอ ถึงแม้จะขออนุญาตเจ้าอาวาสกางเต็นท์ อาบน้ำในห้องน้ำของวัด กินลาบ ส้มตำ ข้าวเหนียวเป็นมื้อเย็น ก่อนนอนดูดาวหน้าเต็นท์เรียบร้อยแล้ว แต่ก็มิวายมีเจ้าหน้าที่ของชุมชนมาตรวจสอบด้วยความไม่รู้ เพราะมีคนไปแจ้งว่ามีคนแปลกหน้ามากางเต็นท์หน้าวัด (ซึ่งในมุมของเรา-บ้านและสวน Explorers Club ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ชาวบ้านช่วยกันสอดส่องนะ) สุดท้ายคุยกันเข้าใจ เจ้าหน้าที่คนนั้นยังตบท้ายด้วยว่า ที่หมู่บ้านนี้ปลอดภัย ไม่มีปัญหาอะไร เชิญพักผ่อนตามสบาย

วันที่ 6 มาถึงอุทยานแห่งชาติผาแดง
วันที่ 6 มาถึงอุทยานแห่งชาติผาแดง
กางเต็นท์ในอุทยานฯ ที่มีน้ำตกศรีสังวาลย์
กางเต็นท์ในอุทยานฯ ที่มีน้ำตกศรีสังวาลย์

หรืออีกหนึ่งตอนที่อ่านสนุกไม่แพ้กัน คือวันที่ 7 ของการเดินทาง เธอออกจากน้ำตกศรีสังวาลย์ อุทยานแห่งชาติผาแดง เพื่อปั่นไปขึ้นดอยอ่างขาง ในระยะทางมากกว่า 50 กิโลเมตร ปั่นไป เข็นไป ในช่วงแดดร้อนเธอเล่าว่าแทบจะเข็นไม่ไหว จนได้มาเจอร้านบะหมี่ต้าหยงยูนนาน กินไป 2 ชาม ช่วยเพิ่มพลัง ฮุ้งบอกว่า ร้านนี้เส้นเขาทำเอง อร่อยดีทีเดียว

แต่ไฮไลต์ของวันคือช่วงฟ้าเริ่มมืด เพราะปรากฏว่าโรงเตี๊ยมที่เล็งไว้ว่าจะไปค้างแรมดันไม่เปิดบริการ เธอต้องปั่นลงเนินไปบ้านผาแดงอีก 3 กิโลเมตร จนถึงโรงเรียนบ้านผาแดง แต่ก็ยังไม่สามารถหาที่พักได้ จนสุดท้ายต้องขออาศัยนอนที่โรงเรียนบ้านผาแดง แต่เธอก็โชคดีตรงที่ได้คุณครูใจดีเอามุ้งสำเร็จมาให้นอนในห้องเรียนแทนการกางเต็นท์หน้าอาคาร จึงได้นอนในห้องอุ่น  ๆ ได้อาบน้ำ และชาร์จแบตเพื่อเติมพลังก่อนออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น

แวะกินบะหมี่ยูนนานร้านต้าหยงบะหมี่เกี๊ยวยูนนาน ระหว่างทางไปดอยอ่างขาง
แวะกินบะหมี่ยูนนานร้านต้าหยงบะหมี่เกี๊ยวยูนนาน ระหว่างทางไปดอยอ่างขาง
ระหว่างทางไปดอยอ่างขาง มืดกลางทาง ต้องขออาศัยนอนที่โรงเรียนบ้านผาแดง ครูใจดีให้นอนในห้องเรียนและเอามุ้งมาให้ คืนนี้สบายไม่ต้องกางเต็นท์
ระหว่างทางไปดอยอ่างขาง มืดกลางทาง ต้องขออาศัยนอนที่โรงเรียนบ้านผาแดง ครูใจดีให้นอนในห้องเรียนและเอามุ้งมาให้ คืนนี้สบายไม่ต้องกางเต็นท์
ออกจากโรงเรียนบ้านผาแดงมานิดเดียวก็ได้ลงเข็น เลยต้องพักก่อน
ออกจากโรงเรียนบ้านผาแดงมานิดเดียวก็ได้ลงเข็น เลยต้องพักก่อน
เส้นทางหลังออกจากโรงเรียนบ้านผาแดง
แวะถ่ายรูปกับดอกบัวตองข้างทางสักหน่อย
แวะถ่ายรูปกับดอกบัวตองข้างทางสักหน่อย
จุดชมวิวซุยถัง ระหว่างทางก่อนถึงลานกางเต็นท์ม่อนสน อ่างขาง ตรงนี้ก็มีลานกางเต็นท์เช่นกัน ดีงาม วิวสวยด้วย
จุดชมวิวซุยถัง ระหว่างทางก่อนถึงลานกางเต็นท์ม่อนสน อ่างขาง ตรงนี้ก็มีลานกางเต็นท์เช่นกัน ดีงาม วิวสวยด้วย
ลานกางเต็นท์ม่อนสน ดอยอ่างขาง
ลานกางเต็นท์ม่อนสน ดอยอ่างขาง
เปิดเต็นท์มาเจอพระอาทิตย์ ชมแสงเช้ากับทะเลหมอกจากเต็นท์ ฟินไปเลย
เปิดเต็นท์มาเจอพระอาทิตย์
ชมแสงเช้ากับทะเลหมอกจากเต็นท์ ฟินไปเลย
10 โมงแล้วยังมีหมอก

ยังมีเรื่องสนุก ๆ ระหว่างทริปอีกมากที่ฮุ้งเล่าเอาไว้อย่างละเอียดในแต่ละตอน ใครอยากอ่านเรื่องราวของฮุ้งแบบเต็ม ๆ ตั้งแต่ day 1 ก็ติดตามการเดินทางของฮุ้งได้ที่เพจ ‘Cycling the Clouds ออกไปปั่น’ (https://www.facebook.com/Cyclingtheclouds) หรือใน youtube ช่อง ‘Cycling the Clounds ออกไปปั่น’ (https://www.youtube.com/channel/UCmNqb34nmTQALQoVlpWyX1g) กันได้

Cycling the Clouds

ชื่อ ฮุ้ง มาจากภาษาจีนที่อาม่าของเธอตั้งให้ แปลว่า ‘เมฆ’ สัญลักษณ์ เมฆ มักใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องรางของจีน เมฆเป็นสิ่งเชื่อมโยงระหว่างโลกและสวรรค์ ฮุ้งจึงได้เปิดเพจชื่อ ‘Cycling the Clouds’ ขึ้นมาซึ่ง Cloud ในความหมายทางฝั่งตะวันตกหมายถึงอุปสรรค ความหม่นหมอง ฮุ้งจึงใช้ชื่อ Cycling the Clouds ที่มีความหมายว่า ปั่นข้ามอุปสรรค หรือปั่นข้ามผ่านความหม่นหมอง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางปั่นจักรยานทั่วไทยไปอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ และปั่นผ่านทุกจังหวัดก่อนกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่

EXPLORER: ฮุ้ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *