Type and press Enter.

เดินป่าข้ามเขา 4 วัน เส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา 50 กิโลเมตร

เดินแบกกระเป๋าเข้าป่า 4 วัน 50 กิโลเมตร เส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา แม่ฮ่องสอน

อยากชวนคนรักในการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ไม่ว่าคุณคือตัวยงหรือมือใหม่(แต่ใจถึง) มาร่วมสนับสนุนชุมชนท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์ เข้าป่าแบบเดินเองแบกเอง ไม่ทิ้งอะไรนอกจากรอยเท้า ไม่เอาอะไรกลับมานอกจากรูปถ่ายและความทรงจำ ไม่ฆ่าอะไรนอกจากเวลา บนเส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา แม่ฮ่องสอน

เล่าคร่าว ๆ ว่า ตลอด 4 วัน 4 คืน บนเส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา คุณจะพบอะไรบ้าง

วันที่ 1 นักเดินป่าทุกคนต้องออกเดินทางจากตัวอำเภอ ขนสัมภาระไปขึ้นรถกระบะชาวบ้านผ่านภูเขาอันลาดชันและเส้นทางคดเคี้ยวไปยังแม่ปะ โดยจุดเริ่มต้นในการเดินป่ามีความสูงราว 950 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง เส้นทางเดินมีระยะทางยาว 9 กิโลเมตร ก่อนถึงจุด Check Point ที่ 1 ที่ชื่อว่า ‘จอลือคี’ บนระดับความสูง 1,150 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง สวยงาม เห็นวิวได้ 360 องศา

วันที่ 2 ต้องออกจากจอลือคีตั้งแต่เช้าตรู่ มุ่งหน้าไปยังจุดสูงที่สุดของเส้นทางเดินป่า และเป็นจุด Check Point ที่ 2 คือ ยอดดอยธง บนความสูงระดับ 1,650 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง

วันที่ 3 เส้นทางเดินไปยังจุด Check Point ที่ 3 มีระยะทางยาว 19 กิโลเมตร ซึ่งถือว่ายาวที่สุดสำหรับการเดินในหนึ่งวัน โดยเริ่มไต่ระดับลงจากดอยธงเพื่อไปยัง หมื่อฮะคี หรือหมู่บ้านแม่หาด ชุมชนชาวกะเหรี่ยงบนดอยสูง 930 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง ต้องผ่านทั้งทางเดินราบ ป่าที่เต็มไปด้วยไม้สูงใหญ่ ทางชันที่ค่อนข้างอันตราย ท่ามกลางสภาพภูมิทัศน์หลากหลายและสวยงาม แต่ปลายทางคุณจะมีอาหารสดใหม่ที่ชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่นำมาจำหน่ายให้กับนักเดินป่าได้อิ่มหนำหลังผ่านการกินแบบลำบากนิด ๆ มาสองวันเต็ม

และสุดท้ายในวันที่ 4 ห่างจากหมื่อฮะคีไปอีก 14 กิโลเมตร คือจุดหมายปลายทางที่เรียกว่า หมู่บ้านสบโขง หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงริมฝั่งแม่น้ำเงา ระหว่างทางผ่านป่าเชิงเขา ลำธารเล็ก ๆ แม่น้ำสายใหญ่ และพืชไร่ของชาว

4 วัน 4 คืน บนเส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา กับระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางคุณจะได้พบเพื่อนร่วมทางและชาวกะเหรี่ยงซึ่งเป็นเจ้าของเส้นทางตัวจริง มาช่วยทำให้ภารกิจการเดินป่าน่าจดจำ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมการเดินป่าอย่างยั่งยืน ได้เรียนรู้การเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ ได้เรียนรู้การแบกสัมภาระด้วยตัวเองเพื่อวิเคราะห์ถึงสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินป่าจริง ๆ และได้เสพสรรพสิ่งระหว่างเส้นทางแบบไม่รีบเร่ง  

ได้ไต่ระดับสู่ยอดดอยอันสูงชัน ได้ผ่านเส้นทางบางช่วงที่ค่อนข้างอันตราย ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจมีโอกาสเท้าบวม เนื่องจากการเดินโดยใส่รองเท้าเดินป่าหนาเตอะอย่างยาวนานตั้งแต่เช้าจรดเย็น (บางคนก็ค่ำ) หรือในยามหลับใหล ก็มีโอกาสเผชิญกับน้ำค้างเกาะเต็นท์ที่ส่งอุณหภูมิหนาวเย็นเหลือประมาณจับไปทั่วร่างกาย จนไม่อาจข่มตาได้สนิทตลอดทั้งคืน บางคนต้องล้มเลิกการเดินทางกลางคันด้วยสภาพร่างกายที่ไม่อาจฝืนทน และมีคนอีกไม่น้อยที่ยังพอประคับประคองสภาพร่างกาย แต่กลับต้องสู้กับจิตใจของตัวเองด้วยการถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า “เรามาทำอะไรที่นี่”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของประสบการณ์ที่คุณจะได้รับ เข้าไปอ่านเรื่องราวต้นฉบับแบบเต็ม ๆ ได้ที่ https://bit.ly/3HlnGIz

  • Fjallraven Thailand Trail ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเส้นทางเดินป่า Fjallraven Classic การเดินป่าระยะทางไกล 110 กิโลเมตร บนเส้นทางที่มีชื่อว่า Kungsladen ทางตอนเหนือของประเทศสวีเดน จัดโดย Fjallraven แบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งจากประเทศสวีเดน ถึงปีนี้จะไม่มีการจัดอีเว้นต์เดินป่า Fjallraven Thailand Trail แต่คุณยังสนับสนุนชุมชน เที่ยวป่าแบบรักษาระยะห่างที่ภาคเหนือกันได้

อัพเดตจากเพจ เส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา เรื่องการเปิดรับจองทริปเส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา

ทางวิสหกิจชุมชนเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา จะพร้อมรับเพื่อน ๆ ที่สนใจจะเข้าไปสัมผัสความงามของป่าต้นน้ำเงาอย่างใกล้ชิดด้วยทริปเดินป่าตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564

แต่เนื่องจากยังมีการระบาดของ COVID19 ในหมู่บ้านแม่แฮดและห้วยมะน้ำจนมีการ lockdown ทั้ง 2 หมู่บ้านอยู่ เราจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางโดยที่เราจะต้องเปลี่ยนเส้นทางในวันที่ 4 ไปเดินบนถนนที่ใช้ปลูกป่าระหว่างบ้านแม่หาดและที่บ้านสบโขงแทนเส้นทางเลียบห้วยแม่แฮด

หวังว่าเพื่อนๆ จะเข้าใจความลำบากและความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงเส้นทางนี้ หากสถานการณ์ดีขึ้นเราก็จะปรับเปลี่ยนเส้นทางกลับไปตามปกติทันที  

เนื่องจากเราจะต้องเดินทางผ่านอุทยานฯแม่เงาและผ่านชุมชน ผู้เข้าร่วมเดินทางจะต้องปฏิบัติตามมาตรการโควิดของอุทยานฯดังต่อไปนี้

1) จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม ไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ก่อนหน้าวันเดินทาง

2) จะต้องเตรียมชุดตรวจโควิด ATK มาด้วย 1 ชุดเพื่อทำการตรวจที่ที่ทำการอุทยานก่อนจะเดินทางเข้าชุมชน

เพื่อให้มีการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมและร่วมกันดูแลรักษาธรรมชาติ ผู้เข้าร่วมทุกคนจะต้องเข้าเรียน Outdoor Education ในระบบ Online ให้ผ่านก่อนวันเดินทาง (ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ) ทางวิสาหกิจชุมชนจะส่งลิ้งค์สำหรับการเรียน Online ให้ท่านอีกครั้งหนึ่ง

คุณสามารถติดต่อจองกับกลุ่มได้ทาง Facebook Page นี้แล้วก็มาตามนัดได้เลย

ต้องขอแจ้งว่าท่านที่ต้องการติดต่อทางโทรศัพท์ 093-146-7559 ขอให้เป็นกรณีจำเป็นเท่านั้นเพราะที่หมู่บ้านเราสัญญานโทรศัพท์ไม่ดีนักและใช้ได้เพียงบางเวลา การติดต่อผ่าน inbox จะสะดวกที่สุด แต่เราอาจจะใช้เวลาให้การตอบ ขอให้ใจเย็นๆ กันนะครับ

EXPLORERS: เจ, ตู่, เต้, เบนซ์, ณัฐ, ปิง และทีม National Geographic ฉบับภาษาไทย

เรื่อง: เบนซ์ / ภาพ: ณัฐ
เรียบเรียง: บ้านและสวน Explorers Club

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *