Type and press Enter.

ปากน้ำปราณ ‘บ้าน’ แห่งชีวิต

ปากน้ำปราณ

มีเรื่องเล่าอยู่มากมายที่มุ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ ‘ป่าชายเลน’ ในบทบาทของต้นกำเนิดชีวิต ทำหน้าที่เป็นป่ารอยต่อระหว่างแผ่นดินกับทะเลที่มีบทบาทสำคัญในหลายมิติต่อโลกของเรา และที่สำคัญ ยังเป็น ‘บ้าน’ แห่งชีวิตของสัตว์นานาชนิด ซึ่งในพื้นที่ ปากน้ำปราณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ น่าจะเป็นอีกพื้นที่ที่เล่าเรื่องราวของป่าชายเลนได้ดีที่สุดแห่งหนึ่ง

บ้านและสวน Explorers Club และ National Geographic Thailand ได้รับคำแนะนำจาก BEDO (Biodiversity-based Economy Development Office) หรือสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) ในการออกสำรวจพื้นที่ที่ยังคงความหลากหลายทางชีวภาพเอาไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยพากันเดินทางมุ่งหน้าลงใต้ไปยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปักหมุดไปยังปากน้ำปราณบุรี เพื่อสัมผัสกับป่าแห่งชีวิต และชมความสำเร็จของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ กับความพยายามในการเปลี่ยนพื้นที่เสื่อมโทรม ให้กลายเป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูณ์หลายร้อยไร่อย่างทุกวันนี้

สำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวชมธรรมชาติและเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ การมาเยือน ปากน้ำปราณ ถือเป็นปลายทางที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่วนอุยานปราณบุรี และ ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ที่ตั้งใกล้ ๆ กันอีกด้วย

จุดหมายแรกหลังจากเดินทางมาออกจากกรุงเทพฯ มาหลายชั่วโมงเข้าสู่พื้นที่ ปากน้ำปราณ เราแวะกันที่ ‘วนอุทยานปราณบุรี’ เราสัมผัสถึงความสงบร่มรื่นได้ตั้งแต่นาทีแรก วนอุทยานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ราว 700 ไร่ ประกอบไปด้วยหาดทรายใสสะอาดยาวนับกิโลเมตร ทิวสนริมหาด และทิวทัศน์ริมทะเลให้ได้เก็บบรรยากาศกันพอสมควร แต่จุดเด่นของที่นี่คือป่าชายเลนเขียวครึ้มและทุ่งโปรงทองกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ที่ปัจจุบันกลายเป็นจุดไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวหลายคนหลงรักจากการพัฒนาเส้นทางธรรมชาติป่าชายเลน ที่ทำให้จุดนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ยังมีชีวิต จนทำให้ที่นี่เป็นทั้งบ้านชั่วคราว บ้านถาวร และโรงเรียนอนุบาลของสัตว์มากมาย

เราเดินไปตามสะพานไม้ยกระดับที่ทอดตัวลึกเข้าไปในป่าชายเลน ค่อย ๆ พาพวกเราลัดเลาะไปเห็นสิ่งมีชีวิตหลากหลายอยู่ร่วมกันเป็นระบบนิเวศ โดยมีต้นโกงกางหยั่งรากโก่งตัวขึ้นจากดินเลน คอยโอบอุ้มชีวิตเล็ก ๆ อย่าง กุ้ง หอย ปู ปลา ส่วนเรือนยอดด้านบนก็เป็นแหล่งอาหารและที่พักเหนื่อยสำหรับนก แมลง ที่อยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพา ซึ่งระหว่างการเดินบนสะพานไม้ที่ว่านี้จะมีจุดแวะพักและป้ายสื่อความหมายธรรมชาติอยู่ตลอดเส้นทาง ให้ผู้มาเยือนรวมทั้งพวกเราได้ทำความเข้าใจกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเป็นระยะ มีจุดที่พัฒนาขึ้นเป็นท่าเรือ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติของป่าชายเลนในอีกมุมมอง อีกทั้งยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านปากน้ำปราณ ที่อาศัยอยู่กันตามริมน้ำไปพร้อมกันด้วย

ไม่ไกลจากวนอุทยานปราณบุรีนัก ยังมีจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งคือ ‘ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี’ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า-คลองคอย ซึ่งที่นี่ ได้รับการฟื้นฟูจากพื้นที่สัมปทานนากุ้งที่ถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่อดีต ตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 ซึ่งในปัจจุบันนี้ถูกพัฒนาจนกลับมาอุดมสมบูรณ์และเป็นศูนย์เรียนรู้แห่งแรกของประเทศไทย และผู้คนเริ่มให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะพื้นที่ทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ และสามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเล เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด เป็น ‘บ้าน’ ที่เป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่มาพักผ่อนและศึกษาธรรมชาติไปพร้อมกัน

การได้มาเห็นธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบของ ‘ปากน้ำปราณบุรี’ ครั้งนี้ ทำให้พวกเราได้สัมผัสถึงมุมมองที่น่าสนใจของพื้นที่ ได้ทำความเข้าใจถึงความสำคัญของป่าชายเลน ได้ตระหนักรู้และเกิดแรงบันดาลใจถึงการใส่ใจในธรรมชาติ เพราะความเป็นจริงแล้ว การรักษาธรรมชาติและสรรพสิ่งทั้งหมดนี้ด้วยวิธีการง่ายที่สุด คือการปล่อยให้ธรรมชาติดำรงอยู่อย่างสงบ ตามวงจรของระบบนิเวศ ไม่ล่วงล้ำ ไม่ทำลาย ก็ถือเป็นการอนุรักษ์ได้ทางหนึ่งแล้ว


EXPLORERS: กีฟ

AUTHOR: เอ็กซ์-พงษ์อมร ต้นสายเพ็ชร

PHOTOGRAPHER: บอม-ธนายุต วิลาทัน , ออโต้-ณัฐวรรธน์ ไทยเสน

GRAPHIC DESIGNER: ตูน-เรืองเพชร เวชวิทย์