ในช่วงเวลาเช้าตรู่หากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์หลายคนคงไม่อยากรีบตื่นสักเท่าไหร่ การใช้ชีวิตเถลไถลอยู่บนที่นอนอบอุ่น ๆ แสนสบายแบบไม่ต้องสนใจเวลาคือรางวัลตอบแทนสำหรับการทำงานอันเหนื่อยล้าที่ผ่านมา แต่สำหรับชีวิตที่ “ทุ่งสามร้อยยอด” ไม่เป็นแบบนั้น ชีวิตที่นี่ไม่มีวันหยุด ในทุกวันดำเนินไปเหมือนเดิมอยู่แบบนั้น จะมีบ้างก็เพียงการปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปตามการหมุนเวียนของฤดูกาลที่คอยสร้างสมดุลย์ให้กับระบบนิเวศเพื่ออำนวยให้กับทุกชีวิตที่นี่…

สามร้อยยอด ยอดมาก
สำหรับวันหยุดครั้งนี้ของพวกเราไม่ได้ตื่นสายเหมือนทุกที เราตื่นพร้อมกับบรรดานกที่ตื่นเช้า หลังจากนาฬิกาปลุกดังขึ้นก็ต้องรีบขุดตัวเองขึ้นจากที่นอนอุ่น ๆ ของโรงแรมแล้วเดินทางมาที่ทุ่งสามร้อยยอดเพื่อให้ทันเห็นมันในบรรยากาศแสงอ่อน ๆ สำหรับการมาที่ทุ่งสามร้อยยอดถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาเช้าแบบนี้ ก็คงต้องบ่ายคล้อยจนถึงเย็นดูจะเหมาะสมเนื่องจากอากาศจะไม่ได้ร้อนเกินไปนัก
พวกเรารวมตัวกันที่วิสาหกิจชุมชนบ้านหน้าทุ่งเพื่อขึ้นเรือถ่อออกไปชมความงดงามของพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง โดยมีเครือข่ายชุมชนท่องเที่ยว บ้านเด็กรักษ์ทุ่ง, กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรสามร้อยยอด และกะตอยรักษ์สามร้อยยอด เป็นอาสาสมัครนำชมให้พวกเรา



ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity)
ความหลากหลายทางชีวภาพ คำที่ช่างดูวิชาการนี้มันบ่งบอกถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรณพืช สัตว์น้อยใหญ่ แมลงตัวจิ๋ว และมนุษย์อย่างพวกเรา รวมถึงสิ่งมีชีวิตอย่างเชื้อรา หรือแบคทีเรียต่าง ๆ ซึ่งการมีอยู่ของสรรพชีวิตทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเชื่อมโยงเกี่ยวพันเป็นโครงข่ายแห่งความสมดุลย์ของระบบนิเวศ นั้นอาจหมายถึงหากสิ่งใดสิ่งหนึ่งหายไป ก็อาจส่งผลกระทบกับอีกสิ่งหนึ่งจนอาจลุกลามสร้างความเสียหายกันไปทั้งวงจร ลำบากสารพัดสิ่งมีชีวิตที่จะต้องมานั่งปรับตัวกันใหม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และแน่นอนเราผู้เป็นมนุษย์ก็คือหนึ่งในวงจรที่ได้รับผลกระทบกับเรื่องนั้นเช่นกัน

หากอยากรู้ว่าการปรับตัวมันยากแค่ไหน ให้ลองนึกย้อนเล่น ๆ ไปในช่วงเวลาของการเกิดโรคระบาดอย่าง โควิด 19 ที่เข้ามาแทรกแซงการดำรงชีวิตในแบบที่ไม่เคยมีใครเตรียมตัวรับมือมาก่อนเป็นตัวอย่าง กว่าที่มนุษย์ทุกคนจะกลับมาใช้ชีวิตได้แบบปกตินั้น ล้วนผ่านมาด้วยความสาหัสสากรรจ์ ถึงแม้การยกตัวอย่างนี้อาจจะดูไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับ ความหลากหลายทางชีวภาพสักเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้มนุษย์ได้เข้าใจถึงผลกระทบ และการใช้ชีวิตอย่างยากลำบากของช่วงเวลาในการปรับตัวได้ดี…หากมีบางอย่างเกิดขึ้นจนส่งผลกระทบกับระบบนิเวศสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ก็คงปรับตัวกันอย่างลำบากไม่ต่างจากเราเช่นกัน
ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้นอกเหนือจากกฏเกณฑ์ตามธรรมชาติแล้วตัวการที่สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อระบบนิเวศที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ “มนุษย์” แบบพวกเรานั่นเองที่แสวงหาผลประโยชน์จากธรรมชาติจนเกินพอดีทำให้สมดุลย์นั้นเปลี่ยนไป…แต่ถ้าเราเริ่มเห็นความสำคัญ และพอที่จะเข้าใจธรรมชาติบ้างมันก็พอที่จะช่วยเยียวยา และฟื้นฟูธรรมชาติให้ดีขึ้นได้ การที่ได้ออกมาเห็นกับตา สัมผัสด้วยตัวเอง และรับรู้ข้อมูลจากกลุ่มคนอนุรักษ์ ก็คือสาเหตุของการที่พวกเราต้องตื่นแต่ไก่โห่มาเยือนทุ่งสามร้อยยอดแห่งนี้…



พื้นที่ชุ่มน้ำ
ที่นี่คือ 1 ใน 15 แห่งของพื้นที่ชุ่มน้ำในประเทศไทยที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรือ “แรมซาร์ ไซต์ (Ramsar Site)” ก็คืออนุสัญญาที่ว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ เพื่อการอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน อธิบายอย่างให้เข้าใจกันง่าย ๆ ก็คือ ทุ่งสามร้อยยอด เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในระดับโลก มีลักษณะพิเศษ หรือเอกลักษณ์เฉพาะ สมควรไว้ซึ่งการอนุรักษ์ในความหลากหลายทางชีวภาพนั่นเอง

ที่นี่เป็นแหล่งอาศัยของนกประจำถิ่นกว่าร้อยชนิด และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อย่างเลียงผา และเสือปลา มีพืชประจำถิ่นอย่างเช่นบัวผัน บัวเผื่อน บัวแดง ต้นกระจูด แห้วทรงกระเทียม และสาหร่ายอีกหลายชนิด พืชพันธุ์แทบทุกชนิดล้วนเชื่อมโยง และเอื้อประโยชน์กับสิ่งมีชีวิตของที่นี่อย่างเป็นวงจรระบบนิเวศสัมพันธ์กันไป เป็นทั้งที่อยู่อาศัย แหล่งอาหาร หรือแม้กระทั้งเป็นพื้นที่หลบภัยให้กับลูกปลาประจำถิ่น รวมถึงเป็นปากท้องให้กับชาวบ้านในพื้นที่ด้วยเช่นกัน


นอกเหนือจากสัตว์ประจำถิ่นแล้วในช่วงเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนมีนาคมทุ่งสามร้อยยอดแห่งนี้ก็ยังเป็นแหล่งพักพิงอันแสนอบอุ่นให้กับบรรดาฝูงนกอพยบผู้เดินทางไกลหนีหนาวมาจากไซบีเรีย บางชนิดก็มาเพื่อพักเอาแรงไม่กี่วันก็บินต่อ บางชนิดก็ถึงขั้นลงหลักปักฐานสร้างรังวางไข่ขยายพันธุ์ พวกนี้จะอยู่หลายเดือนแล้วค่อยจากไป พูดง่าย ๆ ว่าทุ่งสามร้อยยอดก็คงคล้ายโฮมสเตย์ชั้นหนึ่ง มีอาหารอร่อย อากาศดี วิวสวย นอนสบายก็ไม่ผิด…ลองคิดกันเล่น ๆ ว่าถ้าหากพื้นที่แห่งนี้ล่มสลายไปอะไรจะเกิดขึ้น….

เที่ยวอะไรดีที่ทุ่งสามร้อยยอด
นอกเหนือจากการมาที่ทุ่งสามร้อยยอดด้วยตัวเองแล้ว ก็อยากให้ลองใช้บริการนำเที่ยวจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดู รับรองว่ามีเรื่องสนุก และน่าสนใจมากมาย อะไรมันจะดีไปกว่าการให้เจ้าถิ่นพาทัวร์ พวกเรารวมตัวกันที่วิสาหกิจชุมชนบ้านหน้าทุ่งเพื่อขึ้นเรือถ่อ ออกไปชมความงามพร้อมรับฟังข้อมูล และดูนกพื้นถิ่นไปด้วย การถ่อเรือนั้นเป็นการเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างสงบนอบน้อมที่สุด การเคลื่อนตัวไปบนผิวน้ำอย่างเงียบ ๆ ทำให้เราเห็นนก และสัตว์พื้นถิ่นได้ใก้ลมากยิ่งขึ้น


ท่ามกลางบรรยากาศสงบเงียบยิ่งทำให้เสียงธรมชาติชัดเจนมากขึ้น น้ำในบึงนิ่งสนิทสะท้อนทิวเขาและท้องฟ้าไม่ต่างจากแผ่นกระจก เสียงไม้ถ่อกระทุ้งน้ำจากนายท้ายกลายเป็นเสียง ASMR ในยามเช้า พวกเราใช้เสียงกันอย่างแผ่ว ๆ เพราะกลัวเจ้าเป็ดผีที่กำลังหากินจะมุดน้ำหนีไปเสียก่อนถ้าหากส่งเสียงดังเกินไป เสียงนกอีโก้งส่งเสียงดังระงมอยู่เป็นระยะพวกมันกระจายตัวทั่วพื้นที่ผลุบโผล่อยู่ตามกอหญ้า นกกาน้ำบินข้ามหัวไปมาดูเหมือนพวกมันไม่ได้สนใจ และไม่ได้มีความสำคัญกับมันเท่าไหร่ เจ้าค่างแว่นถิ่นใต้ขี้สงสัยไต่ลงมาจากหน้าผานั่งซุ่มสังเกตพวกเราตรงพุ่มไม้ใหญ่ริมตลิ่ง เงาของเขาหินปูนขนาดมหึมาทาบทับไปกับร่องน้ำที่เรือกำลังเคลื่อนผ่าน มันเป็นเหมือนร่มคันใหญ่ทำหน้าที่บังแดดให้เราไม่ร้อนมากนัก ต้นกระจูด และต้นธูปฤาษีพริ้วไหวไปตามทิศทางลมสะท้อนแสงวิบวับอยู่ในพื้นที่โล่งกว้างสบายตา


ตอนนี้สิ่งรอบตัวเราล้วนแต่น่าสนใจทั้งสิ้นไม่เว้นแม้แต่สาหร่ายในน้ำ เราได้เห็น บัวผัน บัวเผื่อน และบัวแดง แบ่งบานแข่งกันเต็มที่ในตอนเช้า ถึงแม้ช่วงเวลาที่พวกเรามานั้นบรรดาดอกบัวไม่ถึงกับเยอะละลานตาแต่ก็เรียกได้ว่าเป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจ
นอกจากการได้ล่องเรือเงียบ ๆ แล้วอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ก็คือการเดินขึ้นเขาเล็กน้อยเพื่อไปชมวิวมุมสูงที่ถ้ำนาค ถ้ำที่มีต้นมะขามใหญ่เป็นแลนด์มาร์ค และมันก็คือต้นมะขามหนึ่งเดียวของพื้นที่แห่งนี้ พืชต่างถิ่นอายุอานามหลายสิบปีนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ที่มาที่ไปไม่แน่ชัดว่ามันมาจากไหน แต่จากการที่พวกเราลองวิเคราะห์กันอย่างง่าย ๆ ก็ได้ความว่าถ้าไม่ใช่คนนำมาปลูก ก็อาจมาจากพวกนกที่นำเมล็ดพันธุ์จากที่อื่นมาทิ้งไว้ให้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนี่คือความงดงามของธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริง ๆ มาถึงที่นี่แล้วอยากให้ลองเดินขึ้นเนินมาชมความอันซีนกันสักหน่อย



สำหรับทุ่งสามร้อยยอดนั้นอาจจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่แหล่งพักพิงสำหรับสัตว์ป่าเท่านั้น แต่พื้นที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งอาหารให้กับชาวบ้าน และเป็นการสรา้งอาชีพการให้บริการท่องเที่ยวโดยชุมชนอีกด้วย นั้นหมายความว่าทั้งคน และสัตว์ก็ล้วนแต่ใช้ความพิเศษของพื้นที่นี้ในการดำรงชีพร่วมกันอย่างท้อยทีท้อยอาศัยมาอย่างยาวนานมากแล้ว “หากเราต้องใช้ประโยชน์เรายิ่งต้องรักษา”
ทุ่งสามร้อยยอด อาจเป็นการแสดงให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิต และเศษฐกิจของพื้นที่ผ่านกลไลการอนุรักษ์ของชุมชน เพื่อที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพนี้ได้อย่างยั่งยืนต่อไป

ขอขอบคุณ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO ที่ชวนพวกเราชาวบ้านและสวน Explorers Club มาสำรวจพื้นที่ที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลกใบนี้
หากคุณได้มาที่ทุ่งสามร้อยยอดนอกจากกล้องถ่ายภาพที่ต้องพกมาแล้ว การมีกล้องส่องทางไกลติดมาด้วยก็จะเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้คุณสนุกกับการสำรวจพื้นที่แห่งนี้มากยิ่งขึ้น รวม ๆ แล้วเราใช้เวลาอยู่ที่นี่ราวสองชั่วโมงเศษก็ถือว่ากำลังดีไม่มากไม่น้อยเกินไป และที่สำคัญอากาศก็ไม่ได้ร้อนมากนัก หากถามว่าการท่องเที่ยวแบบนี้เหมาะกับใคร ก็ต้องบอกว่าเหมาะกับทุกวัย นอกจากผู้ใหญ่อย่างพวกเราแล้ว การมาเที่ยวชมที่นี่แบบครอบครัวที่มีเด็ก ๆ ด้วยยิ่งดีเพราะเป็นโอกาสที่จะได้ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความรักในธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน โดย ผ่านกิจกรรมดูนก พร้อมกับได้ความรู้เรื่องระบบนิเวศแทรกไปด้วย และนี่ก็คือเช้าวันหนึ่งที่สุดแสนจะปกติสำหรับชีวิตที่ทุ่งสามร้อยยอด แต่สำหรับพวกเรามันยอดมาก…


สนใจกิจกรรมท่องเที่ยวพื้นที่ทุ่งสามร้อยยอดติดต่อ
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านหน้าทุ่งสามร้อยยอด
คุณโกศล 083-3175319
EXPLORER / AUTHOR : บาส – บดินทร์ บำบัดนรภัย
PHOTOGRAPHER : ออโต้-ณัฐวรรธน์ ไทยเสน, บอม-ธนายุต วิลาทัน


