SEIKO PROSPEX x Explorers Club ชวนซันนี่ ไปสร้างบ้านให้ปลา และปล่อยลูกปูดำ ที่กระบี่
Explorers Club ได้รับเชิญจาก Seiko Thailand ให้ร่วมเดินทางในทริป CSR ประจำปีในธีม “Save The Ocean 2021” ที่จังหวัดกระบี่ โดยมีคุณ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ พรีเซนเตอร์คนใหม่ของไซโก้ ร่วมทริปไปด้วย
Seiko Save The Ocean Project #4 โปรเจกต์ดีดีจากบริษัทไซโก (ประเทศไทย) ที่กลับมาอีกครั้งในปี 2021 โดยไซโก ได้ร่วมกับเหล่าพันธมิตร อธิ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช) จังหวัดกระบี่, อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล กลุ่มแฟนพันธ์แท้ไซโก สื่อมวลชน และชุมชนชาวท่าเลน จังหวัดกระบี่ เพื่อคืนความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ให้กับท้องทะเล
โดยโครงการ Seiko Save The Oceanนี้ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 แล้ว และโครงการนี้เริ่มต้นมาจากแนวคิดที่ แบรนด์ไซโกเอง ได้นำเอาแรงบันดาลใจในการออกแบบนาฬิกาดำน้ำหลากหลายรุ่นมาจากท้องทะเล รวมถึงรุ่นสำคัญที่ผลิตเฉพาะในประเทศไทย อย่าง “พรอสเปกซ์ จิมเบ” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก “ฉลามวาฬ” เพื่อวางจำหน่ายจนโด่งดังไปทั่วโลก
ทางบริษัทฯ จึงมีความตั้งใจที่จะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายนาฬิกา ไซโก จิมเบ และ นาฬิกา ไซโก เซฟ ดิ โอเชียน มาทำกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์กลับไปยังท้องทะเลไทย ซึ่งในครั้งนี้ได้ “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” ไซโก แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด มาร่วมทำกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
กิจกรรมหลักๆ นอกจากการกินอาหารทะเลสดๆ ดำน้ำใสๆ พายเรือชมวิวทะเลกระบี่ และพักผ่อนสบายในบูติคโฮเตลบรรยากาศร่มรื่นแล้ว ในทริปนี้ไฮไลท์จะอยู่ที่ การช่วยกันสร้างบ้านให้ปลาเล็กปลาน้อย “Artificial Reef” ที่ทำจากโครงไม้กับทางมะพร้าว แล้วขนขึ้นเรือไปปล่อยลงทะเล ร่วมกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
กิจกรรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับทั้งท้องทะเลและชุมชน นำโดยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก ประเทศไทย นายฮิโรยูกิ อาคาชิ และเหล่าพันธมิตร ชาวบ้านชุมชนท่าเลนที่ร่วมกันสร้างบ้านปลาและสัตว์ทะเลที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติอย่างไม้และทางมะพร้าวเพื่อนำไปหย่อนกลางทะเลบริเวณอ่าวท่าเลนให้เป็นแหล่งอนุบาลปลาและสัตว์ทะเลให้ชุมชน ณ โรงแรมเดอะทับแขก บูทีค รีสอร์ท โดยกิจกรรมร่วมกันสร้างบ้านสัตว์น้ำในครั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้ทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มและขยายพันธ์สัตว์น้ำและให้ชุมชนมีแหล่งอาหารเพื่อนำมาเป็นรายได้แก่ครอบครัวต่อไป
อีกกิจกรรมที่สนุกและใช้พละกำลังคุ้มค่ามากๆ คือการพายเรือคายัค ขนลูกปูดำ (ปูทะเล) เข้าไปปล่อยในป่าโกงกาง เกือบๆพันตัว ทั้งสองกิจกรรม เป็นการช่วยเพิ่มปริมาณปลาและปูในธรรมชาติ เพื่อให้เติบโตขึ้นมาเป็นอาหารและเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงแก่ชาวบ้านในพื้นที่ ปลาเล็กปลาน้อยยังเป็นอาหารของสัตว์ขนาดใหญ่อย่าง ปลาช่อนทะเล ปลาฉลามวาฬ โดยมีเป้าหมายถึงจะฟื้นฟูระบบนิเวศน์ของท้องทะเลบริเวณป่าชายเลนให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิมอีกด้วย
ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นต้นทุนสำคัญในธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งนำพารายได้หลักให้จังหวัดด้วยเช่นกัน แต่หากเรามาเที่ยว มาชม มาชิมกันโดยไม่มีการให้คืนและไม่รู้จักวิธีใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนแล้ว เราก็อาจจะไม่มีสิ่งเหล่านี้ไว้ส่งต่อให้คนรุ่นหลัง
ขอบคุณ Seiko Thaliand ที่ชวนพวกเรามาร่วมกิจกรรมดีๆ แบบนี้
[ EXPLORERS ]
เจรมัย และ ดำรง