เที่ยวยะลา ไม่น่ากลัวจริงหรือ?
เที่ยวยะลา “ไปทำไมยะลา ไม่เห็นมีอะไรเที่ยวเลย” คำถามที่ ไร้คำตอบ ในขณะที่ตัวเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรเที่ยว อาจจะย้อนแย้งในการปฏิบัติตัวก่อนเดินทาง ที่มักจะบอกทุกคนว่าเวลาเดินทางให้ศึกษาเส้นทางให้ดี ว่าปลายทางมีอะไรบ้างเราจะได้เตรียมตัว แต่นั่นเป็นกฎในการเดินป่า แต่การเดินเมืองนั้นผมขอแหกกฎนี้ เพราะบางสถานที่ไม่ต้องมีกฎก็ใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย และมีความสุขได้เช่นกัน
เมื่อขบวนรถไฟสายใต้ระยะไกลเทียบชานชาลาสถานียะลา ต้องเรียนตามตรงว่าตื่นเต้น แปลกตา เหมือนราวกับว่าเรากำลังจะได้พบเจอใครบางคน ถ้าการเดินทางมาเที่ยวยะลาครั้งนี้เปรียบดั่งความรัก ก็คงเป็นรักแรกพบ ขนาดนั้นเชียว
อะไรที่ทำให้เราคิดแบบนั้น ถ้าตอบในแง่ของคนที่อยู่ในวงการบ้านและสวนมานานก็ต้องตอบว่า อาคารบ้านเรือน ผังเมืองที่ยะลาสวยงามมากถึงขนาดติดอันดับโลกทีเดียว ผู้คนชาวบ้านชาวเมืองน่ารักในอัธยาศัยไมตรี อาหารการกินหลากหลาย นี่กระมัง เสน่ห์ยะลา และการเที่ยวยะลาครั้งนี้ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองและความคิดไปเลย
มาเที่ยวยะลาต้องกินซุปเนื้อ เป็นสิ่งเดียวที่หาข้อมูลมา ผมกับบาส พากันเดินข้ามถนนจากสถานีรถไฟเข้าซอยเล็กๆ ที่ชาวบ้านชี้มาว่าในนี้มีร้านซุปเนื้อหลายร้านเลือกดูเองแล้วกัน การแขวนเนื้อของเขามองเผินๆ ผมคิดว่าเป็นร้านข้าวมันไก่ เลยเดินผ่าน ที่ไหนได้เราดูไม่ดีเอง เห็นร้านเนื้อเป็นร้านข้าวมันไก่ และถ้าใครมาเที่ยวยะลา ผมขอแนะนำ “ร้านซุปเซ็งยะลา” รสชาติไม่เป็นรองใคร ผมกินที่ร้านนี้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงจนวันกลับ จ๊ะ (พี่สาวภาษาอิสลาม) พอรู้ว่าเราจะกลับบ้าน เธอบอกรอเดี๋ยว จากนั้นเข้าไปหยิบชามะนาวมาให้เราคนละแก้ว พร้อมด้วยน้ำเปล่าไปกินบนรถไฟอีก โดยไม่คิดเงินเพิ่ม มันไม่ได้อยู่ที่ได้ของฟรี แต่มันอยู่ที่ไมตรีที่เขาหยิบยื่นให้มากกว่า
ทริปเที่ยวยะลาครั้งนี้เรามีเป้าหมายที่เบตง พอเสร็จภาระกิจเดินป่าที่เบตงปุ๊บ เราก็ยังมีเวลาสำรวจเบตงอีกหนึ่งวัน และเก็บอีกวันกว่าๆไว้สำรวจยะลาด้วย หลังจากกลับจากเบตงเรามีเวลาเที่ยวยะลาวันกว่าๆ มีเวลาเหลือพอที่จะให้เราได้ทำความรู้จัก “ยะลา” ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เริ่มจากการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับชมเมืองวันละ 350 บาท ผมเป็นคนขี่ บาสเป็นคนบอกทางด้วยการเปิด Google Map นำทาง ท้ายที่สุดแล้ว ผมบอกกับบาสว่า ไม่ต้องเปิด Map แล้ว เราใช้ความรู้สึกดีกว่า ว่าอยากเลี้ยวไปทางไหน อยากแวะอะไร น่าจะดีกว่าที่จะต้องมากังวลกับการเปิดแผนที่ที่สัญญานมือถือที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ยะลากับผังเมืองที่ดีที่สุดในประเทศไทย และดีที่สุดอันดับที่ 23 ของโลกในปี 2560 จาก UNESCO มันทำให้การเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะขับไปทางไหนสุดท้ายมันก็วนกลับมาที่เดิม ผมกับบาสสนุกกับการขี่รถมอเตอร์ไซค์ถ่ายรูปตึก อาคารสถาปัตยกรรม ข้อดีของการขี่มอเตอร์ไซค์ถ่ายไปรูปตึกเก่าที่ยะลา ทำให้พวกเราพบเจอเรื่องราว พบเห็นสถานที่ที่ไม่มีในไกด์บุ๊ค อย่างเช่น เราไปเจอตลาดโรงเกลือ ซึ่งเป็นแหล่งสินค้ามือสองสภาพดี ไม่ว่าจะเป็นยีนต์ เสื้อเดินป่า เสื้อยืดแนวๆวงดนตรี ฯลฯ ราคาถูกมาก ปักหมุดรอไว้เลยคราวหน้าไม่พลาดแน่นอน
ในจำนวนตึกที่เราซอกแซกไปถ่ายรูปมาฝากคุณผู้อ่าน มันมีอยู่ที่หนึ่งที่เราชอบคือโรงหนังแบบสแตนอโลนอยู่หลังตลาดเก่า ชื่อว่า โรงภาพยนตร์พาต้า อาคารนี้ไม่ใช่อาคารที่สวยที่สุดหรอก แต่ที่ชอบเพราะว่า มันทำให้เราคิดถึงมากกว่า คิดถึงบรรยากาศเก่าๆที่ผ่านมาในช่วงเวลาหนึ่ง ที่เราเคยสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ในตอนที่ยังมีคนใช้งานมันอยู่ ถึงแม้นไม่ใช่ที่นี่ อาคารเก่าของโรงหนังพาต้านี้ ได้รับอิทธิพลการออกแบบจากโรงหนังสแตนอโลนทั่วไปที่อยู่ในกรุงเทพฯเมื่อครั้งอดีต
อาคารเก่าที่เราบังเอิญพบเจออีกแห่งหนึ่งคือโรงภาพยนตร์สยาม ทราบมาว่าที่ยะลามีโรงหนังอยู่สามแห่งคือพาต้า รามัญและสยาม เราหารามัญไม่พบ ทริปนี้เราจึงเก็บภาพที่พาต้ากับสยามให้เป็นของฝากเผื่อว่าใครที่ชื่นชอบในแบบเดียวกัน
ไม่น่าเชื่อว่า เมื่อก่อนเมืองหรือชุมชนหนาแน่นของยะละจะอยู่แถวบริเวณสถานีรถไฟยะลา ต่อมาภายหลังเริ่มมีการหาจุดศูนย์กลางของเมือง ในที่สุดก็เป็นที่ตั้งของศาลหลักเมืองในปัจจุบัน และออกแบบให้ผังเมืองเป็นแบบวงเวียน 3วง ซึ่งวงในสุดจะเป็นสถานที่ราชการอย่างศาลากลางจังหวัด ศูนย์ราชการ วงเวียนที่สอง จะเป็นบ้านพักข้าราชการ วงเวียนที่สามจะเป็นโรงเรียนสถานศึกษา โรงพยาบาล และบ้านประชาชนทั่วไป ซึ่งทุกเส้นทางเชื่อมถึงกัน ทำให้ง่ายต่อการเดินทางและเดินหลง
ในเมืองที่มีผังเมืองที่พิเศษแบบนี้ เวลาก็คงไม่มีประโยชน์ ที่จะเร่งให้หมดไปในแต่ละวัน สิ่งที่มีประโยชน์ตอนนี้คือกล้องถ่ายรูป หรือโทรศัพท์ดีๆที่ถ่ายรูปสวยๆได้
ไม่แปลกเลย เมื่อมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่พี่น้องชาวมุสลิม ใช่เพราะที่นี่เป็นเมืองที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม เราต่างหากที่แปลก ทำตัวงกๆ เงิ่นๆ แต่ไม่แตกต่าง ผมกับบาสได้มีโอกาสพูดคุย ถามทาง ถามถึงร้านอาหาร ถามถึงสถานที่เที่ยว ทุกคนต่างให้ความช่วยเหลืออย่างดี และถ้ามีโอกาสเราก็พร้อมที่จะช่วยเหลือกลับบ้าง การเดินทางมายะลาครั้งนี้ ผมกับบาสกล้าพูดได้เต็มปากว่า ไม่น่ากลัว แถมยังอบอุ่นด้วยซ้ำ
หากว่าคุณเป็นคนที่ชอบในกาแฟ สำหรับที่ยะลาผมมีร้านแนะนำสองร้านครับ ร้านหนึ่งอยู่ถนนกาญจนา 2 เป็นร้านกาแฟ specialty ที่มีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลายสายพันธุ์ ส่วนอีกร้านหนึ่งชื่อหลงคาเฟ่ ร้านนี้อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ เราใช้ร้านนี้เป็นจุดพักเตรียมตัวก่อนขึ้นขบวนรถไฟสายใต้ระยะไกลกลับกรุงเทพฯ
ยะลาเป็นจังหวัดทางภาคใต้จังหวัดเดียวที่ไม่ติดทะเล แต่มีภูเขาล้อมรอบ เป็นความต่างที่มีเสน่ห์ เงียบง่าย มากมายวัฒนธรรม เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยากเชิญชวนให้คุณผู้อ่านมาเที่ยวบ้านชมเมืองกัน ไม่ว่าจะมาเดินเล่นถ่ายรูป หามุมสงบอ่านหนังสือ หรือใครที่ชอบกิน การมาลองเมนูอาหารอิสลามแบบท้องถิ่น ก็เป็นประสบการณ์ในการเดินทางท่องเที่ยวที่เชื่อว่าคุณจะติดใจและหลงรัก ยะลาบ้างนะครับ
บางครั้งการกลัวอะไรก็ไม่รู้จากสิ่งที่คนอื่นบอกเล่า ก็คงไม่เท่าที่เราไม่กล้าออกไปค้นหาความจริงด้วยตัวเอง เที่ยวยะลา ให้สนุกนะครับ
EXPLORERS: ตู่, บาส
AUTHOR: ตู่-ไตรรัตน์ ทรงเผ่า
PHOTOGRAPHER: บาส-บดินทร์ บำบัดนรภัย