เมื่อพูดถึงมาเก๊า ทุกคนคิดถึงอะไร ทุกคนน่าจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “คาสิโน” และผมเองก็คิดแบบนั้น เราได้รับรู้ข้อมูลแบบนี้มาค่อนชีวิต แต่พอได้เดินทางไปจริง ๆ ภาพที่เห็นความรู้สึกที่ได้สัมผัสมันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ผมเห็นธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม บ้านเมือง อาคารสถานที่ที่มีการจัดการที่ดี จนลบภาพจำนั้นไปเลย
คอลัมน์ Visit เป็นคอลัมน์ที่เล่าถึงการมาเยี่ยมเยียน และเยี่ยมเยือน การเยี่ยมครั้งนี้ออกจะมาไกลจากที่ที่คุ้นเคยมากหน่อย มาถึงมาเก๊า เมืองที่โดนมองว่าไม่มีอะไรนอกจากคาสิโน ทริปนี้เราไปกันหลายที่ แต่มีอยู่ที่หนึ่งทำให้ผมคิดในใจว่า ถ้าเราเป็นพลเมืองมาเก๊า เราจะมาที่นี่ได้บ่อยแค่ไหน A Ma Cultural Village ตั้งอยู่บนยอดเขาที่ไม่สูงมาก
ที่เมืองโคโลอาน A Ma Cultural Village เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก หมู่บ้านวัฒนธรรมที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองตำนานของเทพธิดาอาม่า (Tin Hau หรือ Mazu) เทพีผู้ปกปักรักษาชาวประมงและนักเดินเรือ
พื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตรแห่งนี้จำลองบรรยากาศของหมู่บ้านจีนโบราณ มีทั้ง ประตูศาลาแบบดั้งเดิม, แท่นบูชาแกะสลักหินอ่อน, แบบวังทิ้นเฮ่า, รวมถึง หอระฆังและหอกลอง ทุกอย่างถูกออกแบบให้สะท้อนสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมที่สง่างามและเปี่ยมด้วยความศรัทธา ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ยังมี รูปปั้นเทพอาม่า (ทิ้นเฮ่า) ที่ว่ากันว่าเป็น รูปปั้นเทพธิดาอาม่าที่สูงที่สุดในโลก ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา มองเห็นได้แต่ไกล และมอบวิวทะเลกับภูมิประเทศโดยรอบเกาะแบบพาโนรามา
การเดินทางจากหมู่บ้านโคโลอาน (Coloane Village) ไปยัง A-Ma Cultural Village สามารถทำได้โดยการนั่งรถเมล์สาย 15, 21A, 25, หรือ 26A ไปลงที่ป้ายใกล้เคียง จากนั้นเดินข้ามถนนมายังจุดจอดรถตู้ Shuttle Bus ฟรี ที่จะพาขึ้นไปยังวัด A-Ma ซึ่งให้บริการทุกๆ 30 นาที หรือเรียกแท็กซี่เพื่อเดินทางโดยตรงก็ได้ ราคาก็อาจจะแพงนิดนึง
เสน่ห์ของที่นี่ไม่ใช่แค่ศรัทธา แต่คือการเชื่อมโยงเข้ากับธรรมชาติและวิถีชีวิตเรียบง่ายของโคโลอาน เพราะจาก A-Ma Cultural Village คุณสามารถเลือกเดินเทรลลงสู่ หมู่บ้านโคโลอาน (Coloane Village) ได้ เส้นทางเดินเขาผ่านป่าโปร่งและจุดชมวิวเล็กๆ ตลอดทางระยะทางประมาณสิบกว่ากิโลเมตร สำหรับคนชอบเดินป่า วิ่งเทรลแล้วระยะทางแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว นักท่องเที่ยวอย่างเราเมื่อเห็นก็ดีใจ ที่เกาะเล็กๆอย่างมาเก๊าจะมีเส้นทางเดินเทรลด้วย
เมื่อเดินถึงหมู่บ้าน คุณจะพบกับบรรยากาศเก่าๆ ที่ยังคงความดั้งเดิมของมาเก๊า บ้านสีพาสเทล คาเฟ่เล็กๆ ร้านขายขนมสไตล์โปรตุเกสอย่างทาร์ตไข่ และท่าเรือที่ยังเห็นชาวประมงใช้ชีวิตจริงที่โคโลอานนี้มีร้านอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่ออยู่หลายร้าน และยังเป็นที่ตั้งของร้าน Lord Stow’s Bakery ร้านทาร์ตไข่แห่งแรกอีกด้วย
ที่นี่จึงเป็นเหมือนการเดินทาง 2 บทในทริปเดียว บทแรกคือความศรัทธาและเรื่องเล่าของเทพธิดาอาม่า บทถัดมาคือวิถีชีวิตช้าๆ ของชุมชนริมทะเล
ถ้าใครชอบถ่ายรูป ชอบกินของหวาน และชอบเดินป่า ลองมายืนอยู่ในจุดเดียวกันตรงนี้สิ ว่าเราจะเห็นเหมือนกันไหม
EXPLORERS: ตู่, บาส, นัท, ปิง, แพรวา, ปุ๊กกี้, นัด, ปลา
AUTHOR: ตู่-ไตรรัตน์ ทรงเผ่า
PHOTOGRAPHER: แพรวา-กรานต์ชนก บุญบำรุง
