Bangkok Design Week เริ่มแล้ว!! ตามมา เราจะพาท่อง 2 ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ‘พระนคร’ และ ‘เจริญกรุง-ตลาดน้อย’ ไปดูนิทรรศการน่าสนใจที่จัดแสดงในห้างร้าง โรงพิมพ์แรกของไทย และอดีตโกดังเก็บรองเท้าที่เปลี่ยนจากโรงงานน้ำอัดลมเดิมอีกทอด บางส่วนจากเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2565 ที่จัดไปจนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ เริ่มชมได้ตั้งแต่ 11 โมงจนถึงสามทุ่มตรง
ห้างนิวเวิลด์
สถานที่แรก คือห้างร้างโถงกลางอาคารเปิดโล่งตรงหัวมุมสี่แยกบางลำพูที่ปัจจุบันก็ยังคงร้างอยู่ ชื่อของมันคือ “นิวเวิลด์” ซึ่งในยุครุ่งเรืองอาจต้องย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2526 หรือช่วงขวบปีแรกหลังสร้างเสร็จใหม่ ๆ เมื่อก่อนผู้คนมาเดินจับจ่ายในห้างนี้กันอย่างครึกครื้น เช่นเดียวกับบางลำพูที่ตอนนั้นเป็นย่านค้าขายที่ผู้คนคึกคัก ทว่าในปี พ.ศ. 2547 ภายหลังจากศาลพิจารณาคำตัดสินให้มีการรื้อถอนส่วนต่อเติมอาคารชั้น 5-11 (จากเดิมแค่ 4 ชั้น) โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนำมาสู่เหตุการณ์พื้นอาคารถล่มระหว่างกระบวนการรื้อถอน ก็เป็นชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ห้างนิวเวิลด์ต้องปิดตัวลงจนทำให้ครั้งหนึ่งที่นี่เคยกลายเป็นวังมัจฉา เพราะมีชาวบ้านเข้ามาปล่อยปลาเพื่อกำจัดลูกน้ำในแอ่งน้ำที่เกิดจากฝนตกลงมาท่วมขังใต้ตึก
ในงาน Bangkok Design Week ครั้งนี้ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมด้วย HUI Team Design, Saturate Designs, คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พร้อมกับภาคีนักออกแบบอิสระ กลุ่มแสงปลากบเกสรลำพู เสน่ห์บางลำพู และประชาคมบางลำพู ได้กลับมาจัดนิทรรศการเพื่อบอกเล่าความเป็นย่านบางลำพูผ่านศิลปะจัดวาง แสง สี เสียง ภายในห้างนิวเวิลด์อีกครั้ง ต่อจากภาคแรกที่เคยจัดขึ้นมาแล้วเมื่อสองปีก่อนหน้า
อยากชวนให้ไปชมว่า ‘NEWเวิลด์ โอลTOWN’ ภาค 2 ส่วนหนึ่งในเทศกาล ‘รวม-มิตร-เมือง’ พระนคร ครั้งนี้จะน่าสนใจอย่างไร ซึ่งนิทรรศการจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าชมล่วงหน้าได้ที่หน้าอาคาร โดยจะแบ่งเป็นรอบ ๆ ละ 15 คน หรือลงทะเบียนผ่าน EVENTBRIGHT ที่ https://shorturl.asia/5Vpzn ได้อีกทางหนึ่ง หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ UrbanAlly.org และ Urban Ally
ห้างนิวเวิลด์ในปัจจุบันได้รับการตรวจสอบจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าโครงสร้างอาคารยังคงมีความแข็งแรง และสามารถใช้พื้นที่บางส่วนจัดแสดงนิทรรศการได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้เข้าชม ทว่าผู้เข้าชมก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของผู้จัดงานอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตัวเองด้วยเช่นกัน
โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ
สถานที่ต่อมา แค่ได้ยินชื่อว่าเป็นโรงพิมพ์แห่งแรกของไทยก็น่าตื่นเต้นแล้ว เพราะว่า “โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ” นั้นสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2438 หรือในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีหลวงดำรงธรรมสาร (มี ธรรมาชีวะ) ซึ่งเป็นปลัดกรมอัยการในเวลานั้นเป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งหากนับมาจนถึงปัจจุบันอาคารสีเหลืองความสูง 2 ชั้นที่ยังคงเห็นร่องรอยของลวดลายปูนปั้น ซุ้มประตู และงานฉลุลายไม้ที่งดงามชัดแจ้งหลังนี้ก็มีอายุถึง 127 ปีแล้ว
โรงพิมพ์เก่าแก่นี้ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังตึกแถวริมถนนบำรุงเมือง ไม่ไกลนักจากสี่กั๊กพระยาศรี ทางเข้าออกเป็นซอกเล็ก ๆ ระหว่างตึกที่เดินรถได้แค่ทางเดียว ด้านหน้าของอาคารเป็นลานจอดรถแบบเช่ารายวัน ส่วนภายในอาคารเดิมเป็นที่เก็บพระพุทธรูปของร้านจำหน่ายสังฆภัณฑ์ แต่ปัจจุบันถูกปัดฝุ่นเป็นป๊อปอัพคาเฟ่และอาร์ตสเปซในชื่อ ‘Craftsman at Bamrungmueng Pop Up Cafe’ ที่ดูแลโดยทีม Craftsman Roastery ซึ่งจะเปิดแค่ชั่วคราวไปจนถึงปลายปีนี้เท่านั้น ก่อนอาคารจะถูกพัฒนาเป็นอย่างอื่นในอนาคต .นอกจากตัวคาเฟ่ ในงาน Bangkok Design Week ครั้งนี้ พื้นที่อาร์ตสเปซราว 200 ตารางเมตร บริเวณชั้น 1 ของโรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ ยังถูกปรับปรุงเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการชั่วคราว รวบรวมผลงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายใต้หัวข้อ ‘Future Paradise’ ของนักออกแบบจากสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ (D&O) เอาไว้มากมายให้ชมกัน
ยังมีนิทรรศการร่วมอย่าง ‘หนังสือจากโรงพิมพ์ : Publishing and the Published’ โดย ศูนย์เชื่อมโยงอาเซียนด้านการออกแบบเมืองและสรรค์สร้าง (Urban Ally) มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับ สำนักหอสมุกดกลาง มหาวิทยาลัยศิลปากร นำหนังสือที่เคยตีพิมพ์จากโรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจมาร่วมจัดแสดง นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ Fos Lighting Design Studio ออกแบบแสงสว่างเพื่อสะท้อนมิติของประวัติศาสตร์ให้กับอาคารแห่งนี้ รวมถึงกิจกรรม Printery Awakening การฉายแสง Projection mapping ลงบนรูปด้านอาคารภายนอกในตอนค่ำ โดย SULIB , ก้องเดช หวานจริง และ ณัฐวุฒิ มีทรัพย์ทอง
อาคารชัยพัฒนสิน
สถานที่สุดท้ายคือ “อาคารชัยพัฒนสิน” ตึกเก่าอายุร้อยปีสีส้มอิฐริมคลองผดุงกรุงเกษมจุดตัดกับถนนเจริญกรุง ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตน้ำอัดลมก่อจะถูกปรับปรุงมาเป็นโกดังเก็บรองเท้าแบรนด์ Jump Master ปัจจุบันปรับปรุงพื้นที่ชั้นบนของอาคารเป็นลานสเก็ตในชื่อ ‘Jump Master Skate Haus’
ในงาน Bangkok Design Week ครั้งนี้ ชั้นล่างของอาคารมีนิทรรศการน่าสนใจคือ ‘Shadow Theatre’ โดย The Standard นำเสนองานศิลปะแห่งจินตนาการที่สร้างสรรค์โดย ไฮเม่ ฮายอน ศิลปินและนักออกแบบผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุคชาวสเปน ซึ่งเขานำคอนเซ็ปต์ Circus Fantasy หรือโรงละครสัตว์แฟนตาซีมาเป็นธีมหลัก แล้วจัดแสดงงานอินสตอลเลชั่นชิ้นใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการแสดงหนังตะลุง สร้างบรรยากาศให้โรงละครนี้เป็นน้ำย่อยก่อนนำไปสู่งานออกแบบและตกแต่งภายในจริง ๆ ที่เขาได้ถูกเลือกให้มารับหน้าที่นี้เนรมิตพื้นที่โรงแรมแฟล็กชิพแห่งแรกของเอเชียอย่าง ‘The Standard, Bangkok Mahanakhon’ ในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย
ขอขอบคุณ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ (Creative Economy Agency, CEA) ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลและชักชวนพวกเราไปร่วมเดินชมงานหนึ่งวันก่อนหน้านี้ Bangkok Design Week 2022 จัดได้น่าชมมาก มีกิจกรรมเยอะมากทั่วทั้ง 5 ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ www.bangkokdesignweek.com
EXPLORERS: ออย, บาส, เจมส์, เฟี้ยต
