Beyond Skywalk Nangshi (บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี) รีสอร์ทที่มีจุดชมวิวพื้นกระจกสูงไว้ยืนชมความงามของเสม็ดนางชี มุมนี้ดีที่สุดในพังงา
Beyond Skywalk Nangshi คือจุดหมาย แต่กว่าสิบชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ถึงพังงา เรียกว่าเมื่อยตูดกันทีเดียว เป็นช่วงเวลาที่พวกเราชอบ การเดินทางท่องเที่ยวด้วยการขับรถแบบโรดทริป มันมีเสน่ห์ เพราะมีเรื่องราวระหว่างทางให้ตื่นเต้นและค้นหาตลอด เหนื่อยก็พัก ง่วงก็นอน คนขับห้ามนอน เป็นแบบนี้ตลอดทาง
ระหว่างทาง
ทุกครั้งที่ทีมงานบ้านและสวน Explorers Club ออกเดินทางเราจะไม่ค่อยเร่งรีบเพื่อจะไปให้ถึงปลายทางเท่าไรนัก เพราะสุดท้ายปลายทางก็ไม่ได้หนีไปไหน เหมือนที่นักเดินทางหลายคนชอบพูดว่า “ปลายทางก็คือเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องระหว่างทางมักมีเรื่องราวและความทรงจำให้คิดถึง” ในแง่มุมของร้านอาหารข้างทาง คาเฟ่ลับ ๆ ผู้คนที่พบเจอ เชื่อไหมว่าร้านข้าวข้างทางที่พวกเราแวะนั้นอาหารอร่อยถูกปากชาวเรามาก
กว่าจะถึงจุดหมายที่ บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี รีสอร์ท ปาไปเกือบสองทุ่ม เพราะว่าพวกเราแวะเข้าตัวเมืองพังงากันเมื่อตอนใกล้หกโมงเย็น เพื่อเดินสำรวจเมืองและตลาดยามเย็น วิธีที่จะรู้ว่าคนบ้านเมืองนี้กินอยู่อย่างไร มีวัฒนธรรมการใช้ชีวิตอย่างไรให้ไปเดินตลาด ที่ตัวเมืองพังงามีภูเขาอยู่รอบตัว อาคารบ้านเรือน ร้านค้า ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมเดิม ๆ ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงนัก จะมีแต่คนที่เปลี่ยนไป
พวกเราตื่นตากับบ้านเรือนร้านค้ามาก เดินเก็บภาพอย่างเมามันจนหลายคนเริ่มมองว่าอีพวกนี้เป็นใครมาจากไหนไม่เคยบ้านเห็นอาคารหรือไง ตลาดนัดตอนเย็นที่นี่ใหญ่มากมีภูเขาเป็นฉากหลัง น่าจะเป็นตลาดที่วิวดีแห่งหนึ่งเลยก็ได้ หลังจากถ่ายรูปเล่น เดินซื้อของกินในตลาด พวกเราก็กินมื้อเย็นในเมืองพังงา ให้จบที่นี่ที่เดียวเลย เพราะอีก 70 กิโลเมตรกว่าจะถึงที่หมาย
จุดหมายปลายทาง
ค่ำคืนนี้ที่ บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี รีสอร์ท ที่พักแห่งใหม่ล่าสุดในย่านนี้ที่มาพร้อม Skywalk ทางเดินพื้นกระจกลอยฟ้าที่สูงและยาวที่สุดกว่าที่มีมา ภายใต้แนวคิด “Colors of Beyond” สาดสีสันการพักผ่อนและท่องเที่ยวให้เจิดจรัสกว่าเคยมีมา
พวกเรานอนเต็นท์ครับ แต่ไม่ใช่เต็นท์แบบที่พวกเราเคยนอนในป่า ครั้งนี้ขอนอนแบบสบายนิดหนึ่ง เต็นท์ที่ว่าเป็นเต็นท์แบบกระโจม เรียกให้หรูก็ “แกลมปิ้ง” ครับ การพักผ่อนในเต็นท์แบบแกรมปิ้งนี้จะต่างจากเต็นท์ทั่วไป คือแกลมปิ้งจะเน้นความสะดวกสบาย ไม่ร้อน ไม่ลำบาก แต่ก็ยังให้อารมณ์ของการนอนอิงแอบธรรมชาติ
ประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย เจ้าของรีสอร์ทบอกกับพวกเราว่า “ที่ทำกระโจมแบบนี้ก็เพราะว่าอยากให้คนที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบผจญภัยแต่ร่างกายไม่เอื้อด้วยเพราะสุขภาพและอายุ จึงคิดทำที่พักแบบแกลมปิ้งนี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงธรรมชาติได้ง่าย”
ถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศการนอนเต็นท์แกลมปิ้งแบบนี้ที่นี่มีสองโซนครับ คือ เต็นท์วิวทะเล (Seaview Tent) เต็นท์กลางป่า (Forest Tent) นอกจากนอนเต็นท์แล้ว ยังมีที่พักแบบ พาวิลเลี่ยนวิวทะเล (Seaview Pavilion) ซึ่งแบบนี้เหมาะกับคนที่มาเป็นคู่แล้วชอบความเป็นส่วนตัว
จุดชมวิวเสม็ดนางชีดีที่สุดในตะกั่วทุ่ง
นอกเหนือจากห้องพักที่ว่าว้าวแล้ว จุดชมวิวยิ่งว้าวกว่า นั่นคือ Beyond Skywalk ทางเดินพื้นกระจกที่หนา 30 มิลลิเมตร สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 500 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ใครชอบถ่ายภาพ ต้องห้ามพลาดจุดนี้ครับ พวกเราก็ไม่พลาดครับ ตื่นตั้งแต่ตีห้า เพื่อมารอรับแสงแรกจากดวงอาทิตย์และรอถ่ายภาพเหมือนนักท่องเที่ยวท่านอื่น ๆ
ระหว่างที่เราพักที่ บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี พวกเราได้มีโอกาสพูดคุยกับประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของโรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “บียอนด์” (Beyond) ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง (*ค่าบริการในการขึ้นชมวิวอยู่ที่ 500 บาทต่อคน รวมอาหารและเครื่องดื่มมูลค่า 300 บาท เปิดให้บริการทุกวัน 06.00-19.00 น.)
ผมถามพี่มุขขณะเดินเล่นที่ Skywalk ว่า “ทำไมถึงทำสกายวอร์ค”
“ก็ไม่มีใครคาดคิดนะ แม้นแต่ภรรยาผม” เขาตอบ
“ผมมองแล้วว่าในบริเวณใกล้เคียงนี้ยังไม่มีใครทำ เห็นว่าเป็นโอกาสจึงตัดสินใจทำ ผมเชื่อมั่นว่าจุดชมวิวของผมนั้นสวยที่สุดในย่านนี้ แต่สิ่งที่ยากคือคนที่จะมาออกแบบให้ผมมากกว่า เพราะคนที่จะมาออกแบบให้ผมนั้นจะต้องรู้ว่าโรงแรมเขาขายอะไร”
“สิ่งสำคัญเลยนะของธุรกิจโรงแรมคือ ขายโลเกชั่น ตามมาด้วยการบริการ ถ้าคนออกแบบไม่รู้ถึงสิ่งเหล่านี้ ออกแบบมายังไงก็แก้หมด ผมถึงต้องเดินดูวิวเองเลยว่าความสูงเท่าไหร่ถึงจะเห็นวิวสวยที่สุด แล้วเมื่อก่อนพื้นที่นี้เป็นป่ายาง สูงชัน ผมต้องเดินดูเองหมด อายุไม่ได้เป็นอุปสรรค ถ้าเราต้องการสิ่งที่ดีที่สุด เราต้องลงมือด้วยตัวเอง”
“ผมทำโรงแรมมาเยอะ แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะทำให้ผมตื่นเต้นเท่าครั้งนี้เลย บอกได้เลยว่าที่ บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี นี้ผมคิด สร้าง ทำ ด้วยมันสมองของผมเองทั้งสิ้น”
ข้อดีของการได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหาร หรือเจ้าของกิจการ พวกเรามักได้ข้อคิดดี ๆ กลับไปทุกครั้ง พี่มุขถามพวกเราว่า “คุณรู้ไหมว่าทำไมผมถึงอยู่ในวงการธุรกิจโรงแรมมายาวนาน”
“คุณจำไว้นะ ถ้าคุณคิดจะทำงานบริการ คุณจะต้องไม่พูดคำว่า ไม่ กับลูกค้าเด็ดขาด” ผมมักจะบอกกับลูกน้องเสมอว่า “never say no” กับแขก แขกขออะไรต้องได้ ยกตัวอย่างเช่นกรณีน้ำดื่มสำหรับแขกเราจัดไว้ห้องละสองขวด แต่ถ้าแขกขอเพิ่มเราก็ให้ แล้วไม่คิดเงินเพิ่มจากแขกอีกด้วย”
นอกจากนี้ ยังมีห้องอาหาร Horizon เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน เสิร์ฟอาหารเลิศรสพร้อมทิวทัศน์อันตระการตา Skywalk Café คาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ สำหรับการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับกาแฟหรือชาสักแก้ว ต่อด้วยการแหวกว่ายรับความสดชื่นในสระว่ายน้ำที่ตั้งอยู่บนชั้น 4 ของอาคาร Upper Lobby สูดอากาศบริสุทธิ์และดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงามขณะว่ายน้ำ
นอนที่นี่ เที่ยวที่ไหน
ทุกครั้งที่พวกเราออกเดินทางไปพักยังที่ต่าง ๆ มักจะไม่พลาดที่จะสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในท้องถิ่นไปในตัว น้อง ๆ ที่ล็อบบี้บอกว่าถ้าพี่อยากเที่ยวชมวิถีชาวบ้าน ชาวเลลองขับรถไปที่ท่าเรือบ้านหินร่มดูสิ นั่นแหละเป็นจุดเริ่มต้นของการนอนที่นี่เที่ยวที่ไหนในทริปนี้
เราออกจากที่พักตั้งพิกัดปลายทางที่ท่าเรือบ้านหินร่ม ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง เป็นชุมชนมิสลิม ที่นี่มีธนาคารปู และเป็นท่าเรือสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะออกทะเลไปชมวิวเกาะตะปู เกาะเจมส์บอนด์ (จุดที่ถ่ายภาพยนต์เรื่องเจมส์บอนด์) เกาะห้อง เกาะพนัก เกาะปันหยี หรือหมู่บ้านยิปซี โดยรวมที่หมู่บ้านนี้เงียบสงบดี มีร้านค้าในหมู่บ้าน เราแวะถ่ายรูปบรรยากาศพอหอมปากหอมคอ กะเอาไว้ว่าถ้ามีเวลามากกว่านี้คงได้นั่งเรือออกทะเล หรือถ้าให้ดีนอนพักโฮมสเตย์ที่นี่สักคืนก็คงจะดี
ออกจากหมู่บ้านหินร่ม เรามุ่งหน้าไปต่อกันที่พิพิธภัณฑ์เบญญารัญ ดูจากแผนที่แล้วไม่ไกลกัน ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชุมชนและประวัติศาสตร์เมืองที่ดีมากแห่งหนึ่ง ก่อตั้งโดย รณชัย จินดาพล มีอาคารแสดงงานถึง 10 อาคาร แต่พวกเราเดินกันไม่ครบครับ เพราะว่าแต่ละอาคารนั้นเรื่องราวเยอะจริง ๆ
สิ่งที่เคยเห็นในอดีต เมื่อพบก็คิดถึง ความจำพรั่งพรูออกมาเล่าให้น้อง ๆ ที่เดินทางไปด้วยฟังไม่เบื่อ แต่ดูหน้าน้อง ๆ แล้วอาจจะเบื่อ ยกตัวอย่างเช่นอาคารที่ 2 จะจัดแสดงพวกเครื่องใช้ในครัวเรือนอย่างเช่นกระต่ายขูดมะพร้าว ครกหิน โม่หิน อาคาร 5 ก็จัดแสดงพวกอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารทั้งอดีตและปัจจุบัน
แต่ที่เป็นไฮไลท์คือรันเวย์เหล็กในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ครั้งที่ญี่ปุ่นมาใช้ภูเก็ตเป็นฐานทัพ เอาเป็นว่าถ้าคุณมีโอกาสตามรอยพวกเราก็แนะนำที่พิพิธภัณฑ์เบญญารัญ เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ใกล้กับพิพิธภัณฑ์เบญญารัญ มีน้ำตกตามธรรมชาติชื่อว่าน้ำตกเบญญารัญ ช่วงที่พวกเราแวะไปน้ำน้อยไปนิด ที่สำคัญมีเส้นทางเดินป่าด้วย
เราปิดท้ายกันที่ท่าเทียบเรือบ้านคลองเคียน เป็นสะพานปูนคอนกรีตยาว ที่นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีเรือบริการไปท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ก่อนทางเข้าพวกเราแวะรับประทานอาหารกันที่ร้านของชาวบ้านข้าง ๆ ร้านสะดวกซื้อ เป็นร้านเล็ก ๆ ของบังญัติ และภรรยา วันที่พวกเราไปเป็นวันแรกของการถือศีลอดในช่วงรอมฎอน หาของกินยากมาก เพราะชุมชนในย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องมุสลิม แต่ด้วยที่เรากินง่าย อยู่ง่ายอะไรก็กิน ทำให้เราพบเจอกับขนมท้องถิ่น คือขนมตาหยาบ เป็นขนมที่ทำจากแป้งแล้วสอดใส้ด้วยมะพร้าว คืออร่อยมาก
อีกอันหนึ่งคือขนมดอกจอก สีน้ำตาลเข้ม กรุงเทพฯเรียกน้ำดอกไม้ แต่ที่นี่เรียกดอกจอกรสชาติจะออกหวานแบบน้ำตาลแดงคล้ายน้ำตาลมะพร้าว อร่อยมากเช่นกัน เชื่อไหมว่าราคา 5 บาท ขนมจีนน้ำยาใต้ จานละ 20 บาท คือถูกมาก และที่มากไปกว่านั้นคือบังญัติแกพิการตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ทำอะไรไม่ได้มาก ก็ช่วยภรรยาขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ที่ร้าน พร้อมด้วยลูกสาวคนเล็กที่มีความฝันในอนาคตว่าอยากจะเป็นคุณครู
นี่แหละเสน่ห์ของการได้ออกมาใช้ชีวิตรอบ ๆ ที่พัก สมดังความตั้งใจที่ว่า “ถ้ามานอนที่นี่ เราจะเที่ยวที่ไหน” ทริปนี้คุ้ม นอนหรู อยู่สบาย ได้ความรู้ ได้ออกกำลังกาย ได้สัมผัสชุมชนลับ ๆ วิวสวย ๆ และได้กินของอร่อย ๆ ในราคาไม่แพง
ขอบคุณ บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี รีสอร์ท, ประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย เจ้าของ บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี รีสอร์ท และรัสรินทร์ สุรธีราเศรษฐ์
เว็บไซต์ https://skywalk-nangshi.beyondresort.com
EXPLORERS: ตู่, เจมส์
AUTHOR: ตู่-ไตรรัตน์ ทรงเผ่า
PHOTOGRAPHER: อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม