Kenaray Farmstay ฟาร์มสเตย์ของคนกรุงเทพฯพลัดถิ่น ที่ยอมทิ้งชีวิตในเมืองหลวงแห่งความศิวิไลซ์ มาใช้ชีวิตพอเพียงแบบสอดรับกับความพอใจในเมืองหลวงสำหรับนักดูนก
‘Kenaray Farmstay’ จุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้ ตั้งอยู่บนที่ดินซึ่งไม่ไกลจากป้ายบอกทางเข้าหมู่บ้านถ้ำเสือ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มากนัก ที่นี่มีบ้านพักตากอากาศหลากหลายรูปทรง สร้างขึ้นท่ามกลางกลุ่มต้นขี้เหล็กที่แตกกิ่งก้านสาขากลายเป็นป่าผืนน้อยแสนร่มรื่น
ซึ่งไม่ว่ายืนอยู่มุมไหนก็ได้ยินเสียงนกร้องไม่ขาดสาย หากใครมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนกายราวกับได้หลุด ได้หลบ ได้หลีกจากความอลหม่านอย่างแท้จริง ที่นี่แหละตอบโจทย์สุดๆ



อยากอยู่บ้านแบบไหน ก็สร้างบ้านแบบนั้นให้คนได้มาพักผ่อน
แรกเริ่มเดิมที เฉ-สกรรจ์ และภรรยา เกด-มณฑ์อุมา พรรนิกร เจ้าของ Kenaray Farmstay ซึ่งมีพื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ ไม่ได้มีแผนเปิดบ้านเป็นที่พักอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน พวกเขาเพียงตั้งใจซื้อที่ดินขนาด 10 ไร่ ติดแม่น้ำเพชรบุรี ผืนนี้เก็บไว้เพื่อสร้างบ้านพักส่วนตัวสำหรับตระเตรียมมาอยู่อาศัยในวัยเกษียณเท่านั้น
แต่ด้วยการลงทุนไปกับการพัฒนาที่ดินเพื่อทำเกษตรกรรมแบบไม่พึ่งพาสารเคมี ซึ่งต้องมีค่าบริหารจัดการพื้นที่ และค่าบำรุงรักษาในแต่ละปีซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนไม่น้อย จึงนำมาสู่การเปิดโฮมสเตย์เพื่อสร้างรายได้หล่อเลี้ยงและชดเชยกับรายจ่ายที่เสียไป

วิถีออร์แกนิกมีราคาที่ต้องจ่าย
กว่าจะร่มรื่นและน่าอยู่อย่างที่เห็นต้องใช้ใจ ใช้แรง ใช้เวลา และมีราคาที่ต้องจ่าย เฉบอกว่า “ที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้วิถีเกษตรจนพบว่าเกษตรกรรมเป็นอาชีพที่ยาก และการทำเกษตรออร์แกนิกนั้นใช้เงินมหาศาล แถมก่อให้เกิดรายได้น้อยมาก จึงต้องสร้างรายได้จากโฮมสเตย์ และร้านกาแฟ เพราะเราต้องทำให้มันเลี้ยงตัวเองได้”
“เรามีบ้านพักแบบวิลล่าเพียง 7 หลังเท่านั้น รับแขกได้สูงสุด 24 คน แต่ทั้ง 24 คน แม้ลงไปริมน้ำพร้อมกันก็ยังเหลือพื้นที่ เพราะเราไม่เน้นรับปริมาณ เราแค่ต้องการรายได้มาหล่อเลี้ยงตัวมันเองได้ สารตั้งต้นของเราไม่ใช่ธุรกิจ แต่เป็นเรื่องการใช้ชีวิตในยามแก่ เราก็เลยคิดว่าจำนวนห้องพักเท่านี้ เราอยู่ได้โดยไม่ต้องเอาเงินที่หาจากน้ำพักน้ำแรงทั้งชีวิตมาเททิ้งทุกเดือน เดือนละหลายหมื่นบาท”
เรียกว่าที่นี่เป็นโฮมสเตย์ที่ออกแบบและก่อสร้างตามเจตนารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของทุกกระเบียดนิ้วก็ไม่ผิดนัก มีน้ำร้อนให้อาบ มีสัญญาณไวไฟแรงชัด มีธรรมชาติให้เสพ มีความสงบให้ มีเสียงนกร้องตลอดเวลา สอดรับไปกับนิยามความพอเพียงในความหมายของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

พอเพียง ไปพร้อมกับความพอใจ
“หลังจากได้มาอยู่ที่นี่ ชีวิตสงบลงกว่าเดิมมาก ซึ่งมันเกิดจากความรู้สึกที่ว่า เราเดินทางมาถึงช่วงอายุที่ความเงียบมันกลายเป็นของมีค่ามากๆ” เฉเล่าที่มาของการตัดสินใจพาลูกๆ ย้ายบ้านมาปักหลักใช้ชีวิตอยู่แก่งกระจานในแบบที่เขาเปรียบเปรยว่า “มาอยู่ก่อนวัยอันควร” ไว้อย่างน่าสนใจ
เฉบอกว่า “ครอบครัวเราอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯมาตลอดชีวิต อยู่มามากกว่า 40 ปี พอถึงวันหนึ่ง เราอยากจะมีบ้านที่เป็นบ้านพักตากอากาศอยู่กับธรรมชาติ สร้าง Extraordinary Home เพื่อเสพธรรมชาติ ใช้ชีวิตอยู่กับความพอเพียงบนความพอใจของสมาชิกทุกคนในครอบครัว อาจไม่หรูหราเทียบเท่าบ้านที่อยู่กรุงเทพฯ แต่ตอบโจทย์ปัจจัยพื้นฐานความอยู่สบาย
“หลายคนมองภาพแก่งกระจานว่าไม่ใช่จุดหมายปลายของคนกรุงเทพฯ ดังนั้นก่อนเราจะทำโฮมสเตย์ขึ้นมา เราต้องคิดก่อนว่าเราจะขายใคร กลุ่มหมายเป็นใคร เราหาคำตอบอยู่ 5-6 เดือน ปรึกษากับเพื่อนที่ทำธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท จนได้คำตอบว่า ต้องทำด้วยใจรัก และสร้างพื้นที่แห่งนี้ให้เป็น Destination”


สถานที่พักผ่อนกับธรรมชาติ (อย่างสงบ)
“คำว่าฟาร์มสเตย์ มันทำให้คนตีความเป็นว่า เราต้องพาคุณไปเก็บผัก เก็บไข่ ซึ่งที่นี่ไม่ใช่ เราวางโพสิชั่นตัวเองว่าเป็น ฟาร์มสเตย์ที่ทุกคนจะได้ใช้ชีวิตกับความสงบ ได้ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ ไม่เน้นสังสรรค์ เฮฮาปาร์ตี้ เพราะเราเจอแบบนั้นมาทั้งชีวิต
“มาที่นี่เราจึงอยากอยู่กับความสงบ เป็นสถานที่พักผ่อนกับธรรมชาติ ที่อยากให้วงเล็บตัวแดงๆ ต่อท้ายว่า (อย่างสงบ) ด้วย”

บ้านทั้ง 7 หลัง ได้รับการตั้งชื่ออย่างน่ารัก ภายในตกแต่งได้อย่างน่าพัก น่าเอนกาย ประกอบด้วย
Bird (Tree House)
Tiger (A-frame Mountain View)
Rabbit (A-frame River View)
Leopard (A-frame River View)
Panda (Standard Room)
Giraffe (Family Room) และ
Hornbill (Family Room) ซึ่งเป็นบ้าน (ห้อง) ที่เราได้มานอนกันในครั้งนี้







สิ่งสำคัญที่ Kenaray Farmstay เน้นย้ำเป็นอย่างมาก คือ ความสงบ และการเคารพต่อสถานที่และเพื่อนบ้านที่มาเข้าพัก
ที่นี่ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าพักเกินจำนวนตามที่กำหนดอย่างไม่มีข้อยกเว้น ไม่อนุญาตให้มีการประกอบอาหารภายในห้องพัก และงดการส่งเสียงดังรบกวนธรรมชาติรวมถึงและแขกคนอื่น ๆ ไม่เหมาะสำหรับผู้อยากมาเปลี่ยนที่สังสรรค์แบบหมู่คณะ (สามารถดื่มอยู่ในขอบเขตได้) ไม่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงทุกชนิด ทุกประเภทเข้าพัก และไม่อนุญาตให้กางเต็นท์











นอกจากนี้ระบบนิเวศภายในไร่ยังค่อนข้างสมบูรณ์ มีโซนเพาะพันธุ์สัตว์ ปีกที่ได้รับใบอนุญาตในการครอบครอง เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ฟ้าหลังขาว นกยูงไทย และนกยูงอินเดีย โดยเฉพาะนกยูงที่เป็นการเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ น้องก็ไม่ได้ใจร้ายกับเรา เช่นกัน เราก็อย่าใจร้ายกับน้องนะ
หากสามารถยอมรับกฎกติกาที่เคร่งครัดนี้ได้ สามารถเช็คราคา และสำรองห้องพักได้ที่ https://bit.ly/3wRoIqz หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.kenarayfarmstay.com

เสน่ห์ของธรรมชาติ ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
มาถึงที่นี่ แล้วไม่ขึ้นไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน คงเป็นเรื่องน่าเสียดาย แน่นอนว่าสมาชิกของ Explorers Club ไม่ได้มานอนเอนกายอยู่แต่ในรีสอร์ทอย่างเดียว เราไม่พลาดที่จะใช้บริการรถนำเที่ยวโดยไกด์ท้องถิ่นที่ Kenaray Farmstay จัดหามาให้ไปลงพื้นที่สำรวจมรดกโลกแหล่งที่ 6 ของไทย หรือมรดกโลกทางธรรมชาติของไทยแหล่งที่ 3 ‘กลุ่มป่าแก่งกระจาน’ (Kaeng Krachan Forest Complex) ผืนป่าขนาดใหญ่ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศของแก่งกระจาน ทำให้เราสามารถพบช้างป่า กระทิง เสือดำ หรือเสือโคร่งได้ (ถ้าคุณมีโชคสักหน่อยนะ)


กลุ่มป่าแก่งกระจาน ประกอบด้วยพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 1 แห่ง ได้แก่ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีพื้นที่ราว 4,089 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 2.5 ล้านไร่ มีอาณาเขตจากเหนือสุดจรดใต้สุดยาวกว่า 200 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่
ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี ภูมิประเทศอันสลับซับซ้อนที่ทอดยาวผ่านคอคอดกระจนถึงคาบสมุทรมลายู ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับเมียนมาร์ทางภาคตะวันตกของไทย และเป็นจุดเชื่อมต่อกับผืนป่าตะวันตกซึ่งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกบริเวณตอนล่างของเทือกเขาถนนธงชัยที่เป็นอีกหนึ่งพรมแดนไทยกับเมียนมาร์ ซึ่งทอดยาวลงมาจากภาคเหนือจรดตอนบนของเทือกเขาตะนาวศรีที่จังหวัดกาญจนบุรี





คนรักผีเสื้อต้องหลงใหลที่นี่แน่นอน เพราะบริเวณบ้านกร่างที่ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ประมาณ 35 กิโลเมตร เป็นแหล่งดูนก ดูผีเสื้อ และเป็นจุดกางเต็นท์ของอุทยานฯ ที่เรียกกันว่า ‘บ้านกร่างแค้มป์’ นอกจากจะร่มรื่นและเงียบสงบมาก ๆ ในวันธรรมดาแล้ว ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 3 กิโลเมตร ให้นักเดินป่าและสำรวจธรรมชาติได้รื่นรมย์อีกด้วย

แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเราประทับใจที่สุดในบ้านกร่าง คือภาพหมู่มวลผีเสื้อหลากสีและสายพันธุ์ ที่ทั้งเกาะบนผืนดินและโบยบินขวักไขว่จนไม่อาจนับจำนวนได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่โป่ง หรือดินบริเวณพื้นที่ของอุทยานฯ ที่มีเนื้อละเอียดและรสเค็ม อันเกิดจากแร่ธาตุธรรมชาติซึ่งเป็นอาหารที่ผีเสื้อชื่นชอบมีความเข้มข้นเป็นพิเศษ จึงนับเป็นฤดูชมผีเสื้อหรือเรียกอีกอย่างว่าเทศกาลดูผีเสื้อของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานก็ว่าได้
ดังนั้นที่นี่จึงเปรียบเสมือนบ้านของผีเสื้อ เราในฐานะผู้มาเยือนจึงต้องคำนึงถึงข้อควรระมัดระวังเป็นพิเศษ นั่นคือการเดินเท้าและขับรถภายใต้ความเร็วที่กำหนดไว้เพื่อรบกวนถิ่นที่อยู่อาศัยของผีเสื้อให้น้อยที่สุด รวมถึงการไม่จับหรือแตะต้องตัวผีเสื้อเลยก็จะดีที่สุด

ทะเลหมอกที่ลอยเหนือทิวเขาและป่าดิบ บนเขาพะเนินทุ่ง
ทะเลหมอก ที่จุดชมวิวพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 900 เมตร และตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ประมาณ 50 กิโลเมตร คืออีกหนึ่งโมเม้นต์ห้ามพลาด
คุณจะได้อิ่มใจกับสภาพแวดล้อมบนยอดเขาที่ถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าและต้นไม้น้อยใหญ่ ถูกห่มคลุมด้วยทะเลหมอกอีกชั้นในยามเช้า นอกจากจุดชมวิวพะเนินทุ่ง ยังมีเส้นทางเดินเท้าให้นักเดินป่าหรือนักสำรวจที่มีเวลาได้ไปพิชิตยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางอีก 2 เส้นทาง คือ เส้นทางสายวังวน-พะเนินทุ่ง ที่จะผ่านลำธารหลายสายโดยใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง กับอีกหนึ่งเส้นทางสายวังวน-พะเนินทุ่ง ที่เหมาะกับการไปส่องนกซึ่งใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง
แต่ถึงอย่างไรทั้งสองทางก็ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯเป็นผู้ช่วยนำทางไปเท่านั้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อวางแผนก่อนขึ้นอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยติดต่อกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้ที่โทร. 09-1050-4461, 0-3277-2311 หรือติดต่อที่ทำการอุทยานฯ โทร.0-3277-2312 และอีเมล [email protected] หรือใครอยากใช้บริการนำเที่ยวจาก Kenaray Farmstay แบบเราก็ได้
ติดต่อ Kenaray Farmstay

EXPLORERS: เฟี้ยต, โก๋
AUTHOR: เฟี้ยต-นวภัทร ดัสดุลย์
PHOTOGRAPHER: โก๋-สิทธิศักดิ์ น้ำคำ