เรามีคำตอบว่าทำไม ไถหนาน จึงถูกเลือกมาเป็นส่วนหนึ่งในทริป “Walk and Bike to the Unseen of Taiwan – ปั่นได้ฟีล ท่องวิวใหม่ที่ไต้หวัน” โดย บ้านและสวน Explorers Club และ National Geographic Thailand จับมือกับ การท่องเที่ยวไต้หวัน ด้วยความตั้งใจจะลองไปรู้จักไต้หวันให้ไกลกว่าไทเป กับ 4 เส้นทางใน 5 เมืองรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งเราคัดสรรและอยากชวนคุณไปค้นหาไต้หวันในมุมใหม่ในแบบฉบับของเรา
เราปักหมุดหมายชมเมืองที่ไม่ค่อยมีใครนึกถึงเป็นที่แรก ๆ เลือกสถานที่จากความสนใจเรื่องงานออกแบบสถาปัตยกรรมที่ดี สถานที่ที่สามารถเป็นกรณีศึกษาเรื่องการพัฒนาพื้นที่สาธารณะของเมือง และพื้นที่ทางธรรมชาติที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และพักผ่อนหย่อนใจ ตามแผนแม่บทการพัฒนาเมืองของไต้หวัน ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเชิงนิเวศวิทยา ควบคู่ไปกับการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 เป็นต้นมา
ไถหนาน (Tainan City) ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวัน นั้นยิ่งกว่าเข้าข่ายเมืองในฝันของเราเสียอีก เพราะที่นี่เป็นอดีตเมืองหลวงของไต้หวันในห้วงเวลายาวนานกว่า 225 ปี ช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1662-1887 เป็นจังหวัดเก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน และเป็นจังหวะพอเหมาะพอดีที่ปีนี้ไถหนานมีอายุครบ 400 ปีเต็ม ด้วยเหตุผลนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ไถหนานจะมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมายให้เราได้ตามไปสำรวจ แต่ในขณะเดียวกันความสวยงามของเมืองและสถาปัตยกรรมยุคใหม่ก็ไม่น้อยหน้าใคร คุณสามารถเช่าจักรยาน YouBike ปั่นเที่ยวบ้านชมเมืองได้ไม่เบื่อ หรือถ้ากลัวเบื่อก็ยังมีพื้นที่ริมชายฝั่งของเมืองที่สามารถนั่งรถออกไปชมธรรมชาติได้ไม่ยาก
เราเดินทางไปช่วงต้นเดือนเมษายน บินตรงจากไทยสะดวกง่ายดาย และสามารถเดินทางไปไถหนานได้หลายวิธีตามความพอใจ จะนั่งรถไฟจากสนามบินเถาหยวน ไปสถานีเถาหยวน แล้วต่อรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มุ่งตรงไปถึงไถหนานในเวลาแค่ 1.40 ชั่วโมง เช่ารถยนต์ขับไปเอง หรือเช่ารถเหมาคันสำหรับ 4-6 คนแบบพวกเราก็สะดวกไปอีกแบบ ถ้าคุณชอบปั่นจักรยานเที่ยว ชอบส่องสถาปัตยกรรม ชอบท่องธรรมชาติที่น่าสนใจ และหากคุณกำลังวางแผนไปเที่ยวไต้หวัน ‘ไถหนาน’ คือหนึ่งในเมืองที่ควรค่าแก่การบรรจุอยู่ใน Bucket list
เที่ยวสองพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย และ Public Water Park
เพื่อคนทุกวัยใจกลางเมืองไถหนาน
4 ชั่วโมงบนทางด่วนจากเถาหยวนในช่วงบ่าย เรามาถึงไถหนานช่วงหัวค่ำ แล้วออกสำรวจบริเวณโดยรอบตัวเมืองย่าน West Central District ที่เราพักแรม แวะตลาดกลางคืนแล้วกลับมานอนเอาแรงเพื่อไปลุยเก็บจุดหมายที่เราตั้งใจไปถึงให้ครบถ้วนในวันรุ่งขึ้น โดยมี Tainan Spring เป็นจุดหมายแรกเมื่อฟ้าสาง เนื่องจากที่พักของพวกเราตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 200 เมตรเท่านั้น
Tainan Spring
Tainan Spring เป็นพื้นที่สาธารณะใจกลางเมืองที่ MVRDV บริษัทสถาปนิกสัญชาติดัตช์ที่มีชื่อเสียง ทำงานร่วมกับ Urban Development Bureau หน่วยงานพัฒนาเมืองของรัฐบาลท้องถิ่นประจำไถหนาน เพื่อฟื้นชีวิตอดีตห้างสรรพสินค้าติดทำเลชายคลองอย่าง China-Town Mall ขึ้นใหม่อีกครั้ง หลังจากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 ก่อนปิดกิจการลงในปี ค.ศ. 2016 โดยเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์มาจากลานจอดรถชั้นใต้ดินเดิมของห้างให้เป็นจัตุรัสที่มีลักษณะแกนยาว
เริ่มต้นจากถนนไห่อัน (Haian Road) ถนนเลียบชายฝั่งคลองช่วงรอยต่อของเขตจงซี กับเขตอันผิง (Anping District) ลอดผ่านถนนจินฮว๋า (Jinhua Road) ไปจนจรดจุดบรรจบของถนนจงเจิ้ง (Jhongjheng Road) มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 54,600 ตารางเมตร ประกอบด้วยเนินและสระทอดยาว สลับป่าคอนกรีตจากโครงสร้างอาคารของอดีตศูนย์การค้า มีระดับน้ำมากน้อยสลับกันโดยผันแปรตามฤดูกาล เปิดน้ำเย็นในฤดูร้อน เปิดน้ำอุ่นในฤดูหนาว เช่นเดียวกับไอน้ำที่ใช้อย่างประหยัดไม่ได้เปิดทิ้งไว้ตลอดเวลา ทางลอดใต้สะพานอาจมีบางช่วงที่คนตัวสูงใหญ่ต้องเดินก้มหัวเพื่อเอาตัวผ่านไป มีการปลูกต้นไม้เพิ่มความสดชื่นพร้อมช่วยลดความแข็งกระด้าง ทำหน้าที่เชื่อมต่อเมืองกับผู้คนเข้าหากันได้อย่างดี
ปัจจุบันสวนน้ำใจกลางเมืองแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลโดยหน่วยงานพัฒนาเมืองของรัฐบาลท้องถิ่น มีสถานะเป็นสระน้ำกลางแจ้งของเด็กน้อยวัยซน ไปจนถึงลานนั่งพักกายพักใจของผู้ใหญ่ต่างวัย ซึ่งเราจะเห็นผู้คนมาวิ่งเล่น นอนแช่ตัวในสระ นั่งเล่นมือถือหลบแดดอยู่ใต้สะพานได้ตั้งแต่ช่วงสายของวันไปจนพลบค่ำ
Tainan Spring คือตัวอย่างของการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ (public space) ของไต้หวันที่น่าสนใจอย่างมาก เป็น Public Water Park จากเศษซากอดีตห้างสรรพสินค้า ที่กลายมาสู่สวน (น้ำ) สาธารณะเพื่อคนทุกวัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นหนึ่งจากหลากหลายกรณีศึกษาด้านแผนแม่บทการพัฒนาเมืองของไต้หวัน ที่เป็นการสะท้อนแง่มุมของการเล็งเห็นวิธีใช้ประโยชน์จากสิ่งปลูกสร้างที่หมดวาระ ไม่ให้ตั้งอยู่อย่างเป็นภาระ แต่กลายเป็นพื้นที่สาธารณะของผู้คนในชุมชนโดยรอบนับตั้งแต่เปิดใช้งานในปี ค.ศ. 2020
นับเป็นความสวยงามของซากปรักหักพังที่แท้จริง
- MVRDV ก่อตั้งโดย Winy Maas, Jacob van Rijs และ Nathalie de Vries ซึ่งมีผลงานกระจายตัวอยู่ 47 ประเทศทั่วโลก และเป็นเจ้าของผลงานสถาปัตยกรรมขึ้นชื่ออย่างเช่น The Markthal มาร์เก็ตฮอลล์รูปทรงเกือกม้าในร็อตเตอร์ดัม, Seoullo 7017 Skygarden สวนลอยฟ้าในกรุงโซล และ The Tianjin Binhai Library หอสมุดสุดอลังการในเทียนจิน เป็นต้น
Tainan Art Museum
ถ้าคุณชอบดูงานสถาปัตยกรรมของสถาปนิกระดับโลกและเอเชีย พอๆ กับชอบเข้าพิพิธภัณฑ์ชมงานศิลปะ ย่อมไม่ควรพลาดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะไถหนาน (Tainan Art Museum) อาคารหลัง 2 ที่ Shigeru Ban สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัล Pritzker Architecture Prize ออกแบบร่วมกับ Shi Zhao Yong ภายหลังชนะการประกวดแบบในปี ค.ศ. 2014 ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นของไถหนานได้มีการเปิดโอกาสให้สถาปนิกต่างชาติร่วมประกวดแบบ เพื่อหาทางเลือกที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวอาคารศิลปะไถหนานหลังใหม่ เพื่อการขับเคลื่อนและพัฒนาแวดวงศิลปะของไต้หวันให้ก้าวหน้า
เจ้าก้อนอาคารสีขาวโพลนนี้มีโครงสร้างหลังคาทรงห้าเหลี่ยม ตั้งเด่นเป็นสง่าใจกลางย่านถนนจงยี่ (Zhongyi Road) เขตจงซี โดยแสดงออกถึงรูปลักษณ์ของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ถ้าไม่บอกคุณดูออกหรือไม่ว่าเป็นต้นอะไร คำตอบคือ หางนกยูงฝรั่ง (Royal Poinciana) ต้นไม้ประจำเมืองไถหนาน
Ban ออกแบบโครงสร้างหลังคาให้ยื่นออกมาปกคลุมห้องแสดงนิทรรศการ และจัดวางตัวอาคารให้มีระดับสูงต่ำลดหลั่นกันเป็นชั้น ละม้ายตัวอาคารหันหน้าออกสู่ทุกทิศทาง โดยมีขั้นบันไดและระเบียงกลางแจ้ง กระจายตัวเป็นทางเชื่อมพื้นที่ภายนอกเข้าสู่ภายในอาคารได้หลากหลายช่องทาง
ด้วยสภาพตึกรามบ้านช่องใจกลางเมืองที่หนาแน่นมากพอแล้ว สถาปัตยกรรมของ Ban จึงเป็นเพียงอาคารโทนสีและรูปฟอร์มที่ดูเรียบง่าย แต่แอบหวือหวาเบา ๆ เพราะเขาตั้งใจจะลดความแข็งกระด่าง ชวนผ่อนคลายเวลาคนมองเข้ามาที่ตัวอาคาร ทั้งยังทำให้ตัวอาคารดูถ่อมตนแม้เป็นอาคารหลังใหญ่ท่ามกลางทิวทัศน์ของเมืองที่หนาแน่นอีกด้วย
ใครใครปั่นจักรยานชมเมืองแบบเรา ที่นี่มีสถานี YouBike อยู่ด้านหลังอาคาร เป็นจุดเช่าและคืนได้อย่างสะดวก ส่วนใครมีเวลามากหน่อย แนะนำให้ลองเข้าไปสำรวจภายในอาคารที่โอ่โถงมาก ๆ และประกอบด้วยโรงละครและพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการขนาดรวมกว่า 2,508 ตารางเมตร วางซ้อนกันอยู่ในอาคาร 5 ชั้น พร้อมห้องจัดแสดงผลงานจิตรกรรม ประติมากรรมจากศิลปินไต้หวันและต่างชาติมากมาย และอย่าพลาด (เหมือนเรา) ไปชมอาคารพิพิธภัณฑ์หลังแรก อาคารสไตล์อาร์ตเดโคที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1931 และเคยใช้งานเป็นอาคารสำนักงานตำรวจประจำเมืองไถหนานมาก่อน
- Shigeru Ban ผู้ก่อตั้ง Shigeru Ban Architects เป็นสถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัล Pritzker Architecture Prize ผู้ออกแบบและสร้างสถาปัตยกรรมฉีกกฎด้วยการใช้กระดาษแทนการใช้ไม้ และคอนกรีต อาทิ Paper Church โบสถ์กระดาษแห่งโกเบที่รื้อถอนมาประกอบใหม่ในไต้หวัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหว
Chimei Museum
ใครชอบงานศิลปะร่วมสมัย ศิลปะแบบคลาสสิก และศิลปะอิมเพรสชันนิซึมของศิลปินชื่อก้องต้องมาเยือนพิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย (Chimei Museum) บนถนนเหวินหัว (Wenhua Road) ย่าน Rende District ที่ มาเรีย ณ ไกลบ้าน บล็อกเกอร์เจ้าของเพจ สะพายกล้องท่องเที่ยว กับ มาเรีย ณ ไกลบ้าน ที่ร่วมทริปมากับเราบอกว่า ดีไม่แพ้เที่ยวพิพิธภัณฑ์ในยุโรป
พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1990 โดย Shi Wen-Long นักธุรกิจและนักสะสมงานศิลปะเจ้าของบริษัท Chi Mei Corporation ที่นี่รวบรวมงานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 4,000 ชิ้น จัดแสดงอยู่ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ โดยแบ่งออกเป็น 5 หมวดหมู่
อาทิ งานประติมากรรม ภาพวาด เครื่องดนตรีเก่าแก่ ฟอสซิลและโมเดลกระดูกสัตว์โบราณ อาวุธและชุดเกราะนักรบโบราณ โดยแบ่งโซนจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วน คือ โซนนิทรรศการงานศิลปะทั่วไป และโซนนิทรรศการงานศิลปะพิเศษที่จัดแบบหมุนเวียน ส่วนพื้นที่บางส่วนบริเวณส่วนกลาง หรือ Sculpture Hall ภายในห้องจัดแสดงไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป
เราเก็บภาพตัวอาคารภายนอกและพื้นที่ภายในบางส่วนที่ได้รับอนุญาตให้บันทึกภาพกลับมาเล็กน้อย สถาปนิก Tsai Yi-cheng ออกแบบอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุค Renaissance หรือสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 ที่มีสัดส่วนสมมาตร มีเสาโรมันสูงเด่นเป็นเอกลักษณ์เข้ากับซุ้มโค้ง และโดมมุขสุดคลาสสิกฉบับสถาปัตยกรรมเรอแนซ็องส์ (Renaissance architecture) อย่างแท้จริง ทั้งหมดนี้สร้างขึ้นด้วยเม็ดเงินสูงถึงสองพันล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ใครอยากมาเยือน แต่ไม่อยากปั่นจักรยานกลางแดด ไม่ได้เช่ารถแบบเรา ก็สามารถนั่งรถไฟมาลงสถานี TRA Bao-an แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงแล้ว
ปั่นจักรยานเลาะเลียบธรรมชาติชายฝั่ง ไปเดินเก็บตะวันย่านนาเกลือ
ใน Southwest Coast National Scenic Area
หนีเมืองเข้าสู่โหมดธรรมชาติ เปลี่ยนบรรยากาศเข้าหาจุดชมวิวและทิวทัศน์ เริ่มต้นท่องเส้นทางธรรมชาติกันที่อุโมงค์ซื่อเฉ่า (Sicao Green Tunnel) ใกล้ปากแม่น้ำชีกู่ ในเขตอุทยานแห่งชาติไถเจียง (Taijiang National Park) ทางแถบชายฝั่งทะเลของไถหนานซึ่งห่างจากตัวเมืองราว 30 นาที
Sicao Green Tunnel
ที่นี่เป็นอุโมงค์ป่าโกงกาง หรือ Mangrove Tunnel ระยะทางสั้น ๆ ใช้เวลาในการล่องเรือไปชมหนึ่งรอบไป-กลับอยู่ราว ๆ ครึ่งชั่วโมง อุโมงค์ซื่อเฉ่าได้ชื่อว่าเป็น “Mini Amazonia” หรือแม่น้ำอเมซอนสายน้อยแห่งไต้หวัน มีบริการเสื้อชูชีพและหมวกให้พร้อมสรรพ โดยเฉพาะเสื้อชูชีพเป็นกฎข้อบังคับว่าทุกคนต้องใส่ก่อนออกเรือ ระหว่างล่องเรือยางลอดอุโมงค์บางช่วงจะเห็นหลังคาของ Sicao Dazhong Temple โผล่เหนือเรือนยอดป่าโกงกาง และบรรดานกและสัตว์น้ำแสดงตัวให้เห็น แต่อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลินจนลืมก้มหัวหลบกิ่งก้านสาขาของต้นโกงกางด้วยล่ะ อย่าหาว่าไม่เตือน!
Southwest Coast National Scenic Area
เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ (Southwest Coast National Scenic Area) กันบ้าง ดินแดนแห่งการเกษตรและการประมงที่นี่มีจุดชมวิวแห่งชาติชายฝั่งทะเลหยุนเจียหนาน ซึ่งไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
หยุนเจียหนาน ที่มาของชื่อคืออาณาเขตของพื้นที่ราบชายฝั่งที่ทอดยาวกินแดน 8 อำเภอริมชายฝั่งทะเลใน 3 เมืองของเกาะไต้หวัน ครอบคลุมหยุนหลิน, เจียอี้ และไถหนาน ดินแดนแรกที่เป็นต้นกำเนิดประเทศไต้หวันเมื่อร้อยปีก่อน
นับเฉพาะเขตไถหนานก็มีสถานทีท่องเที่ยวให้เลือกนับไม่ถ้วน อาทิ ทะเลสาบน้ำเค็มชีกู่ (Qigu Lagoon) ศูนย์จัดแสดงนกปากช้อนหน้าดำ (Black-faced Spoonbill Ecology Exhibition Hall) เขตอนุรักษ์นกปากช้อนหน้าดำ (Black-faced Spoonbill Reserve) เป็นต้น ด้วยความโดดเด่นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติและการประมงชายฝั่ง เป็นแหล่งสารอาหารจากตะกอนของแม่น้ำหลายสายที่ไหนมารวมกัน เป็นย่านอุตสาหกรรมเกลือที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาที่ดินใหม่โดยการถมทะเล เป็นนิคมอุตสาหกรรมประมงท้องถิ่น เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไต้หวัน และเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธ์สัตว์น้ำ รวมถึงแหล่งดูนกอพยพในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะ นกปากช้อนหน้าดำ
Qigu Salt Mountains / Taiwan Salt Museum
ได้ชื่อว่าเป็นย่านอุตสาหกรรมเกลือ ดังนั้นไฮไลต์ของจุดเช็คอินยอดนิยมของคนมาที่นี่ย่อมหนีไม่พ้น ภูเขาเกลือชีกู่ (Qigu Salt Mountains) ภูเขาอันเกิดจากการทับถมกันของก้อนเกลือรวมกันจนมีขนาดมหึมาราว 1 เฮกเตอร์ สามารถขึ้นไปเดินเล่นถ่ายรูปชมวิวมุมสูงกันได้อย่างเพลิดเพลิน
ถ่ายรูปหนำใจ อยากแนะนำให้ไปปั่นจักรยานรอบ ๆ พิพิธภัณฑ์เกลือไต้หวัน (Taiwan Salt Museum) ที่อยู่ไม่ไกลกันสักหน่อย เรียกว่าใกล้ขนาดมองเห็นจากบนยอดภูเขาเกลือเลยล่ะ แม้ตอนนี้พิพิธภัณฑ์เกลือไต้หวันจะอยู่ในช่วงปิดปรับปรุง ก็ยังน่าแวะไปเก็บภาพ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เกลือแห่งแรกของไต้หวัน โดดเด่นด้วยตัวอาคารทรงพีระมิด ภายในจัดแสดงเรื่องราวและวัตถุที่บอกเล่าเรื่องราวในอุตสาหกรรมเกลือของไต้หวันไว้สมบูรณ์มากที่สุด
Jingzaijiao Tile-Paved Salt Fields
ก่อนตะวันจะตกดิน ตกน้ำ หรือลาลับขอบฟ้า ช่วงเวลา 5 โมงเย็น เป็นเวลาที่พอเหมาะพอดีสำหรับการไปโบกมือลาส่งพระอาทิตย์กลับบ้าน เฝ้ามองแสงตะวันอ่อนคล้อยริมชายฝั่งทะเล และเก็บภาพแสงเงาของดวงตะวันสะท้อนนาเกลือที่ นาเกลือกระเบื้องจิ่งไจ๋เจี่ยว (Jingzaijiao Tile-paved Salt Fields) ในเขตเป่ยเหมิน (Beimen District) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1818
นาเกลือกระเบื้องจิ่งไจ๋เจี่ยว มีความน่าสนใจตรงการที่ชาวนาเกลือนำแผ่นกระเบื้องแตกมาปูบนพื้นนา รองพื้นไม่ให้ผลึกเกลือติดกับหน้าดิน ซึ่งเป็นกรรมวิธีช่วยรักษาผลึกเกลือให้ดูใสบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
คราวนี้เมื่อแผ่นกระเบื้องจมอยู่ใต้น้ำทะเลถูกแสงตะวันสาดกระทบในช่วงเย็นจนเกิดผลึกสะท้อนเป็นสีสันสวยงาม ได้กลายมาเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นาเกลือกระเบื้องจิ่งไจ๋เจี่ยวถูกพูดถึง และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยอดนิยมของคนไต้หวันและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไถหนาน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากหลากหลายความน่าสนใจของนานาสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไถหนาน หากคุณมีเวลามากพอ คุณก็มีโอกาสรู้จักไถหนานในมุมใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย และคงได้เขียนเรื่องเล่ายาวมากกว่าเราอีกสักหน่อย แต่หากยังไม่รู้จะไปที่ไหน จะตามรอยพวกเราก็ไม่ว่า
จบเรื่องไถหนานไว้เพียงเท่านี้ แต่ยังคงมีเรื่องให้ติดตามอ่านจากทริป “Walk and Bike to the Unseen of Taiwan – ปั่นได้ฟีล ท่องวิวใหม่ที่ไต้หวัน” อีก 3 เส้นทางรออยู่ ติดตามได้ที่ช่องทางการสื่อสารของพวกเรา บ้านและสวน Explorers Club และ National Geographic Thailand ทั้งในรูปแบบเว็บไซต์และเฟซบุ๊ค
EXPLORERS: เฟี้ยต, มาเรีย, ไอซ์, อีฟ
AUTHOR / PHOTOGRAPHER: เฟี้ยต-นวภัทร ดัสดุลย์