จากไถหนานเมืองหลวงเก่า เราเดินทางมาถึงเมืองหลวงทางทะเลของไต้หวัน เมืองใหญ่ทางตอนใต้ เมืองท่า และเมืองแห่งอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของไต้หวันอย่างมาก ที่นี่คือ เกาสง เมืองอันเป็นส่วนผสมของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความทันสมัย และธรรมชาติที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
แม้ในขณะที่เรายืนอยู่ท่ามกลางตึกสูงเรียงรายรอบทิศ จนเผลอคิดถึงความอลหม่านวุ่นวายผุดขึ้นมาตามประสาเมืองใหญ่ แต่กลับกลายเป็นว่า เกาสง ดูสงบและเต็มไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างน่าประหลาด สารภาพว่าแอบหลงรักบรรยากาศโดยรวมของที่นี่ตั้งแต่ก้าวแรก

ย้อนรอยความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมของไต้หวัน
หากจะมีสถานที่ใดสามารถบอกเล่าเรื่องราวการเติบโตของไต้หวันทั้งในด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ นับตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันได้ละเอียดที่สุด แนะนำให้เริ่มเที่ยวที่นี่เป็นที่แรก ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (National Science and Technology Museum) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ประยุกต์แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในไต้หวัน เปิดมาตั้งแต่ 1997

ห้องนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียนของที่นี่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวรที่เรามีโอกาสได้เดินชมเต็มอิ่มตลอดหนึ่งชั่วโมง คือ ห้องนิทรรศการ Industrial History of Taiwan ที่บอกเล่าการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมของไต้หวันอย่างน่าทึ่ง ผ่านการจัดแสดงวัตถุและสินค้าตัวอย่าง อาทิ อาหารกระป๋อง สิ่งทอ เครื่องใช้ไฟฟ้า แร็กเก็ต หรือไม้เทนนิส และจักรยานซึ่งไต้หวันมี Giant เป็นบริษัทผลิตจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไปจนถึงอุตสาหกรรมไอที






ยังมีห้องนิทรรศการ Space Exploration Hall ที่จำลองประสบการณ์การเดินทางสู่อวกาศ ผ่านการเรียนรู้เรื่องระบบสุริยะจักรวาล ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับนักบินอวกาศ ไปจนถึงนวัตกรรมด้านการบินอย่างจรวด และยานอวกาศในยุคต่าง ๆ พร้อมเกมในรูปแบบสื่อมัลติมีเดียให้ลองเล่นสนุก ๆ แถมได้สาระ ปลา-อาศิรา รองบรรณาธิการบริหาร National Geographic Thailand ที่มาด้วยกัน ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับห้องนิทรรศการถาวรบางส่วนไว้อย่างละเอียด รอติดตามอ่านได้ที่ ngthai.com

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ตั้งอยู่ที่ถนน Jiuru 1st. ย่าน Sanmin District สามารถนั่งรถไฟธรรมดา (TRA) มาลงที่สถานี Kaohsiung แล้วต่อรถบัส Kaohsiung สาย 73 หรือนั่งรถไฟ Local Train 3181 ไป Chaozhou มาลงที่ Science and Technology Museum Station แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงแล้ว ที่นี่เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)

ชมความสวยงามของเมืองท่าช่วงเวลาเย็น
เมื่อได้รู้จักเรื่องราวของเกาสงพอสังเขป จุดหมายต่อไปของเราจึงมุ่งไปสู่บริเวณท่าเรือรุ่งโรจน์ หรือ Glory Pier อดีตท่าเรือหมายเลข 13 ที่เคยมีบทบาทสำคัญในด้านเศรษฐกิจการค้าและการขนส่งของกองทัพของไต้หวัน จุดเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ชายฝั่งกับพื้นที่นอกชายฝั่งอย่าง เกาะจินเหมิน (Kinmen) และเกาะหมาจู่ (Matsu)


Glory Pier ตั้งอยู่บนถนน Haibian และสี่แยกถนน Xintian ย่าน Lingya เป็นเหมือนจุดนั่งพักชมบรรยากาศเมืองสองฝั่งปากแม่น้ำและอ่าวเกาสง มองเห็นแลนด์มาร์คของเมือง อาทิ Kaohsiung Music Center อาคารศูนย์ดนตรีเกาสงริมฝั่งแม่น้ำอ้ายเหอ หรือ แม่น้ำแห่งความรัก (Love River) และท่าเรือเกาสง (Kaohsiung Harbor) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของโลกเลยทีเดียว


จากบริเวณนี้ยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกโดยมีทิวทัศน์เป็นตัวเมืองและผืนทะเลเป็นฉากหลัง เหมาะกับการนั่งเรือเที่ยวรอบอ่าว เดินเตร่ ส่วนใครที่ชอบกิจกรรมลุย ๆ แนะนำให้ปั่นจักรยานสาธารณะของไต้หวันอย่าง YouBike เที่ยวรอบเมืองเกาสง ซึ่งที่นี่มีจุดบริการมากถึง 1,315 จุด สามารถเช่าและคืนได้สะดวกสบายมาก การเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยาก สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานีรถไฟ Zuoying หรือนั่งรถไฟธรรมดา (TRA) มาลงที่สถานี Kaohsiung ต่อรถไฟฟ้าเกาสง (Kaohsiung MRT) มาลงที่สถานี Central Park ได้อย่างสะดวก



ปั่นจักรยาน YouBike เลียบเคียงสายน้ำแห่งความโรแมนติก
เมืองเกาสงมีแม่น้ำอ้ายเหอ หรือแม่น้ำแห่งความรัก เป็นสายธารสำคัญที่ไหลพาดผ่านตัวเมืองเกาสง เราใช้เวลาช่วงพลบค่ำปั่นจักรยานลัดเลาะริมแม่น้ำอ้ายเหอ เพื่อชมบรรยากาศเมืองเกาสงที่สว่างไสวด้วยแสงไฟสุดโรแมนติก สภาพอากาศในวันนั้นค่อนข้างเย็นสบาย เราจึงปั่นไปเรื่อย ๆ เพลิดเพลิน ไม่เหนื่อย เหงื่อแทบไม่ออก



10 นาทีจากบริเวณปากแม่น้ำอ้ายเหอ พวกเราชวนกันปั่นจักรยานลัดเลาะริมฝั่ง ตามเส้นทางที่ Map แนะนำไปจนถึงตลาดนัดกลางคืนลิ่วเหอ (Liuhe Tourist Night Market) เพื่อกินข้าวเย็นกันที่นี่

ตลาดนัดกลางคืนลิ่วเหอ ที่ถนน Liuhe 2nd ย่าน Xinxing ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี 1950 ช่วงเวลากลางวันบริเวณนี้จะเป็นถนนที่ใช้สัญจรตามปกติของชาวเกาสง พอตกเย็นก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าออกมาตั้งร้านรวงมากกว่า 100 ร้านค้า เปลี่ยนบรรยากาศยามราตรีให้คึกคักไปด้วยผู้คน มีอาหารหลากหลายให้เลือกกินฉ่ำๆ ราคาน่าคบค้า ไม่แพงจนเกินไป เทียบเงินไทยแล้วมีทอน




ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 – 02.00 น. ใครไม่สะดวกปั่นจักรยานสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานีรถไฟ Zuoying หรือนั่งรถไฟธรรมดา (TRA) มาลงที่สถานี Kaohsiung เดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้าเกาสง (Kaohsiung MRT) มาลงที่สถานี Formosa Boulevard ได้อย่างสะดวก

ชมเกาสงมุมสูงในแหล่งธรรมชาติน่าเที่ยวใจกลางเมือง
เห็นเป็นเมืองทันสมัยแบบนี้ ใครจะเชื่อว่าเกาสงมีอุทยานแห่งชาติตั้งอยู่ในย่านกลางเมืองด้วยนะ เรากำลังพูดถึง อุทยานแห่งชาติโซ่วซาน (Shoushan National Nature Park) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเกาสง พวกเราใช้เวลาว่างในช่วงเช้าชวนกันไปเที่ยวภูเขาโฉ้ว (Shou Mountain) เดินป่าบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะใกล้ ไปยืนชมวิวเมืองเกาสงในมุมสูง

ภูเขาโฉ้วเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติโซ่วซาน มีลักษณะเป็นเนินเขาริมชายทะเลที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาแบบแนวปะการังไล่จากเหนือสู่ใต้ ต้นไม้ขึ้นหนาแน่น มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ชาวเมืองเกาสงและนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ
อย่างเช่น สวนสาธารณะโซ่วซาน (Shoushan Park) ศาลเจ้า หรือวัด เช่น Qianguang Temple, Yuanheng Temple และ Faxing Temple รวมถึงมีสวนสัตว์โซ่วซาน (Shoushan Zoo) และเส้นทางเดินป่าทั้งระยะใกล้และไกลให้เลือกเที่ยวได้จุใจ สามารถนั่งรถไฟธรรมดา (TRA) มาลงที่สถานี Kaohsiung ต่อรถบัส Kaohsiung สาย No. 56 มาลงป้าย Shou Shan Zoo








นี่คือหนึ่งในหลายเหตุผลที่เราแอบหลงเสน่ห์เกาสงเข้าเต็มเปา ท่ามกลางตึกสูงเรียงรายรอบทิศกลับมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่คนเมืองเข้าถึงได้ง่ายดาย มีน้ำทะเลสวยใส แถมอากาศเย็นสบายตลอดปี

อนุสรณ์พุทธสถานย่านชานเมืองเกาสง
จุดหมายต่อไปของพวกเราคือผิงตง (Pingtung County) เทศมณฑลทางภาคใต้ของไต้หวัน และจุดใต้สุดของเกาะไต้หวัน ทว่าระหว่างรอยต่อของสองเขต เกาสง และผิงตง มีหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ นั่นคือ อนุสรณ์พุทธสถานฝอกวงซาน (Fo Guang Shan Buddha Museum) ตั้งอยู่บนถนน Tongling เขต Dashu สร้างเสร็จในปี 2011 และกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมยอดนิยมของไต้หวัน

อนุสรณ์พุทธสถานฝอกวงซาน มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 100 เฮกเตอร์ มีองค์พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ฝอกวง พระพุทธรูปนั่งที่สูงที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่ภายใน ด้านหน้าองค์พระมีอาคารโถงใหญ่สูง 108 เมตร ตั้งอยู่ ที่นี่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าศากยมุนี


อนุสรณ์พุทธสถานฝอกวงซานยังมีพิพิธภัณฑ์ และหอประชุมที่สามารถจัดสัมมนาระดับนานาชาติรองรับความจุผู้คนได้ถึง 2,000 ที่นั่ง ที่นี่จะคึกคักอย่างมากในช่วงเทศกาลสำคัญ อย่างวันหยุดปีใหม่ หรือเทศกาลโคมไฟ ซึ่งทั่วทั้งอนุสรณ์พุทธสถานฝอกวงซานจะประดับไปด้วยด้วยโคมไฟสว่างไสว มีโอกาสต้องแวะกลับมาชมสักครั้ง


ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 19.00 น. (ปิดวันอังคาร) สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานีรถไฟ Zuoying แล้วต่อรถบัส Kaohsiung หรือ E-Da Bus มาลงที่ป้าย Buddha Museum ได้อย่างสะดวก
ทั้งหมดเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งจากหลายสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของเมืองเกาสง เมืองอันเป็นส่วนผสมของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความทันสมัย และธรรมชาติที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เกาสงเปลี่ยนภาพจำของเมืองอุตสาหกรรมที่ดูไม่น่ามีสถานที่เที่ยว ให้เป็นเมืองน่าเที่ยวเมืองหนึ่งในไต้หวันที่ควรมาสักครั้งในชีวิต

ในตอนต่อไปเราจะพาไปเที่ยวผิงตง อ่านจบแล้วตามเราไปเที่ยวไต้หวันตอนใต้ตามคอนเซ็ปต์ ‘Where Nature Meets Culture’ ด้วยกันครับ
EXPLORERS: เฟี้ยต, ปลา, ออน, ฟาง, เชอร์รี่, มุก, แน็ค, เบียร์
AUTHOR: เฟี้ยต-นวภัทร ดัสดุลย์
PHOTOGRAPHER: ฟาง-อภินัยน์ ทรรศโนภาส
GRAPHIC DESIGNER: ฟอฟอ-อานันตญา รุ่งลิขิตเจริญ