ใครมองหาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ไว้ทัวร์ยกก๊วน เที่ยวยกแก๊ง ในช่วง วันหยุดสงกรานต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันศุกร์ที่ 14 เมษายนนี้ อุทยานแห่งชาติ ทั่วประเทศไทยเขาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าฟรี เรามี ที่เที่ยวเพชรบุรี และที่ เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ มาแนะนำ พร้อมเส้นทางที่คุณสามารถจัด โรดทริป (Road Trip) เล็กๆ ขับรถเที่ยวไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็แวะพัก
จุดหมายหลักของเราอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อุทยานแห่งชาติหาดวนกร และอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ก่อนจะไปถึงจุดหมายเหล่านั้น ระหว่างทางก็มีสถานที่น่าเที่ยวมากมายที่ไม่ควรขับเลยผ่านไปเฉย ๆ เราจึงอยากให้คุณเริ่มต้นโรดทริปนี้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน หรือไปล่วงหน้าสัก 1 วัน เที่ยวแบบไม่รีบเร่ง ขับรถไปตามเส้นทางรองที่กูเกิ้ลอาจไม่แนะนำ เพราะถึงจุดหมายช้ากว่าเส้นทางหลัก แต่เราอยากแนะนำเพราะสองฝั่งทางมีจุดชมวิวและแหล่งท่องเที่ยวสวยงามมากมาย ใครกลัวหลงก็เปิดกูเกิ้ลแมพที่เราปักหมุดไว้ให้ประกอบไปด้วยได้ ที่นี่ (https://bit.ly/43tc2qq)
ทริปนี้พวกเราออกสตาร์ทจากกรุงเทพฯ โดยตั้งต้นที่ถนนพระราม 2 วิ่งยาวมาจนถึงช่วงหลักกิโลเมตรที่ 72 แล้วเปลี่ยนมา ใช้เส้นทางลัดไปหาดชะอำ คือทางหลวงชนบท สส.2021 ซึ่งเป็นถนนเลียบอ่าวไทย เส้นทางนี้จะวิ่งผ่านคลองโคน ชุมชนปากอ่าวไทยในจังหวัดสมุทรสงคราม อาณาเขตติดต่อจังหวัดเพชรบุรี ที่มีพื้นที่ป่าชายเลนกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ที่สุด
จุดแรกที่เราแนะนำให้จอดรถชมวิว คือสะพานข้ามแม่น้ำบางตะบูน ที่มีสายลมโชยเย็น ๆ ช่วยบรรเทาความร้อน ขณะยืนชมเส้นขอบฟ้าตัดน้ำทะเลที่ไกลสุดตา คละเคล้ากระเตง หรือกระท่อมของชาวประมง ที่ตั้งเรียงรายอยู่กลางผืนทะเล เป็นภาพชวนประทับใจสุด ๆ
จากสะพานข้ามแม่น้ำบางตะบูน รอยต่อระหว่าง ทางหลวงชนบท สส.2021 กับ ทางหลวงชนบท พบ.4012 เราเข้าสู่จังหวัดเพชรบุรีเต็มตัว ในเขตอำเภอบ้านแหลม แหล่งผลิตเกลือทะเล หรือเกลือสมุทร ที่สำคัญของไทย เราขับไปตามถนนที่ตัดผ่านนาเกลือ ซึ่งสองฝั่งถนนมีจุดจอดรถชมวิวตลอดเส้นทาง แน่นอนว่าเราจะเห็น แปลงนา คันนา กองเหลือ ยุ้งเกลือ เรียงรายกันจนเป็นเรื่องปกติ
สงสัยไหมว่า ทำไมในจังหวัดเพชรบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม จึงมีการทำนาเกลือกันมากเหลือเกิน นั่นก็เพราะจังหวัดเหล่านี้มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลที่เหมาะสำหรับทำนาเกลือที่สุด เนื่องจากมีภูมิประเทศเอื้ออำนวย คือเป็นที่ราบและพื้นเป็นดินเหนียวที่อุ้มน้ำได้ดีนั่นเอง
อีกหนึ่งจุดแวะพักที่ไม่ควรพลาด คือจุดชมวิวหาดทรายเม็ดแรก ที่มีฉากหน้าเป็นอ่าวไทย และฉากหลังเป็นป่าชายเลน หรือป่าโกงกางแหลมผักเบี้ย สลับกับซากปรักหักพังของแนวกันคลื่น วันที่เราไปผู้คนไม่พลุกพล่านนัก บรรยากาศสงบเงียบดี แต่ไม่มีร่มไม้ให้หลบร้อนสักเท่าไร
หากคุณมีเวลาแวะพักมากหน่อย เส้นทางที่เราขับรถผ่านยังมีทั้งป่าชายเลนโครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย (ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบใหม่) มีธนาคารปูม้า วิสาหกิจชุมชนแห่งแหลมผักเบี้ย ผ่านหาดเจ้าสำราญ และจุดชมวิวบางแก้วที่น่าสนใจไม่แพ้กันให้เที่ยวอีกด้วย
เราขออนุญาต Skip หรือข้ามผ่านจุดท่องเที่ยวตากอากาศชายทะเลยอดนิยมอย่าง ชะอำ และ หัวหิน เพื่อปลีกหนีความพลุกพล่านไปที่ปากน้ำปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่นี่มีทั้งหมู่บ้านชาวประมง เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนในวนอุทยานปราณบุรี เขากะโหลก หรือ วนอุทยานท้าวโกษา ที่หาดนเรศวร ที่เป็นจุดท่องเที่ยวขึ้นชื่อ
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
พวกเราขับรถเลียบชายหาดปากน้ำปราณ ผ่านต้นตาลสามพี่น้อง ไปตามเส้นทางที่กูเกิ้ลแนะนำบ้าง และแอบดื้อไปตามทางที่เราอยากไปแต่กูเกิ้ลไม่แนะนำบ้าง (บางช่วงของเส้นทางที่เราผ่าน ภาพเบื้องหน้าเป็นทุ่งชุ่มน้ำและภูเขาหินปูนสูงชัน สวยงามมาก) ท้ายที่สุดเราก็ถึงจุดหมายหลักจุดหมายแรก คือ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด พื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอสามร้อยยอดและอำเภอกุยบุรี ที่มีหนึ่งทุ่ง สองหาด สามถ้ำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเรียกแขก ประกอบด้วย ทุ่งสามร้อยยอด (บึงบัว) หาดสามพระยา หาดแหลมศาลา ถ้ำพระยานคร ถ้ำแก้ว และถ้ำไทร หากคุณมีเวลามากพอเราอยากให้ไปเก็บให้ครบ
แต่ถ้าคุณมีเวลาไม่มาก ก็ลองเลือกสถานที่ที่คุณชอบสักจุดเหมือนที่เราปักหมุดไป ทุ่งสามร้อยยอด หรือบึงบัวที่อยู่ฝั่งทิศตะวันตกของอุทยานฯ ที่นี่คือแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ เป็นแหล่งดูนก และดูบัวที่สำคัญ
อุทยานแห่งชาติหาดวนกร
จากนั้นเราขับรถไปตามเส้นทางหลัก ถนนเพชรเกษม ไปจนถึงตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จุดหมายต่อไปของเราคือ หาดวนกร ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ที่ตอบโจทย์ทั้งคนอยากแคมปิ้งหน้าร้อน อยากนั่งโก้ ๆ ริมทะเล อยากเดินเตร่เลียบหาด อยากศึกษาธรรมชาติทั้งบนบกและใต้น้ำ ดื่มด่ำช่วงเวลาที่คลื่นลม เม็ดทราย และแสงแรกของวันบรรจบกันใต้ป่าสนยามฟ้าสาง
จุดที่เรามาตั้งแค้มป์ริมหาดนั้นอยู่ในพื้นที่ทำการอุทยานฯ เขตอำเภอทับสะแก ลึกเข้ามาจากถนนเพชรเกษมประมาณ 3 กิโลเมตร ที่เราหลังรักที่นี่มาก ๆ ก็เพราะหาดวนกรมีหาดทรายขาวที่ทอดตัวเป็นแนวยาวสลับโขดหินยื่นลงไปในทะเล มีพื้นที่สีเขียวคู่ขนานแนวชายฝั่งเป็นป่าสน ที่มีทั้งต้นสนทะเลและสนประดิพัทธ์สูงตระหง่านเรียงรายคละเคล้าไปกับพรรณไม้ชนิดอื่น ๆ สภาพภูมิประเทศเหล่านี้ช่วยขับให้หาดวนกร กลายเป็นจุดกางเต็นท์ริมทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในฝั่งอ่าวไทย กล่าวได้ว่าที่นี่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างมาก
อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง
ไม่ไกลจากหาดวนกร ก่อนกลับบ้าน แวะเยี่ยมชมศึกษาธรรมชาติ หรือเปลี่ยนบรรยากาศจากนอนริมหาดมานอนกลางผืนป่าอีกสักคืนก็เหมาะอย่างยิ่ง ทริปนี้เรามาเดินสำรวจ น้ำตกห้วยยาง สายธารที่ไหลลงมาจากยอดเขาหลวง ซึ่งย่างเข้าฤดูร้อน น้ำในน้ำตกเริ่มแห้งขอดเป็นเรื่องปกติ แม้ช่วงนี้น้ำแห้ง แต่ ใครที่อยากแคมปิ้งหน้าร้อน ลานกางเต็นท์ที่นี่ก็เหมาะเพราะกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เราได้ออกแรงกายกันด้วย
ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติของจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ที่เราไม่ได้รวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโรดทริปนี้ แต่ก็น่าสนใจไม่แพ้กันให้ตามไปเที่ยวได้ หากมีเวลามากพอ คือ ‘กลุ่มป่าแก่งกระจาน’ (Kaeng Krachan Forest Complex) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของไทยแหล่งที่ 3 โดยเริ่มต้นจากเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี และอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จังหวัดราชบุรี ต่อมายังอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู
เริ่มจาก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นอกจากมีสัตว์ป่าให้ส่อง ยังมียอดเขาให้นั่งมองทะเลหมอกอย่างไม่มีเบื่อ แถมยังมีผีเสื้อโบยบินให้ชมอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในฤดูร้อน! ขึ้นไปมาสัมผัสบรรยากาศการนอนแค้มป์ที่ ‘บ้านกร่าง’ และชมวิวยามเช้าที่ ‘เขาพะเนินทุ่ง’ หรือแวะเที่ยว บ้านโป่งลึก – บ้านบางกลอย สองชุมชนเล็ก ๆ ในป่าใหญ่ แหล่งพักพิงถิ่นอาศัยของชาวปกาเกอะญอ และเป็นหมู่บ้านแรกของต้นน้ำเพชรบุรี ที่มีสายธารแบ่งดินแดนธรรมชาติแสนอุดมออกเป็นสองฟากฝั่ง ซึ่ง ใครอยากท่องไพรแดนเปอโผล่ง ล่องแพแม่น้ำพริบพรี อ่านต่อได้ที่ https://explorersclub.baanlaesuan.com/trip/pong-luek-bang-kloi
สุดท้ายคือ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ‘ซาฟารีเมืองไทย’ ใครอยากใช้ชีวิตเนิบ ๆ แบบนอนโฮมสเตย์สักคืน เพื่อตื่นเช้าไปชมตะวันรุ่งกลางทุ่งกว้าง นั่งรถเข้าป่าไปส่องช้างในเขตมรดกโลกทางธรรมชาติ หรือเดินลอดอุโมงค์ต้นไม้ไปเก็บขี้ช้างมาทำกระดาษ เราขอแนะนำให้มาเที่ยวกับ วิสาหกิจชุมชนหมู่บ้านรวมไทย อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อ่านต่อได้ที่ https://explorersclub.baanlaesuan.com/trip/kui-buri-national-park
EXPLORERS: บาส, เฟี้ยต, กัน
PHOTOGRAPHER: นภสิทธิ์ ตันเสียดี