พลอย – พลอยไพลิน พงศ์พิสุทธิโกศล สาวน้อยวัย 23 ปี เพิ่งเรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มาได้ไม่นานนัก ปัจจุบันเธอทำงานประจำด้าน Marketing Agency และเป็นเจ้าของเพจ Ploi’s Voyage ที่มีผู้ติดตามแตะหลักหมื่นต้น ๆ
พลอย – พลอยไพลิน พงศ์พิสุทธิโกศล ชอบเที่ยวทะเลและมีหนึ่งในกิจกรรมสุดโปรดคือการดำน้ำ และนั่นทำให้เธอเป็นนักดำน้ำอายุน้อยที่สุดจากทั้งหมด 10 คน ที่เราชวนมาคุยในโปรเจ็กต์ที่ Seiko ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องมหาสมุทรโลกใบนี้
แม้อายุน้อยสุดก็จริง แต่แนวคิดและความตั้งใจของพลอยก็น่าชื่นชมไม่น้อยหน้ารุ่นพี่ บรรทัดต่อจากนี้คือบทสนทนาของสาวตัวเล็กใจใหญ่ที่มีความฝันการได้เป็นครูสอนดำน้ำ และเป็น Vlogger ไปกอบกู้โลก (ใต้ทะเล) แม้ต้องหยุดไว้ความตั้งใจไว้ชั่วคราวด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
“อีกสามเดือนจะลาออกไปทำตามความฝัน” พลอย ย้ำจุดมุ่งหมายอันแน่วแน่
“จริง ๆ ชอบเที่ยวทะเลอยู่แล้ว แล้วรู้สึกว่าการดำน้ำเป็นกิจกรรมที่ต้องลองสักครั้งหนึ่งในชีวิต มันคือเป้าหมายของเรา จากตอนแรกเริ่มดำน้ำกับครู ติดอยู่กับครู สักพักก็เริ่มไปคนเดียว ไปเที่ยวคนเดียว เริ่มดำน้ำคนเดียว แล้วก็ได้เจอกับเพื่อนหลายกลุ่ม แต่พลอยยังดำไม่เยอะนะ 100 กว่า Dive เท่านั้นเอง ไม่เท่าพี่ ๆ คนอื่นที่แบบว่าดำน้ำอย่างบ้าคลั่ง”
“เรารู้สึกว่าเราชอบโลกใต้น้ำ เหตุผลก็น่าจะเป็นเหมือนหลาย ๆ คนที่ชอบ เพราะว่าลงไปแล้วรู้สึกว่ามันคือคนละโลกเหมือนเราได้พักจากโลกแห่งความเป็นจริง คือปกติข้างบนเราจะเป็นคนค่อนข้างไฮเปอร์มาก ไม่ค่อยมีสติ แต่ลงไปแล้วเหมือนเป็นอีกคนหนึ่ง เหมือนเราได้อยู่กับตัวเอง เหมือนได้ชัตดาวน์โลกข้างบน มันเป็นฟีลลิ่งที่ชอบ ไม่รู้จะอธิบายออกมาอย่างไรดี แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือสังคม คือเราเจอแต่คนน่ารัก กลายเป็นว่าเราอยู่สังคมนี้มากกว่าสังคมเพื่อนอีก ก็คือเพื่อนที่มีอยู่ตอนนี้คือมาจากการดำน้ำทั้งนั้นเลย ประมาณ 80-90%”
“เมื่อก่อนไม่เคยคิดเลย เรื่องอนุรักษ์นี่ไม่ค่อยมีอยู่ในหัวเลย จนได้มาดำน้ำแล้วรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างกับมันเพราะเรารู้สึกว่า ใต้ทะเลนี่แหละมันคือเซฟโซนของเรา แล้วยิ่งมาเจอปัญหาสิ่งแวดล้อมแบบนี้ก็ค่อนข้างสะเทือนใจเราต้องทำอะไรสักอย่างที่จะช่วยตรงนี้ได้ จริง ๆ”
“แก๊งค์ที่พลอยสนิทที่สุด คือแก๊งค์ล่าอวน SOS (Save Our Sea Thailand) จะจัดทริปออกไปล่าอวนกันตลอด จะมีสายส่งมาว่าตอนนี้มีอวนติดอยู่ตรงไหน พวกเราก็จะออกไปกัน แต่ว่าพลอยเคยเข้าร่วมกับเขาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ที่ร่องน้ำชุมพร หรือปากน้ำชุมพร ที่นั่นกระแสน้ำค่อนข้างแรง คือเราไม่ควรจะลงด้วยซ้ำ แต่ว่ามันมีอวนผืนใหญ่มาก ตอนแรกเขาก็บอกนะว่าเราเป็น Newbie ไม่ต้องไปช่วยตัดก็ได้ แต่จังหวะนั้นคือมันต้องช่วยแล้ว เราลงกันไป 10 กว่าคน ช่วยกันหมดเลย”
“ยังมีทริปใหญ่อีกทริปที่ดำลงไปเก็บขยะ ลงไปแล้วมันรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำได้ช่วยเขาจริงๆ เพราะมันเห็นต่อหน้าต่อตาเลยว่าแค่น้องปลาว่ายมามันก็ติดแล้ว ถอยหลังออกไม่ได้ กระเสือกกระสนอยู่แบบนั้น แล้วบางทีซากปลาก็เน่าอยู่ตรงนั้น พอมันว่ายมาติดอีกก็เน่าเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ คือรู้เลยว่าปัญหาเรื่องอวนมันส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง นอกจากเรื่องขยะ เรื่องอวนก็เป็นสิ่งที่ต้องแก้โดยด่วนจริง ๆ”
“อีก Dive หนึ่งที่ไปล่าอวนเหมือนกันแล้วได้เจอฉลามวาฬ คือเกาะเต่า น้องว่ายเร็วมาก แต่เราก็พยายามดำตามลงไปเพราะจะไปล่าอวนแถวนั้นพอดี พอเราดำตามลงไปก็เจออวนผืนใหญ่มากติดอยู่ข้างล่าง ตรงหน้าผาที่เป็น Diving spot ด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าน้องไม่ดำไปแถวนั้น เราก็คงไม่ไป เหมือนน้องพาเราไปให้เจออวนตรงนั้น น้ำค่อนข้างลึกด้วย อยู่ได้ไม่นาน ทุกคนต้องรีบตัด ตัดอะไรได้ก็ตัดก่อน แล้วก็ขึ้นมาช่วยสัตว์น้ำข้างบน”
“สำหรับเรา เราหวังและเชื่อว่าถ้าเราทุกคนช่วยกันจริง ๆ มันทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นได้ แต่มันก็แอบเหนื่อยเหมือนกันนะเป็นความหวังอันมืดบอด เพราะเราโดนบอกแบบนั้นมาตลอดเวลา ยิ่งถ้าอยู่ในสังคมผู้ใหญ่มาก ๆ เขาจะพูดตลอดว่าเรื่องขยะมันเป็นเรื่องมาเฟีย เป็นธุรกิจทั้งนั้น แล้วเราไปเจอคนทำโรงงานขยะ เขาก็จะไม่เชื่อเลยว่าเรื่องนี้มันทำได้ เป็นไปไม่ได้เลยที่เราทำได้ก็คือเวลาเจอใครก็พยายามให้ข้อมูลเขา เราต้องมีความหวังอันมืดบอดว่ามันได้”
พลอยถือเป็นคนรุ่นใหม่อีกหนึ่งคนที่มีใจอนุรักษ์ และอยากเห็นท้องทะเลที่เธอหวงแหนสวยงามไปแสนนาน เช่นเดียวกับจุดมุ่งหมายของ Seiko Prospex Save the Ocean ที่มุ่งเน้นในการตอบแทนและรณรงค์ให้ทุกคนหันมาเอาใจใส่ดูแลท้องทะเลอย่างจริงจัง
พลอยสวมใส่ Seiko Prospex Save the Ocean เจเนอเรชั่นที่ 7 หนึ่งในคอลเล็กชั่นที่มีเป้าหมายในการอนุรักษ์ท้องทะเลให้กลับมาสวยงามเหมือนเคย นำเสนอความสวยงามของดินแดนแอนตาร์กติกาในโทนสีฟ้า สีที่บ่งบอกความเป็นขั้วโลกใต้อันหนาวเหน็บ มาพร้อมหน้าปัดลวดลายเกร็ดหิมะ และมีรอยเท้าของเพนกวิน หนึ่งในสัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์ของดินแดนแห่งนี้เดินประทับเอาไว้
หน้าปัดสีฟ้าได้รับแรงบันดาลใจจากทูน่าแคน หรือทูน่ากระป๋อง ทรงตัวเรือนทำจากสเตนเลสสตีล มีความทนทานแข็งแรง และเป็นทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมากมาตั้งแต่ช่วงยุค 70’s สวมใส่สบายด้วยสายซิลิโคนสีฟ้าสอดรับกับหน้าปัด ขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 4R35 ที่สำรองพลังงานได้นานสูงสุดถึง 41 ชั่วโมง และสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร
และไม่ว่าจะดำน้ำใต้ทะเลลึกที่มืดทึบแค่ไหน SEIKO Prospex Save the Ocean #7 Special Edition รุ่นนี้ก็ยังคงส่องสว่างเพราะมี LumiBrite สารเรืองแสงชนิดใหม่ที่ให้ความสว่างมากกว่าและเป็นระยะเวลานานกว่าสารเรืองแสงทั่วไป อีกทั้งยังปราศจากสารที่เป็นกัมมันตภาพรังสี ปลอดภัยกับทั้งผู้สวมใส่และสิ่งแวดล้อม
การคุยกับพลอยแห่ง Ploi’s Voyage เป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่ บ้านและสวน Explorers Club และ Seiko Thailand ชักชวนนักดำน้ำทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ของเมืองไทย 10 ชีวิต มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์จากการสำรวจท้องทะเลลึกในอีกมุมมอง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก และชวนชาว Explorers ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพลังขับเคลื่อนเล็ก ๆ ไปพร้อมกับพวกเขาอีกแรง ในการปกป้องรักษาแนวปะการังใต้ผืนทะเลให้ยังคงงดงามและน่าค้นหาต่อไปหลังจากนี้
พบกับชุดภาพถ่ายและบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของนักท่องโลกใต้น้ำทั้ง 10 คน ได้ทาง Facebook: บ้านและสวน Explorers Club และ National Geographic Thailand ตลอด 10 สัปดาห์ต่อเนื่องนับจากนี้
[ EXPLORER ]
พลอย
ชวนคุย: มิ้ง, เฟี้ยต
ถ่ายภาพพลอย: จูน
ภาพถ่ายทะเลจากเพจ Ploi’s Voyage
ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ: บึงตะโก้