นับตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม เปิดให้บริการโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ – รังสิต และบางซื่อ – ตลิ่งชัน มีผู้ใช้บริการจำนวนมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ การรถไฟฯ จึงได้เปิดให้บริการขบวนรถดีเซลรางชานเมือง หรือขบวน รถไฟฟีดเดอร์ (Feeder) ในเส้นทางสายใต้ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางกับเส้นทางรถไฟฟ้า และระบบคมนาคมขนส่งอื่น ในพื้นที่ปริมณฑลถึงกรุงเทพฯ
รถไฟฟีดเดอร์ เป็นขบวนรถระยะสั้น (ไป-กลับ) มีเส้นทางระหว่างสถานีธนบุรี-ชุมทางตลิ่งชัน-นครปฐม (สายใต้) เปิดให้บริการ 20 ขบวนต่อวัน สามารถเดินทางเชื่อมต่อรถไฟชานเมืองสายสีแดงที่สถานีชุมทางตลิ่งชัน และเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ป้ายหยุดรถไฟจรัญสนิทวงศ์ รวมทั้งระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก ประหยัด และปลอดภัย โดยกำหนดอัตราค่าโดยสารพิเศษสำหรับผู้โดยสารกรณีขึ้น-ลงที่สถานีชุมทางตลิ่งชัน เพื่อเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟชานเมืองสายสีแดง คิดอัตราค่าโดยสารลดลงจากปกติร้อยละ 50 เช่น เดินทางจากสถานีนครปฐม-ชุมทางตลิ่งชัน คิดอัตราค่าโดยสาร 20 จากราคาเดิม 40 บาท หรือเดินทางจากสถานีธนบุรี-ชุมทางตลิ่งชัน อัตราค่าโดยสาร 10 บาท จากราคาเดิม 20 บาท
โดยขบวนรถไฟฟีดเดอร์ยังเปิดให้บริการตลอดทั้งวันในทุก ๆ วัน โดยรถจะออกจากสถานีธนบุรีรอบแรกเวลา 04.45 น. และรอบสุดท้ายเวลา 19.20 น. ส่วนเที่ยวแรกจากสถานีนครปฐมเปิดให้บริการในเวลา 05.00 น. และรอบสุดท้ายเวลา 20.40 น. เรียกว่าสามารถนั่งรถไฟ ไป – กลับ ได้ตลอดตามวันและเวลาที่สะดวก โดยสามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดงจากสถานีตลิ่งชันไปยังสถานีกลางบางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง (ท่าอากาศยานดอนเมือง) รังสิต หรือการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน คือไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมืองก็สามารถโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงเพื่อมาที่สถานีตลิ่งชัน แล้วต่อขบวนรถไฟฟีดเดอร์ได้ทั้งวันเช่นกัน
ด้วยการเชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกสบายนี้เอง พวกเราจึงปักหมุด One Day Trip วันนี้ไปที่จังหวัดนครปฐม อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่มีของดีของเด็ดให้เราตามไปค้นหามากมาย โดยวางจุดหมายหลักของทริปไปที่วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เพราะสามารถเดินไปจากสถานีนครปฐมได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น
การเดินทางในครั้งนี้พิเศษมากกว่าครั้งอื่น ๆ เพราะเราเดินทางด้วยขบวนรถไฟฟีดเดอร์ ซึ่งสะดวกมากเพราะออฟฟิศอมรินทร์อยู่ใกล้สถานีบางบำหรุ พวกเราออกเดินทางกันในช่วงสาย โดยขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดงจากสถานีบางบำหรุ มาลงสถานีชุมทางตลิ่งชัน แล้วเปลี่ยนขบวนรถไฟฟีดเดอร์ที่นี่ เราใช้เวลานั่งขบวนรถไฟฟีดเดอร์ต่อไปอีกไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงสถานีนครปฐม
จุดหมายแรกพวกเราแวะกินมื้อเที่ยงกับเมนูข้าวมันไก่ และข้าวหมูแดงหมูกรอบสุดเด็ดที่ร้าน ตั้งฮะเส็ง ก่อนแวะไปหลบอากาศร้อน นั่งชิลที่คาเฟ่เปิดใหม่บนถนนราชมรรคา จะบอกว่าเปิดใหม่เลยก็คงไม่ใช่ เพราะ ‘Carpe Diem Society’ นั้นเปิดมานานหลายปีแล้วแถมขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยทั้งเมนูกาแฟและเบเกอรี่ เพียงแต่พวกเขาเพิ่งจะขยับขยายและย้ายร้านมาตั้งอยู่ที่นี่ได้ราว ๆ สามเดือนเท่านั้น
หลบร้อนจากคาเฟ่กันสบายใจแล้ว จากนั้นจึงออกเดินทางต่อไปยังวัดพระปฐมเจดีย์ฯ อีกครา ระหว่างนี้ตลาดองค์พระปฐมเจดีย์ หรือที่คนในพื้นที่เรียกกันว่า ‘โต้รุ่งองค์พระ’ ยังเป็นช่วงที่พ่อค้าแม่ขายกำลังตั้งร้านกันอย่างขะมักเขม้น
พวกเราจึงชวนกันไปเดินวนรอบองค์พระปฐมเจดีย์ เพื่อเก็บภาพความงดงามของศาสนสถานที่ชาวพุทธและชาวนครปฐมเคารพสักการะ ระหว่างรอให้ร้านรวงต่าง ๆ พร้อมเปิดบริการ ซึ่งโต้รุ่งองค์พระนั้นเริ่มเปิดขายจริง ๆ ในเวลา 5 โมงเย็นเป็นต้นไป ก่อนกลับพวกเราเลยได้แวะซื้อของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือ แล้วจึงเดินกลับไปซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีนครปฐมเพื่อกลับกรุงเทพฯ เป็นอันจบทริป
ใครอยากตามพวกเราไปนครปฐมด้วยรถไฟแบบนี้ รายละเอียดของการเดินทาง ดูได้ที่นี่เลย!
EXPLORERS: ต้น, หมวย, มะเหมี่ยว, คิม, ปาล์ม
PHOTOGRAPHER: ศุภกร ศรีสกุล