ติดตามสาวไทยนามว่า ‘ตอง’ อดีตกองบรรณาธิการนิตยสาร room ที่ย้ายไปอยู่อเมริกา ขับรถตู้ Escape Campervans สีฉูดฉาดสดใสไปปีนผาและพาไปดูใบไม้เปลี่ยนสี จากนครนิวยอร์ก ถึงนิวแฮมป์เชียร์ ภายหลังมีการผ่อนปรนให้ประชานสามารถเดินทางข้ามรัฐได้อีกครั้ง หลังจากปิดมานานจากสถานการณ์โควิด-19
แม้จะไม่มีแสงแดดและท้องฟ้าสีฟ้าสดใส แต่ในวันนั้น Kancamagus Highway ในเงาหมอกก็ยังคงมีความงามเฉพาะตัว ระหว่างทางยังมีจุดสำหรับจอดพักชมวิวเป็นระยะ บางจุดเปิดให้คนเข้ามาใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจระหว่างวันหรือตั้งแคมป์ค้างคืน
จุดหมายของเราคือ Rumney Rattlesnake Campground ระหว่างนั้นเราไปกันที่ Birchtoft trail ซึ่งเป็นเส้นทางเดินง่าย ๆ จาก campground ก่อนจะไปบรรจบกับเส้นทางอื่นๆเพื่อขึ้นสู่ยอดเขาต่อไป
ระหว่างทางมีกองหินที่ต้องปีนป่ายลงไปด้วยความระมัดระวัง บางจุดเป็นหินก้อนใหญ่ที่มีความชันมากจนเราต้องเก็บอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นลงกระเป๋าเพื่อใช้มือช่วยในการปีน วิวจาก Elephant rock มองลงไปเห็นทางรถไฟสาย Conway Scenic Railroad ทางซ้ายของถนน และเห็นรถของเราที่จอดไว้ด้านล่างอยู่ลิบๆอีกด้วย
Rumney Rattlesnake Campground
ช่วงเวลากลางดึกที่ Rumney Rattlesnake Campground เมื่อเมฆฝนหายไปเปิดให้เห็นดาวอย่างชัดเจน คนที่มาใช้ campground แห่งนี้ส่วนมากจะเป็นนักปีนผา ภูเขาที่เห็นด้านหลังคือ Rattlesnake mountain หรือเป็นที่รู้จักในนาม Rumney Climbing area ที่เพียงเดินข้ามถนนจากที่ตั้งแคมป์ไปก็สามารถปีนผาได้แล้ว
ในตอนเช้าเราเก็บภาพ campervan ที่จะอยู่กับเราไปตลอดในอีกสิบวันข้างหน้า Escape Campervans มีชื่อเสียงในด้านการทำสีรถให้มีสีฉูดฉาดดึงดูดสายตา และ campervan สีสดใสของเรานั้นมีชื่อว่า Peace Train จากนั้นเราเดินเลียบ Baker River ที่อยู่ด้านข้าง campground เพื่อจะข้ามถนนไปยังจุดจอดรถหลักของ Rumney
Sport climbing
การปีนผาที่น่าตื่นเต้น
การปีน sport climbing หรือ lead climbing (คนกลางและคนขวาสุดจากภาพ) คือการปีนผาที่ผู้ปีนคนแรกจะปีนขึ้นไปพร้อมเชือกและอุปกรณ์เพื่อยึดกับ bolts ที่ติดตั้งไว้แล้วเป็นระยะบนเส้นทางนั้นๆ ผู้ปีนจะต้องคล้องเชือกกับอุปกรณ์ป้องกันในขณะที่ปีนสูงขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อความปลอดภัย เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะทำการผูก anchor ก่อนจะโรยตัวกลับลงมา ให้นักปีนผาคนอื่นสามารถปีนตามขึ้นไปได้ง่ายและปลอดภัย (top rope climbing – คนซ้ายสุดจากภาพ)
อีกวันของการเดินเท้าไปสำรวจธรรมชาติ
ด้านหลังของ Hancock Campground มีแม่น้ำไหลผ่าน ชื่อว่า East Branch Pemigewasset River ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอีกหลายสายในบริเวณ White Mountain แห่งนี้ เราต้องแวะพักริมน้ำกินขนมเติมพลังงานก่อนจะต้องเดินยาวอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง
ปริมาณน้ำในช่องแคบ Flume Gorge ยังมีอยู่มากแม้จะอยู่ในฤดูใบไม้ร่วง เราเดินบนทางเดินไม้ที่ทำไว้อย่างดีบนแม่น้ำที่ขนาบไปด้วยช่องเขาสูง บนหน้าผามีความชื้นมากกว่าปกติทำให้มีต้นไม้และมอสเติบโตเขียวอยู่ตลอดปี ความอลังการของธรรมชาติทำให้เราทึ่ง แต่ก็ไม่น้อยไปกว่าความพยายามของมนุษย์ที่เนรมิตสถานที่แบบนี้ให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายและยังรักษาสภาพแวดล้อมไว้ได้อย่างดี เสียงน้ำตกที่ไหลผ่านช่องแคบช่วยเติมเต็มให้ภาพที่เห็นสมบูรณ์สวยงามจับใจ จากจุดนี้เราจะต้องเดินบนสะพานไม้เลียบหน้าผาขึ้นไปถึงด้านบนของน้ำตก
หลังจากผ่านน้ำตกชั้นบนมาแล้ว เรากลับมาสู่ทางเดินในป่าท่ามกลางต้นไม้สองข้างทางที่กำลังเปลี่ยนสี เราเดินชมธรรมชาติข้างทางแบบสบาย ๆ ใบไม้สีเหลืองทองปูพรมตั้งแต่บนพื้นจนถึงยอดไม้ทำให้การเดินที่เหลือเพลิดเพลินไม่น้อยกว่าช่วงแรกเลย
วันนี้เรากลับไปที่ campground และใช้เวลาช่วงเย็นรอบกองไฟอุ่น ๆ ทำอาหารง่าย ๆ เมื่อพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าไปเราก็อยู่ในโลกที่มืดสนิทมีแสงดาวเล็กน้อยและเสียงแม่น้ำอยู่ไกล ๆ ฝนปรอย ๆ ตกลงมาเป็นสัญญานให้เราดับกองไฟและเข้านอน
แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องเข้ามาในรถไม่สามารถทำให้เราลุกออกจากที่นอนได้ เราตั้งใจนอนตื่นสายเป็นรางวัลแก่การปีนเขาอันยาวนานเมื่อวาน วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปอีกทั้งยังเป็นวันสุดท้ายที่ campground แห่งนี้จะปิดลงในฤดูหนาว แล้วค่อยเปิดรับ campers อีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า
[ EXPLORERS ]
ตอง – ตู๋