Type and press Enter.

เจษฎา เทคนิค มิวเซียม กับก้าวใหม่สู่พิพิธภัณฑ์รถโบราณระดับโลก

เจษฎา เทคนิค มิวเซียม กับก้าวใหม่สู่พิพิธภัณฑ์รถโบราณระดับโลก

พิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม จากเดิมที่เป็นโรงจอดรถโปร่ง ๆ ขนาดใหญ่ มีรถโบราณจำนวนนับร้อย ๆ คันทั้งมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์แปลกตาหาชมยาก จอดเรียงรายกันอยู่แบบแน่นขนัด ตอนนี้กำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ไปสู่การเป็นพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยการออกแบบมาอย่างดีบนเนื้อที่กว้างใหญ่

พวกเราบ้านและสวน Explorers Club รู้สึกดีใจและถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ (คุณเติ้ง) รองประธานมูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม ได้อนุญาตให้เราเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม ก่อนเปิดเป็นทางการก่อนใคร พร้อมทั้งได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมงานเบื้องหลังผู้ร่วมก่อสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของวงการพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทย

เจษฎา เทคนิค มิวเซียม กับก้าวใหม่สู่พิพิธภัณฑ์รถโบราณระดับโลก
อาคารภายนอกสวยงามสะอาดตา

พิพิธภัณฑ์จากความบังเอิญ

ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ (คุณเติ้ง) ได้เล่าว่าจริง ๆ แล้วพิพิธภัณฑ์เจษฎา เทคนิค มิวเซียม นี้เกิดขึ้นจากความบังเอิญเมื่อ ประมาณอายุ 23 – 24 สมัยไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ตอนนั้นจำวันเปิดเทอมคลาดเคลื่อนไป 10 กว่าวันเลยทำให้ตัวเองและครอบครัวเดินทางไปถึงก่อนกำหนด คุณเติ้งเลยแก้เก้อด้วยการชวนครอบครัวเดินทางไปดูงานนิทรรศการรถโบราณ โดยเฉพาะรถไมโครคาร์ที่จัดขึ้นที่เยอรมันพอดี ในงานนั้นมีชาวต่างชาติคนหนึ่งนำรถ Messerschmitt ที่สร้างขึ้นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 มาขาย คุณเติ้งก็เลยพูดเปรย ๆ กับคุณพ่อว่าไปว่าอยากซื้อรถคันนี้กลับบ้าน เพราะมันหายากอย่างน้อยถึงไม่ได้เอาไว้ใช้จริงก็เอามาไว้บ้านเราสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวเพื่อเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้มาชมกัน

สิ่งที่พูดกับคุณพ่อ และเหตุการณ์ในครั้งนั้นถึงแม้จะซื้อรถมาเพียงคันเดียวแต่ก็เป็นการจุดประกายอะไรบางอย่าง และเริ่มเก็บสะสมรถมาจนถึงปัจจุบัน จนในที่สุดก็เกิดเป็นพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม และรถ Messerschmitt KR200 ก็ถือได้ว่าเป็นรถคันแรกของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

คุณเติ้ง กับ Messerschmitt KR200 รถคันแรก ที่เป็นปฐมบทของ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม  ภาพด้านหลังนั้นคือพิพิธภัณฑ์หลังเก่า ที่กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว
คุณเติ้ง กับ Messerschmitt KR200 รถคันแรก ที่เป็นปฐมบทของ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม ส่วนภาพด้านหลังนั้นคือพิพิธภัณฑ์หลังเก่า ที่กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว

ไมโครคาร์

ถึงเจษฎา เทคนิค มิวเซียม จะมีรถสะสมมากอยู่ก็จริง แต่สิ่งที่ถือได้ว่าโดดเด่นที่สุดของที่นี่ก็คือ รถไมโครคาร์ ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้มาประมาณ 80 – 90 ปีมาแล้ว ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง เหล็กจำนวนมากมายมหาศาลหมดไปกับการสร้างเครื่องบิน รถถัง และอาวุธต่าง ๆ จึงส่งผลให้สภาวะหลังสงคราม ‘เหล็ก’ ที่ถือว่าเป็นวัสดุหลักในการสร้างยานพาหนะในยุคนั้นกลายเป็นของหายาก จึงทำให้รถที่ถูกผลิตมาในช่วงเวลานั้นมีขนาดเล็ก แต่อย่างไรก็ตามบรรดารถขนาดเล็กเหล่านั้นก็ถูกใช้กันอย่างจริงจัง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสังคมอดีต

โรงงาน Messerschmitt เองที่เคยผลิตเครื่องบินรบที่ใช้ในสงครามมาก่อน ภายหลังเยอรมันแพ้สงครามได้ถูกฝ่ายสัมพันธมิตรห้ามผลิตเครื่องบินรบอีก จึงทำให้ Messerschmitt หันมาผลิตรถไมโครคาร์ขึ้น เหตุผลส่วนหนึ่งก็คือเพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่บอบช้ำจากภาวะสงคราม

หากเราลองคิดกันเล่น ๆ ดู จริง ๆ แล้วรถแบบ Steinwinter Junior 50 อย่างสองคันนี้อาจจะเหมาะกับบ้านเราในยุคปัจจุบันนี้ก็ได้ เล็ก ประหยัด และคล่องตัวกับสภาพถนนปัจจุบัน  บางทีก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าเราจะเอารถแรง ๆ ไปทำไมให้กินน้ำมัน ในเมื่อรถติดค่อย ๆ ขยับได้ทีละนิดกันตั้งแต่ในซอยบ้าน
หากเราลองคิดกันเล่น ๆ ดู จริง ๆ แล้วรถแบบ Steinwinter Junior 50 อย่างสองคันนี้อาจจะเหมาะกับบ้านเราในยุคปัจจุบันนี้ก็ได้ เล็ก ประหยัด และคล่องตัวกับสภาพถนนปัจจุบัน บางทีก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าเราจะเอารถแรง ๆ ไปทำไมให้กินน้ำมัน ในเมื่อรถติดค่อย ๆ ขยับได้ทีละนิดกันตั้งแต่ในซอยบ้าน
Bond Bug จากอังกฤษ ยุค 70 (2 คันจากขาวมือของภาพ สีส้ม และขาว)
Bond Bug จากอังกฤษ ยุค 70 (2 คันจากขาวมือของภาพ สีส้ม และขาว)
รถทั้ง 52 คันแรกที่ถูกย้ายเข้ามาที่อาคารใหม่แห่งนี้ ยังสามารถขับขี่ได้ทุกคัน รวมถึง Renault 4CV คันนี้ด้วย  และดูเหมือนว่าคันนี้จะถูกใจบาสมากที่สุด
รถทั้ง 52 คันแรกที่ถูกย้ายเข้ามาที่อาคารใหม่แห่งนี้ ยังสามารถขับขี่ได้ทุกคัน รวมถึง Renault 4CV คันนี้ด้วย และดูเหมือนว่าคันนี้จะถูกใจบาสมากที่สุด
BMW Isetta งามหยด หมดจรดทั้งภายนอกและภายใน ขนาดกำลังดี ดูไปดูมาก็เหมาะกับบ้านเราเหมือนกัน
BMW Isetta งามหยด หมดจรดทั้งภายนอกและภายใน ขนาดกำลังดี ดูไปดูมาก็เหมาะกับบ้านเราเหมือนกัน
BMW Isetta 300 ปี 1955 ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากตู้เย็น สังเกตได้จากลักษณะการเปิดของประตูด้านหน้า และหากเกิดอุบัติเหตุก็ไม่ต้องกังวลไป ยังมีประตูด้านหลังอีกบานเอาไว้ออกยามฉุกเฉิน
BMW Isetta 300 ปี 1955 ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากตู้เย็น สังเกตได้จากลักษณะการเปิดของประตูด้านหน้า และหากเกิดอุบัติเหตุก็ไม่ต้องกังวลไป ยังมีประตูด้านหลังอีกบานเอาไว้ออกยามฉุกเฉิน

เปิดเอาฤกษ์อย่างบังเอิญ

เมื่อวันที่ 23 -28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางพิพิธภัณฑ์ได้ทำการย้ายรถเข้าอาคารใหม่เป็นจำนวน 52 คันเพื่อถือเป็นโอกาสในการเริ่มต้นของการเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ โดยความตั้งใจแรกคือนำรถ 50 คันเข้ามาก่อน แต่คุณคุณอภิสิทธ์ ทีปรึกษา ให้ทีมงานสำรองไว้อีก 2 คัน เผื่ออาจมีบางคันที่เสียขับไม่ได้กลัวจะไม่ครบ 50 คันตามที่ตั้งใจ แต่บังเอิญว่ารถขับได้ทั้งหมดทุกคันรวมถึงรถที่ไว้สำรองอีก 2 คัน จึงเป็นการย้ายรถทั้งหมด 52 คันไปโดยปริยาย และการย้ายรถเข้าอาคารใหม่เมื่อวัน 23 – 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ก็เป็นการบังเอิญสื่อสารวันผิดของทีมงานเช่นกัน!!! ทั้ง ๆ ที่ความตั้งใจแรกจะเริ่มย้ายในวันที่ 2 – 10 มีนาคม นี่ก็คือเรื่องบังเอิญอีกเรื่องหนึ่งสำหรับที่นี่

Checker Aerobus สุดหล่อ
Checker Aerobus สุดหล่อ
ครอบครัว Checker Aerobus
ครอบครัว Checker Aerobus
คุณเติ้งกำลังเล่าประวัติของที่นี่ให้พวกเราได้ฟัง กับรถ Checker Aerobus ปี 1962 จากอเมริกา สามารถนั่งได้ 15 คน
คุณเติ้งกำลังเล่าประวัติของที่นี่ให้พวกเราได้ฟัง กับรถ Checker Aerobus ปี 1962 จากอเมริกา สามารถนั่งได้ 15 คน
ให้สังเกตที่โลโก้ของ พิพิธภัณฑ์ รูปร่างของ Messerschmitt KR200 รถคันแรกของที่นี่ ทำหน้าที่แทนตัว A และคำว่า TECHNIK สะกดแบบภาษาเยอรมัน เพื่อสื่อถึงเรื่องราวของการเริ่มต้นที่นี่
ให้สังเกตที่โลโก้ของ พิพิธภัณฑ์ รูปร่างของ Messerschmitt KR200 รถคันแรกของที่นี่ ทำหน้าที่แทนตัว A และคำว่า TECHNIK สะกดแบบภาษาเยอรมัน เพื่อสื่อถึงเรื่องราวของการเริ่มต้นที่นี่

ออกแบบบนฐานข้อมูล

คุณนิธิรุจน์ วีระจารุพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการจากบริษัท Process Architect & Planner Co.Ltd ผู้ออกแบบพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม เล่าให้พวกเราฟังว่า “โปรเจคนี้เริ่มต้นคุยกันตั้งแต่ประมาณปี 54 ในตอนนั้นมีการเก็บข้อมูลเยอะมาก เริ่มตั้งแต่ความต้องการของคุณเติ้งก่อน (ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์) ว่ามีความต้องการให้พิพิธภัณฑ์ออกมาในรูปแบบไหน แน่นอนว่ารถจำนวนมหาศาลนั้นต้องได้รับการจัดสรรและถูกจัดหมวดหมู่เป็นอย่างดี”

“เราต้องแยกรถออกเป็นซีรี่ย์มากมาย ในส่วนนี้ก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อให้การจัดวางออกมาลงตัวมากที่สุด และต้องคำนึงถึงจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย เรื่องการจัดสรรพื้นที่เลยต้องสำคัญเป็นอย่างมาก พื้นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เองก็เป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดของการวางผังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอาคารหลัก ของที่จัดแสดง หรือพื้นที่ภายนอกทั้งหมดต้องสอดคล้องกัน”

“เราได้เดินทางไปดู Speyer Technik Museum ที่เยอรมัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ต้นแบบที่ใกล้เคียงกับที่นี่มาก เพราะมียานพาหนะหลายประเภทนอกเหนือจากรถยนต์ที่ถูกจัดแสดงแบบผสมกัน แต่ที่นั่นยังคงมีกลิ่นอายของการเป็นพิพิธภัณฑ์ดั้งเดิมอยู่ การใช้สื่อใหม่ ๆ เข้ามาเล่าเรื่องยังไม่ค่อยมีให้เห็นมากนักสำหรับที่นี่ เราก็เลยต้องเดินทางไปเก็บข้อมูลจากที่อื่นด้วย เราได้ไปที่ Lucerne ที่นั้นมีความเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ มีการจัดหมวดหมู่ของการโชว์ของอย่างดี มีเทคโนโลยีและการใช้สื่อทันสมัยเป็นตัวช่วยในการเล่าเรื่อง”

“สุดท้ายเราต้องเอาพิพิธภัณฑ์สองที่นี้มาผสมกันให้ได้ ด้วยการเริ่มเอาข้อมูลทุกอย่างมาที่มี ตั้งแต่ประเภทของยานพาหนะในพิพิธภัณฑ์และจำนวนที่ต้องการจัดแสดง พื้นที่ตั้ง บวกกับความต้องการของคุณเติ้งมาวิเคราะห์ และคุยกันจันตกผลึกออกมาเป็นแบบในปี 60 ถือว่าเป็นงานที่ทำการบ้านเยอะมากพอสมควร”

คุณนิธิรุจน์ วีระจารุพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการจากบริษัท Process Architect & Planner Co.Ltd ผู้ออกแบบพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม กำลังอธิบายถึงจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ ที่ต้องทำการเก็บข้อมูลหลายด้านมาก ๆ
คุณนิธิรุจน์ วีระจารุพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการจากบริษัท Process Architect & Planner Co.Ltd ผู้ออกแบบพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม กำลังอธิบายถึงจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ ที่ต้องทำการเก็บข้อมูลหลายด้านมาก ๆ

“โครงสร้างของอาคารหลักได้แรงบรรดาลใจมาจากปีกเครื่องบิน และรูปทรงของเรือมาผสมกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นดีไซน์มันต้องสอดคล้องไปกับฟังก์ชันของการจัดแสดงข้างในด้วย สิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วยก็คือประสบการณ์ของคนที่เข้ามาชม ฝังทางเดินข้างในก็ต้องถูกจัดสรรเป็นอย่างดี เพื่อความปลอดภัยทั้งคนทั้งของ และที่ขาดไม่ได้เลยคือการออกแบบภายใต้แนวคิดของ Universal Design เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างสะดวกในทุกพื้นที่”

โครงสร้างของอาคารได้รับแรงบันดาลใจมาจากปีกของเครื่องบิน และรูปร่างของเรือ ที่เป็นของจัดแสดงอีกประเภทของที่นี่
โครงสร้างของอาคารได้รับแรงบันดาลใจมาจากปีกของเครื่องบิน และรูปร่างของเรือ ที่เป็นของจัดแสดงอีกประเภทของที่นี่

ก่อสร้างอย่างสมบูรณ์

คุณณรงค์ชัย อิงควรเศรษฐ์ Managing Director จากบริษัท สุเบญจา จำกัด ผู้ควบคุมงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม กล่าวว่า “ทันทีที่เห็นแบบก็รู้สึกว่าอยากเป็นคนทำโปรเจคนี้มาก การก่อสร้างในพื้นที่ขนาดหมื่นกว่าตารางเมตร ซึ่งเปรียบเทียบได้เท่ากับคอนโดย่อม ๆ โครงสร้างของอาคารขนาดใหญ่ ที่เป็นคอนกรีตและเหล็กในแนวระนาบคือสิ่งที่ท้ายทายสำหรับงานนี้ ในฐานะผู้ก่อสร้างเราจึงต้องพิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นให้สมบรูณ์ที่สุด ทุกจุดวัสดุต้องมีคุณภาพเพราะหลัก ๆ แล้วมันคือเรื่องของความปลอดภัยทั้งหมด ยิ่งอาคารมีขนาดใหญ่ยิ่งต้องแข็งแรง”

“เราผ่านการพูดคุยกันตลอดระหว่างสถาปนิก ผู้ก่อสร้างและทุกฝ่าย เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ที่สุด หากถามว่าส่วนไหนยากที่สุด ต้องบอกเลยว่าทุกส่วน แต่เมื่อมันออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่ตั้งใจแล้ว ความภูมิใจ มันคือที่สุดของคนทำงาน”

คุณณรงค์ชัย อิงควรเศรษฐ์ Managing Director จากบริษัท สุเบญจา จำกัด ผู้ควบคุมงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม บอกกับพวกเราว่าภูมิใจกับงานชิ้นนี้มาก
คุณณรงค์ชัย อิงควรเศรษฐ์ Managing Director จากบริษัท สุเบญจา จำกัด ผู้ควบคุมงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม บอกกับพวกเราว่าภูมิใจกับงานชิ้นนี้มาก
โครงสร้างชั้นสองของอาคารที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ เป็นเหล็กเกือบทั้งหมด ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายการก่อสร้างมาก
โครงสร้างชั้นสองของอาคารที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ เป็นเหล็กเกือบทั้งหมด ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายการก่อสร้างมาก

พิพิธภัณฑ์Worldclass

คุณอภิสิทธ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ มูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม บอกกับพวกเราว่า โจทย์ ก็คือเราต้องเอาสิ่งที่เรามีทั้งหมดออกมาสื่อสารให้กับคนทั่วไปที่มาที่นี่เข้าใจ ซึ่งเราได้เตรียมไว้แล้ว นอกเหนือจากยานพาหนะต่าง ๆ แล้วก็ยังมีของสะสมของคุณเจษฎา และคุณ เติ้งอีกที่เป็นของหาหาชมที่ไหนไม่ได้แล้วอีกจำนวนหนึ่งมาจัดแสดง

ในส่วนแรกน่าจะเปิดเต็มรูปแบบประมาณกลางปี 67 แต่เรามีแผนว่าประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้เราอาจจะเปิดให้ชมกันก่อนช่วงหนึ่ง ยาพาหนะหลายประเภทจะถูกจัดแสดงอย่างไร ก็อยากให้รอชมกันรับรองว่าน่าสนใจแน่นอน สิ่งที่เพิ่มเติมในส่วนของภายนอกเรายังนำสถาปัตยกรรมล้านนาเข้ามาผสมผสานกับสมัยใหม่ด้วย ด้วยของที่เรามี กับทีมงานออกแบบและก่อสร้างระดับประเทศ เราสามารถบอกได้เลยว่าที่นี่เป็น World Class Museum Destination แน่นอน

คุณอภิสิทธ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ มูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม บอกว่าที่นี่มีของที่น่าสนใจมากมายเต็มไปหมด และคาดว่า พฤศจิกายนนี้ อาจจะเปิดให้เข้ามาชมกันก่อนในบางส่วน เพื่อให้หายคิดถึงกันก่อน
คุณอภิสิทธ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ มูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม บอกว่าที่นี่มีของที่น่าสนใจมากมายเต็มไปหมด และคาดว่า พฤศจิกายนนี้ อาจจะเปิดให้เข้ามาชมกันก่อนในบางส่วน เพื่อให้หายคิดถึงกันก่อน

สร้างประสบการณ์

นี่เป็นเพียงแค่ 10 –15% เท่านั้นของพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม แห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ยังมีอะไรที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย ที่นี่คุณจะได้เห็นทั้งรถโบราณที่ใช้งานได้จริงสวยกริ้บทั้งภายในและภายนอก รถที่ใช้งานไม่ได้แล้วแต่สภาพดี ไปจนถึงรถโบราณในสภาพซากก่อนการบูรณะ การแสดงสภาพรถยนต์ทั้งสามสถานะนี้ คือความตั้งใจที่อยากสร้างประสบการณ์ของการเป็นสถานที่แห่งการอนุรักษ์ให้กับทุกคนได้สัมผัสกัน

นอกเหนือจากยานพาหนะต่าง ๆ ที่นำมาจัดแสดงแล้ว พื้นที่บางส่วนยังได้นำเครื่องยนต์ขนาดใหญ่อย่างเช่นเครื่องยนต์เครื่องบิน และส่วนประกอบอื่น ๆ ของยานพาหนะต่าง ๆ มาตกแต่งเป็นงาน Installation Art ไว้ด้วย อย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจกันอีกบ้าง ซึ่งทางทีมงานยังไม่ขอบอกรายละเอียด แต่แอบกระซิปมาว่า ว้าวแน่นอน พวกเราก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป

รอติดตามกันต่อไปว่า จะมีสิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้าง
Peel Trident รถที่หน้าตาเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนคันนี้ ถูกผลิตมาตั้งแต่ปี 1966 โดย Peel Engineering Company บริษัทที่ผลิตเรือยอร์ชมาก่อน
Citroen HY 3 คันด้านหลังนั้นผลิตตั้งแต่ ปี 1947 จนถึง ปี 1981 ที่นี่มีจำนวน 6 คัน รูปทรงเหมาะกับทำเป็นแคมเปอร์คาร์มาก ๆ  และดูความสวยงามของโครงสร้างอาคารภายในที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ด้านซ้ายมือของภาพคือลิฟท์โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับทุกคน
Citroen HY 3 คันด้านหลังนั้นผลิตตั้งแต่ ปี 1947 จนถึง ปี 1981 ที่นี่มีจำนวน 6 คัน รูปทรงเหมาะกับทำเป็นแคมเปอร์คาร์มาก ๆ และดูความสวยงามของโครงสร้างอาคารภายในที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ด้านซ้ายมือของภาพคือลิฟท์โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับทุกคน
รถบัสสีแดงด้านหลังนั้นพวกเราเคยขึ้นไปชมเมืองฝั่งพระนครมาแล้ว
รถบัสสีแดงด้านหลังนั้นพวกเราเคยขึ้นไปชมเมืองฝั่งพระนครมาแล้ว

ถึงแม้ว่าหลายเรื่องราวของนี่มาจากความบังเอิญก็จริงอยู่ แต่การเกิดขึ้นของพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียมนี้ ก็มาจากเจตนารมณ์ผสมความตั้งใจล้วน ๆ ของคุณเติ้งและทีมงานทุกคนอย่างแน่นอน นอกเหนือจากความรู้ที่จะได้รับจากการได้มาชมพิพธภัณฑ์ที่นี่แล้ว ความรู้สึกที่เหมือนว่าได้ย้อนเวลาไปสัมผัสถึงอดีตผ่านยนตกรรมโบราณก็เป็นประสบการณ์ที่หายากและน่าประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

ขอบคุณ ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ รองประธานมูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม และทีมงานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่อำนวยความสะดวกสำหรับการถ่ายทอดเรื่องราวในครั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติม พิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม อยู่ในช่วงปรับปรุงและยังไม่เปิดให้บริการ ณ ขณะนี้ สามารถติดตามข่าวสาร และความคืบหน้าของพิพิธภัณฑ์ เจษฎา เทคนิค มิวเซียมได้ที่ https://www.facebook.com/jesadatechnikmuseumfanpage หรือสอบถาม โทร. 034-339-468

EXPLORERS : บาส, เฟี้ยต, ออโต้
AUTHOR : บดินทร์ บำบัดนรภัย
PHOTOGRAPHER : ณัฐวรรธน์ ไทยเสน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *