Type and press Enter.

 Chiang Rai Art City เปิดกรุสมบัติแห่งกาลเวลาที่เชียงราย เมืองแห่งศิลปะ ดนตรี และกาแฟ

เชียงราย

การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่สะท้อน “จิตวิญญาณของไทย” ผ่านทุนวัฒนธรรมที่ผสมผสานกับมรดกทางธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรมวิถีชุมชนของพื้นที่ในแบบ The Soul of Thailand Explorers Club ชวนออกเดินทางสู่ดินแดนเหนือสุดแห่งสยาม เที่ยวเชียงราย แบบลึกซึ้ง สัมผัสกรุสมบัติแห่งกาลเวลา

ว่ากันว่าการเดินทางคือการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เพราะเวลาเราเดินทาง เราได้เห็นสถาปัตยกรรม ได้ยินเสียงคนท้องถิ่น ได้ลิ้มรสอาหาร และได้สัมผัสบรรยากาศจริง ๆ สมองเลยเก็บข้อมูลแบบหลายมิติ มันเหมือนการจดโน้ตด้วยกล้ามเนื้อและอารมณ์ไปพร้อม ๆ กัน อีกอย่างการเดินทางมันเป็นเรื่องของความรู้สึก และความรู้สึกจะส่งผลให้เราจำช่วงเวลานั้น ๆ ได้ดี

เชียงรายในความทรงจำและความรู้สึกก็เป็นเช่นนั้น ถึงขั้นหลงรัก เชียงรายขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ ดนตรีและกาแฟ การเดินทางครั้งนี้จึงหนีไม่พ้นที่จะพาทุกคนไปเรียนรู้วิถีดังกล่าว ไปสัมผัสวิถีคนเมืองริมแม่น้ำโขง และดื่มด่ำกับชีวิตที่เนิบช้า เที่ยวเชียงราย เพื่อเข้าถึงจิตวิญญานความเป็นไทย

เที่ยวเชียงราย
คุณผกากานต์ รุ่งประชารัตน์ หรือ พี่แมว ผู้นำวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนดอยผาหมี มีวิวเขาเขียวๆเป็นฉากหลัง
ชาวอาข่ากำลังนั่งคัดเมล็ดกาแฟ

หมุดหมายแรก…ดอยผาหมี

ชุมชนบ้านผาหมี ชุมชนของคนบนดอยที่ส่วนใหญ่เป็นชาวอาข่า กลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพจากจีน ผ่านลาว พม่า ก่อนจะมาอยู่ทางเหนือของไทย คุณผกากานต์ รุ่งประชารัตน์ หรือ พี่แมว ผู้เป็นเจ้าของร้านกาแฟดอยผาหมีและเป็นผู้นำวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนดอยผาหมี บอกกับเราว่า 

“อยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิด และอยากทำให้กาแฟที่ดอยผาหมีเป็นที่รู้จัก” ความพยายามหาจุดแข็งที่มีอยู่ในชุมชนนำมาเป็นจุดขาย จึงเกิดเป็นกิจกรรมที่นำทุนทางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์อาข่ามานำเสนอเป็นกิจกรรมท่องเที่ยว โดยเริ่มจากกิจกรรมเดินป่า เพราะที่นี้มีวิวและเส้นทางที่สวยงาม หรือหากคุณได้มีเวลามาพักค้างคืนที่นี่ การได้ปลดปล่อยความเครียดไปกับธรรมชาติด้วยการนั่งจิบกาแฟแลหน้าผาที่ร้านกาแฟดอยผาหมี หรือการเดินเล่นในหมู่บ้านได้เห็นวิถีชาวอาข่าที่กำลังนั่งร่อนเมล็ดกาแฟอยู่หน้าบ้าน บ้างก็ร้องรำทำเพลง ซึ่งภาพเหล่านี้สามารถพบเห็นได้เป็นปกติเมื่อคุณเดินทางมายังที่ชุมชนบ้านผาหมี 

เที่ยวเชียงราย
พิธีโล้ชิงช้า
มื้อเย็นกับอาหารชาวอ่าข่า จากฝีมือของพี่หอม
ยำผัก รสชาตินัวๆ กินง่ายดีต่อสุขภาพ
ยำหน่อไม้

วันที่เราเดินทางมาถึงเป็นวันที่ทางชาวบ้านกำลังมีงานพิธีสำคัญคือพิธีโล้ชิงช้า เป็นเหมือนงานเทศกาลปีใหม่ของชุมชน และเป็นการฉลองความอุดมสมบูรณ์ของพืชผลทางการเกษตร และที่สำคัญงานนี้เป็นการแสดงออกถึงการให้เกียรติผู้หญิง เทศกาลนี้จัดขึ้นทุกปีในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน ถ้าคุณอยากมีประสบการณ์ในการร่วมกิจกรรมแบบนี้ วางแผนให้ดีปีหน้ายังทัน ในงานก็จะมีผู้หญิงมาโล้ชิงช้าให้ชม น่าหวาดเสียวซึ่งออกตัวไว้ก่อนเลยครับว่าไม่กล้าเล่น ในงานจะมีชาวบ้านแต่งตัวสวยๆ มาอวดกันเป็นสีสัน ถ่ายรูปกันเพลินเลย มีอาหารชนเผ่าไว้ต้อนรับนักเดินทางด้วย ที่ชอบเลยก็ยำผัก กับยำหน่อไม้ อันนี้ทีเด็ด

สวนแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง
สวนกาแฟดอยตุง

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงที่ดอยตุง

ถ้าคุณมาที่ชุมชนบ้านผาหมีแล้ว ยังไม่จุใจ ที่นี่ยังมีสถานที่ใกล้เคียงให้คุณเดินทางไปต่อ ที่โครงการพัฒนาดอยตุง ขับรถไปประมาณ 50 นาที มีร้านอาหารให้คุณได้สัมผัสรสชาติจากยอดดอย และที่สำคัญกาแฟที่นี่รสชาติดีมากจนได้รับการยอมรับจนทำให้ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ และการปลูกกาแฟที่ดอยตุงนี้ เป็นการปลูกเพื่อทดแทนการปลูกฝิ่นในอดีต 

การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อสมเด็จย่าเสด็จฯมาเยือนดอยตุงเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2530 และทรงตระหนักว่ารากเหง้าปัญหาของคนในพื้นที่ดอยตุงคือ ความยากจนและขาดโอกาสในการดำเนินชีวิต จึงทรงริเริ่มโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ตั้งแต่นั้นมาตราบจนถึงทุกวันนี้ และนี่แหละคืออีกสถานที่ที่คุณควรไปสัมผัสและสนับสนุน

ทักษาโหรา ตรวจดวงชะตา โดยพี่วัฒน์ – ยศภัทร ยกยิ่ง
ตรวจดวงชะตาเสร็จต้องมาทำเครื่องสักการะเพื่อนำไปบูชาพระธาตุ คุณมัชฌิมา ยกยิ่งหรือพี่หวาน
นำทำเครื่องสักการะ
อาหารสี่แผ่นดิน

สัมผัสชุมชนริมโขงที่เชียงแสน

วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน ถ้าคุณอยากเที่ยวเชียงแสนให้เข้าใจและลึกซึ้ง เราขอแนะนำให้คุณมาเริ่มต้นที่นี่ โดยจะมีคุณมัชฌิมา ยกยิ่งหรือพี่หวาน เป็นคนประสานงานและนำทำกิจกรรมของชุมชน ถ้าคุณเป็นสายมูคุณจะต้องชอบที่นี่เพราะเขามีกิจกรรมทักษาโหรา ตรวจดวงชะตา โดยพี่วัฒน์ – ยศภัทร ยกยิ่ง นักสื่อความหมายชุมชน ทำหน้าที่พ่อหมอประจำวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน เมื่อตรวจดวงชะตาเสร็จก็ไปทำเครื่องสักการะแล้วนั่งรถรางชมเมืองเก่า พร้อมนำเครื่องสักการะไปบูชาต่อองค์พระธาตุที่วัดเจดีย์หลวง จะบอกว่าที่เชียงแสนนี้ถ้าใครชอบวัดวาอารามจะหลงรักเลย เป็นเมืองที่มีวัดเยอะมาก ดังคำที่พูดว่า ชั่วไก่บินตกก็จะพบหนึ่งวัด หมายความว่า ความถี่และระยะห่างของวัดแค่ไก่บินตก เมื่อเราสนุกกับการนั่งรถรางชมเมืองแล้ว กลับมาที่เดิมจะได้กินอาหาร 4 แผ่นดิน เป็นอาหารล้านนาแท้ๆ 4 เชื้อชาติ จีน ไทย ลาว พม่า ซึ่งน่ากินทุกเมนู อย่างเช่นข้าวเหนียวเหลืองหน้าไก่หรือ อุ๊กไก่ จิ้มกินกับแกงไก่พม่า แล้วตามด้วยปลาบึกจากแม่น้ำโขงราดซอสมะขาม ตบท้ายด้วยเมนูจากจีน เห็ดเข็มทองชุบแป้งทอด ราดซอสหม่าล่า ทั้งหมดนี้ชุดละ 350 บาทเท่านั้น

สามเหลี่ยมทองคำ
ฝั่งตรงข้ามคือสปป.ลาว

มาถึงเชียงแสนทั้งที ถือโอกาสมาถ่ายภาพบริเวณสามเหลี่ยมทองคำสักหน่อย ที่นี่ในอดีตขึ้นชื่อในเรื่องยาเสพติด แต่ปัจจุบันนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ชมบรรยากาศริมฝั่งโขง และถ้ามีเวลาก็สามารถข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้นะ

เที่ยวเชียงราย

เชียงราย เมืองศิลปะและเสียง

เสร็จจากเชียงแสน เรามุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงราย และพลาดไม่ได้เลยที่จะมาเยี่ยมชมวัดร่องขุ่น ผลงานของอาจารย์เฉลิมชัย ตัววัดสีขาวสะอาดตัดกับท้องฟ้าเข้ม มาทุกครั้งก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพกลับไปทุกที วัดร่องขุ่นกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดไปเสียแล้ว และถ้าคุณเป็นไทย คุณเข้าฟรีครับ

หอนาฬิกาเชียงราย

ตกค่ำเดินชมเมือง เราออกเดินสำรวจเมืองยามค่ำ เพื่อสัมผัสเสน่ห์อีกมุมที่แตกต่าง โดยเฉพาะ
“หอนาฬิกาเชียงราย” ที่ทุกคืนจะมีการแสดงแสง สี เสียง ในเวลา 19.00 น., 20.00 น. และ 21.00 น. แต่ละรอบกินเวลาราว 10 นาที แสงไฟเปลี่ยนสีเคล้ากับทำนองดนตรีล้านนาร่วมสมัย สร้างบรรยากาศที่ทั้งงดงามและมีชีวิตชีวาน่าเสียดาย วันที่เราไป แสงไฟไม่ทำงาน มีเพียงเสียงดนตรีบรรเลงให้ได้ฟัง เห็นว่าเครื่องเพิ่งเสียไปหมาด ๆ แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะทำให้เรามีเหตุผลไว้กลับมาเยือนเชียงรายอีกครั้ง เพื่อรอชมการแสดงแสงสีที่สมบูรณ์แบบด้วยตาตัวเอง

เที่ยวเชียงราย
ไร่ชาที่สิงห์ปาร์ค
มุมนี้สำหรับชิมชาหลากหลายชนิด

สิงห์ปาร์คกับดอยดินแดง

เอาใจคอกาแฟกันไปแล้ว คราวนี้เอาใจสายชากันบ้าง ที่สิงห์ปาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรผสมผสาน โอบล้อมไปด้วยอ้อมกอดแห่งขุนเขา ทำให้อากาศเย็นสบายแม้นว่าจะเดินทางมาตอนสายๆก็ตาม เจ้าหน้าที่พาเราไปชมทะเลสาบและฝูงหงส์ สนุกกับการให้อาหารปลา ทะเลสาบนี้ขุดขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่กักเก็บไว้ใช้ในการเกษตร ขับรถช้าๆ ผ่านไร่ชาเขียว ๆ สนุกกับการถ่ายภาพ เหมือนชีวิตนี้ไม่เคยถ่ายภาพมาก่อน และใกล้กันเป็นจุดชิมชา ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะชิมชารสชาติและกลิ่นต่างๆได้จากที่นี่ พร้อมกับซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ได้ นอกจากนี้ยังมี เส้นทางเดินชมสวนดอกไม้และฟาร์มสัตว์เล็ก ให้หยุดพักหรือถ่ายภาพเชื่อมกับธรรมชาติ

หลังจากนั้น เราเดินทางไป ดอยดินแดง แดนศิลปะจากดิน ของ อาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ ช่างปั้นเครื่องปั้นดินเผาผู้มากประสบการณ์ อาจารย์สร้าง สตูดิโอดอยดินแดง มานานกว่า 37 ปีแล้ว

อาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ (ขวา)

การได้มาที่นี่เหมือนได้เดินเข้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางธรรมชาติ ทุกชิ้นงานตั้งอยู่บนชั้นวางที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ เราเห็นรายละเอียดของดินที่ถูกปั้นผ่านมือมนุษย์ ลายเส้นและร่องรอยที่เกิดจากการปั้นบอกเล่าเรื่องราวของเวลาและความตั้งใจ ทุกอย่างเหมือนมีชีวิต ผมใช้เวลาที่นี่ค่อนข้างนานพอสมควร เพราะงานปั้นของอาจารย์แต่ละใบนั้นมันงดงามจนถึงขั้นรักพี่เสียดายน้องจริงๆ 

เที่ยวเชียงราย

ที่นี่ไม่ใช่แค่การมาชมงานศิลปะ แต่เป็นที่ที่ทุกคนสามารถ ซื้อชิ้นงานกลับบ้านได้ ราคาที่จับต้องได้ทำให้ศิลปะไม่ไกลเกินเอื้อม ผมได้แก้วกาแฟมาหนึ่งใบจากสตูดิโอของอาจารย์ การจิบกาแฟจากแก้วใบนี้ กลายเป็นประสบการณ์ใหม่  เหมือนผมได้ดื่มศิลปะจากดอยดินแดงในทุกวัน กลิ่นกาแฟและความอบอุ่นของดินผสมกัน ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับผู้สร้างและแรงบันดาลใจเบื้องหลัง

บรรยากาศรอบสตูดิโอสงบ ลมพัดผ่านใบไม้ เสียงนกร้องเป็นจังหวะเบา ๆ ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาเหมือนช้าลง ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นพื้นที่ให้เราหยุดคิด สัมผัสความเรียบง่าย และจดจำศิลปะในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง

และนี่คือเส้นทางท่องเที่ยวเชียงราย ภายใต้แนวคิด Chiang Rai Art City เปิดกรุสมบัติแห่งกาลเวลาที่เชียงราย เมืองแห่งศิลปะ ดนตรี และกาแฟ ที่สะท้อนจิตวิญญานความเป็นไทย ในแบบ  The Soul of Thailand  ได้อย่างลึกซึ้ง

หากคุณกำลังมองหาการเดินทางที่อบอุ่น ฮีลใจ และอยากให้หัวใจได้พัก เชียงรายคือคำตอบ ทุกสิ่งที่คุณใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟจากดอยผาหมี ชาชั้นดีจากไร่สิงห์ปาร์ค หรือศิลปะจากดอยดินแดง ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนชุมชน และทำให้การเดินทางของคุณมีคุณค่ามากกว่าการชมวิวเพียงอย่างเดียว 

EXPLORERS: ตู่, บาส, ปุ๊กกี้, ติ๊ก, กิ๊บ, เจมส์, กำปั่น, อาร์ม
AUTHOR: ตู่-ไตรรัตน์ ทรงเผ่า
PHOTOGRAPHER: เจมส์-อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม